วันนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วครับว่า พี่ชายไปดูโอลิมปิก น้องสาวป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน!
สองเหตุผลข้างต้นถูกนำมาใช้เป็น“ข้ออ้าง” ของสองพี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คนของตระกูลชินวัตร ในการไม่มาฟังคำพิพากษาศาล
ในแง่ของความชอบธรรม แน่นอนไม่เหลืออีกแล้วสำหรับคนในตระกูลนี้ ตรรกะง่ายๆ คือ ถ้ามั่นใจว่าตัวเองไม่ผิด “จะหนีทำไม” !?
กรณีของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ มีความชัดเจนมากเลยว่า กระบวนการยุติธรรมสำหรับคดีจำนำข้าวนี้ เป็นไปตามขั้นตอนโดยละเอียดและเปิดทุกโอกาสให้แก่จำเลยในการจะใช้กลเม็ดเด็ดพรายทางกฎหมายต่างๆ ถ่วงเวลาให้สอบปากคำพยานกว่า 30 ปากเป็นระยะเวลาเฉพาะการสืบพยานจำเลยอย่างเดียวก็ล่วงเลยถึง 1 ปีเต็ม ตั้งแต่สิงหาคม 2559 ถึง สิงหาคม 2560
ถึงวันนี้คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ฝากบอกมา หลังจากเวลา 9 นาฬิกา 40 นาที โดยประมาณที่บรรยากาศหน้าศาลฎีกาฯเริ่มกระวนกระวายกันว่า ทำไมอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ยังมาไม่ถึง ทั้งที่แผนเดิมคือจะออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงกว่าๆ และถึงศาลฯก่อนเวลาเพื่อทักทายมวลชนที่จัดตั้งมา
หากใครไม่ได้ดูบรรยากาศสดๆ เมื่อวานผมจะบอกให้ครับว่า อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตแกนนำเสื้อแดง ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยหลายต่อหลายคนเดินทางไปที่ศาลฯ ด้วยความไม่รู้เลยว่าสุดท้ายยิ่งลักษณ์จะตลบหลังกลับด้วยแผนนี้ ปล่อยให้ท่านๆทั้งหลายต้องไปรับหน้ามวลชนกัน ทั้งที่ตัวจำเลยจริงคงรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ตัวเองจะไม่ได้มา
ถ้าเราจำได้วันที่ยิ่งลักษณ์ต้องไปให้ปากคำในวันก่อนๆ นั้นจะมีกลุ่มสส.อายุน้อยหน่อย กลุ่มสส.หญิงคนสนิทมาให้กำลังใจตลอด เมื่อวานนี้กลุ่มนี้แทบไม่มา เสมือนรู้กันก่อน แต่แกนนำทั้งหลายที่เสมือนว่า ตัวเองอยู่วงใน แต่ดันต้องมารอเก้อ ภาษาพูดเขาก็เรียกกันว่า “เงิบ” นั่นแหละครับ
แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้
ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า มูลความผิดก็ยังคงอยู่ และศาลก็ออกหมายจับเรียบร้อย พร้อมเลื่อนวันพิพากษาอีกครั้งเป็น 27 กันยายน 2560 โดยยิ่งลักษณ์ไม่ต้องมาก็ได้เราจะจับตาดูในวันนี้กันต่อไป
แต่กระนั้นก็ตามอีกคดีจำนำข้าวก็คือ การโกงระบายข้าวแบบจีทูจี หรือจีทูจีเก๊ จีทูจีปลอม จีทูจีลวงโลก ที่รัฐมนตรีพาณิชย์ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังคงต้องรอฟังคำพิพากษาในส่วนของตัวเองต่อไป
(ช่วงเวลาที่ผมเขียนคอลัมน์นี้คือช่วงที่ผลคำตัดสินยังไม่ออกมา จึงยังไม่ทราบว่า บุญทรงและพวกโดนอะไรอย่างไรบ้าง)
อย่างไรก็ตาม ผมได้ย่อยข้อสรุป#โกงจำนำข้าว เอาไว้เป็นข้อๆ ให้เข้าใจได้ง่าย และเพื่อกระจายขยายความ แก้ต่างคำอ้างเลื่อนลอยของยิ่งลักษณ์และทนายเพื่อไทยในแต่ละประเด็น เพื่อไปเล่าต่อกันได้ง่ายๆ ดังนี้ครับ..
จำนำข้าว เป็นโครงการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ใช้เงินรวมกว่า9 แสนล้านบาท ตอนปิดบัญชีกระทรวงการคลัง พบว่า ขาดทุนแน่ๆ5 แสนล้านบาท
ชาวนาทั้งประเทศมี 4 ล้านครัวเรือน แต่ธ.ก.ส.บอกว่าเข้าโครงการจำนำข้าวได้แค่ 1 ล้านครัวเรือน อีก 3 ล้านครัวเรือน ส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้ 15,000 บาท แต่ได้รับผลกระทบ
ผลวิจัยของ TDRI ระบุว่า จากเม็ดเงินภาษี 9 แสนล้านบาทนั้น ตกกับชาวนาแค่ 30% เท่านั้น อีก 70% ที่เหลือรั่วไหลไปตามส่วนต่างๆ
หน่วยงานอิสระอย่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ยื่นหนังสือด่วนเตือนทั้งสิ้น 4 ครั้ง ป.ป.ช.ส่งเตือน 2 ครั้ง แต่มีครั้งหนึ่งระบุชัดว่าให้ “ยุติ” โครงการเพราะพบทุจริตคาหลักฐาน แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่ฟัง
ในรัฐสภาฝ่ายค้านยื่นกระทู้ถามสดถึงยิ่งลักษณ์ 74 ครั้ง ยิ่งลักษณ์มาตอบกระทู้ด้วยตัวเองแค่ 2 ครั้ง โดย 1 ในนั้นสส.เพื่อไทยชงถามเอง แต่เมื่อเป็นเรื่องจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ไม่มาตอบเองแม้แต่ครั้งเดียว
จำนำข้าวมีการทำโครงการตั้งแต่สมัยป๋าเปรมก็จริง แต่สมัยนั้นจำนำตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์โดยจำนำต่ำกว่าราคาตลาด มีการเริ่มจำนำสูงกว่าราคาตลาดครั้งแรกคือสมัยทักษิณ ชินวัตร
จำนำข้าวสมัยทักษิณ เสียหายแต่ไม่มากเพราะมีการกำหนดกรอบเงินเอาไว้ชัดเจนกว่ายิ่งลักษณ์ และยังมีการขายข้าวออก เนื่องจากค่าข้าวที่เป็นต้นทุนจากการรับจำนำไม่สูงเท่ายิ่งลักษณ์
จำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ผิดตั้งแต่ชื่อโครงการเพราะตามนิยามแล้ว โครงการนี้ต้องชื่อว่า “รับซื้อข้าว”
โกงจีทูจี มีตัวละครเดียวกันที่เกี่ยวพันกับพ่อค้าข้าวในสมัยทักษิณ นั่นคือเสี่ยเปี๋ยงที่ลอกคราบจาก เพรสซิเด้นท์อะกริมาเป็นสยามอินดิก้า
เพรสซิเด้นท์อะกริ เจ๊งล้มละลาย และโดนบัญชีดำจากกระทรวงพาณิชย์ แต่ก็เล่นแร่แปรธาตุจดทะเบียนบริษัทใหม่เป็นสยามอินดิก้า เพื่อให้ได้เป็นคู่ค้ากับรัฐบาลยิ่งลักษณ์
สยามอินดิก้า เป็นคู่สัญญากับรัฐ ในการขายข้าวจีทูจีให้จีนแต่พบว่า บริษัทรัฐวิสาหกิจจีนที่ทำสัญญาด้วยนั้นชื่อ GSSG เป็นบริษัทขายเครื่องกีฬาและเครื่องเขียน
รัฐวิสาหกิจจีนที่ทำหน้าที่ซื้อข้าวจากทั่วโลกนั้นมีแห่งเดียวชื่อ COFCO แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ 4 สัญญาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เลยแม้แต่น้อย ทูตจีนที่ไทยเคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้เรื่องการซื้อข้าวจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์เลยแต่อย่างใด
มูลค่า 4 สัญญาจีทูจีโกงนั้นมูลค่ารวมกัน 7 หมื่นล้านบาทแต่ข้าวจากสัญญาเหล่านี้ไม่เคยถูกส่งออกนอกราชอาณาจักร หมายความว่า จะถูกนำไปเวียนเทียนขายภายในประเทศกันเอง
กรมการค้าต่างประเทศมีข้าราชการที่ช่วยเอื้อทุจริต ด้วยการเปิดบัญชีไว้รับเงินค่าข้าวปลอมจากจีทูจี แต่ภายหลังพบว่าเช็คที่จ่ายค่าข้าวเข้ามานั้น แทนที่จะมาจากจีน ดันมาจากไทยเอง คนรับ-จ่ายเช็คค่าข้าวจีทูจีวนเวียนอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน คือเครือข่ายของเสี่ยเปี๋ยง โดยมีตัวละครชื่อ “รัฐนิธ” เป็นคนจ่ายเช็คภายหลังพบว่าเป็น ผู้ช่วยสส.ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง พรรคเพื่อไทย
ประโยชน์จากคู่สัญญารัฐที่ได้ขายจีทูจีคือการได้รับข้าวดีออกไปในราคาถูก เพราะเข้าเงื่อนไขความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ ดังนั้นสยามอินดิก้าเอาข้าวดีของไทยต้นทุนถูกไปเวียนเทียนขายกันเองแพงๆ แต่เงินไม่เข้ารัฐครบตามสัญญา
เสี่ยเปี๋ยงพ่อค้าข้าวพิจิตร คนสนิททักษิณปัจจุบันอยู่ในคุกเพราะโกงการระบายข้าวให้อิหร่านตั้งแต่ยุครัฐบาลไทยรักไทย
ตัวละครหลักมัดโกงจีทูจีคือ นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ไม่ว่าใครจะมาเป็นรมว.พาณิชย์ เลขาฯ คนนี้จะยังคงอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยน เพราะเป็นคนวิ่งเรื่องโกงข้าวให้ตัวใหญ่ในพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้ หมอโด่งคนนี้ “หนีคดีไปนานแล้ว”
ตลอดการทำโครงการรับจำนำข้าว มีชาวนาฆ่าตัวตาย10 กว่าคน โดยเมื่อกรมสุขภาพจิตเข้าไปดูแลสอบถามจากครอบครัว เหตุผลที่ฆ่าตัวตายคือ โดนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ค้างเงินค่าข้าวในช่วงปลายปี 2556 เป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน ก่อนยิ่งลักษณ์ยุบสภาเงินค้างชาวนาทั่วประเทศมีมูลค่ารวมสูงถึง 92,000 ล้านบาท สาเหตุที่ค้างเพราะข้าวขายไม่ออกล้นโกดัง และเป็นรัฐบาลรักษาการกู้เพิ่มมาโปะส่วนนี้ไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับม็อบแต่อย่างใด
ข้ออ้างที่ยิ่งลักษณ์อ้างว่า เป็นนโยบายที่แถลงในสภายกเลิกไม่ได้นั้นเป็นเท็จ เพราะว่า เรื่องการยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันก็แถลงในสภา แต่ก็ยกเลิกได้ และรถคันแรก ทำได้ปีเดียวก็ยกเลิกได้ รวมถึงนโยบายอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่แถลงไว้แต่ก็ “ยังไม่ได้ทำ”
สุดท้ายขอสรุปแบบนี้ครับว่า เงินจำนวน 9 แสนล้านบาทที่ผลาญไปกับจำนำข้าวนั้น หากหารเท่าแจกชาวนาแบบไม่มีเงื่อนไขเลย ชาวนา 4 ล้านครัวเรือนจะได้เงินครัวเรือนละ2 แสนกว่าบาทเลยทีเดียว ถ้าเห็นแก่ชาวนาจริง ทำแบบนี้จะไม่มีการรั่วไหลเลย ที่สำคัญข้าวไทยจะได้ขายต่อไปตามกลไกตลาด และไม่ถูกกักไว้โกง และนี่ใช่หรือไม่คือเหตุผลที่แท้จริงของการมีโครงการจำนำข้าว
ดังนั้นการอ้างชาวนา อ้างประโยชน์ต่อเกษตรกรที่มีรายได้น้อยนั้นฟังได้ว่า “โกหก” และเป็นข้ออ้างเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเพียงเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี