การหลบหนีไม่มาฟังคำตัดสินของศาล ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ไม่เหนือความคาดหมายของนักรัฐศาสตร์ผู้สนใจในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย
เพราะนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475ซึ่งเป็นเวลากว่า 85 ปีมาแล้ว เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ได้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งจะเกิดจากความจงใจหรือไม่จงใจขององค์อธิปัตย์ในระยะเวลานั้นๆ ก็ตาม
สภาพการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยตามที่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เคยกล่าวไว้ว่า “เปรียบเสมือนนักมวย การต่อยมวยเมื่อไล่คู่ต่อสู้เข้าจนมุม จะยกแขนเปิดช่องให้คู่ต่อสู้ลอดใต้รักแร้ออกจากมุมโดยไม่ถูกน็อกเอาท์”
สังคมการเมืองไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็มีลักษณะคล้ายกัน กล่าวคือ หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะผู้ก่อการเมื่อมีความแตกแยกกันผู้แพ้ก็จะลี้ภัยไปยังต่างประเทศ เช่น พระยาทรงสุรเดชพระยาฤทธิ์อัคนี ฯลฯ (ถึงแก่อนิจกรรมในต่างประเทศ) ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2489 เกิดการรัฐประหารโดย พลโท(ต่อมาเป็นจอมพล)ผิน ชุณหะวัณ ทำการรัฐประหารเชิญ จอมพล ป.พิบูลสงคราม กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ขับไล่รัฐบาล นายปรีดี พนมยงค์ทำให้นายปรีดีต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ (ถึงแก่อนิจกรรมในต่างประเทศ)
ต่อมาเมื่อรัฐบาล จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี มีการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ.2500 เกิดการเดินขบวนของนิสิต นักศึกษา เนื่องจากการเลือกตั้งสกปรก ทำให้ จอมพล ป.พิบูลสงคราม พลตำรวจเอกเผ่าศรียานนท์ ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ (ถึงแก่อนิจกรรมในต่างประเทศ) ต่อมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เกิดขบวนการนิสิต นักศึกษา และนักเรียน รวมตัวกันขับไล่จอมพลถนอมกิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร และพันเอกณรงค์กิตติขจร จนทำให้บุคคลทั้งสามและครอบครัวต้องลี้ภัยไปต่างประเทศเช่นเดียวกับนักการเมืองในอดีต
เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นดังกล่าว เกิดจากเหตุผลทางการเมืองและในเวลาเดียวกันหลายกรณีเกิดจากการทุจริตของนักการเมืองเหล่านั้น จนกระทั่งถูกยึดทรัพย์สินตกเป็นของรัฐ เช่นเดียวกับคดีนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกลงโทษจากความทุจริตเช่นกัน จึงต้องลี้ภัยไปยังต่างประเทศจนถึงปัจจุบัน
สำหรับกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น อาจแตกต่างกว่านักการเมืองที่ลี้ภัยในอดีตก็ตาม แต่ถ้ามองในแง่รัฐศาสตร์แล้ว การหลบหนีจากกระบวนการยุติธรรมครั้งนี้ อาจเป็นเรื่องการประพฤติมิชอบก็ตาม แต่ถ้ามองในแง่รัฐศาสตร์แล้วอาจถือได้ว่าเป็นเรื่องการเมือง
และการหลบหนีของนางสาวยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ จะเกิดจากเหตุผลใดๆ ก็ตาม แต่ในแง่สังคมแล้วอาจกล่าวได้ว่า มีผลต่อสังคมในทางบวก
กล่าวคือ ถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกตัดสินว่าผิดหรือถูกก็ตาม จะก่อให้เกิดปัญหาความวุ่นวายติดตามมาอย่างแน่นอน ความร้อนระอุทางการเมืองจะทำให้ความปรองดองที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและคนไทยทุกคนปรารถนาก็อาจจะเปลี่ยนไปและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงต้องเป็นผู้รับกรรมต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี