ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษา คดีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย พิพากษาว่ากระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินธรณีสงฆ์อันกลายมาเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟอัลไพน์ในปัจจุบัน
ศาลพิเคราะห์ว่า คำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่ให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ถูกต้องด้วยกฎหมายและข้อเท็จจริงแล้ว ประกอบกับการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่า ที่ดินดังกล่าวตกเป็นของวัดและธรณีสงฆ์ทันทีที่นางเนื่อมเสียชีวิต แม้ว่าจะไม่มีการโอนชื่อให้เป็นของวัดก็ตาม พฤติกรรมของนายยงยุทธเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท
อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ไม่ให้ถูกเพิกถอนการถือครองที่ดิน สิทธิ และนิติกรรมตามคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์อันไม่ควรได้ให้แก่ผู้อื่น เกิดความเสียหายกับวัดที่ถือเป็นทายาทตามพินัยกรรม เป็นการทำลายศรัทธาผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างนางเนื่อม
ขณะนี้ นายยงยุทธอยู่ระหว่างการอุทธรณ์สู้คดีต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อศาลมีคำพิพากษาชี้ขาดชัดเจนถึงขนาดนี้แล้ว หน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย คือ จะต้องเอาที่ธรณีสงฆ์คืนให้แก่วัด ตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของยายเนื่อม
เรื่องนี้ มีประเด็นความเป็นมา และข้อพิจารณาสำคัญ เป็นอย่างไร?
1. นางเนื่อม ชำนาญศักดา ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 2 แปลงให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แปลงแรกเนื้อที่ 730 ไร่ อีกแปลง 194 ไร่ ทั้งสองแปลงอยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พินัยกรรมข้อถัดไประบุชัดเจนว่า ให้มูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัยฯ เป็นผู้ดูแลจัดการผลประโยชน์จากที่ดิน นั่นเพราะที่ธรณีสงฆ์อยู่ปทุมธานี แต่วัดอยู่ประจวบ โดยประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากที่ดินให้นำไปมอบแก่วัด เพื่อใช้ประโยชน์แก่พระภิกษุ สามเณร เรื่องอาหารและการศึกษาเล่าเรียน
2. ช่วงปี 2533 นายเสนาะ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยขณะนั้น อ้างว่ามีอำนาจตามกฎหมาย ถ้าที่ดินเกิน 50 ไร่ จะต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรี แล้วมีคำสั่งไม่ให้วัดได้ไปซึ่งที่ดินทั้งสองแปลงข้างต้น
จากนั้น มีการดำเนินการให้มูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัยฯ เป็นผู้จัดการมรดก แล้วจัดการมรดกด้วยการโอนที่ดินทั้งสองแปลงให้เป็นกรรมสิทธิ์ในชื่อของมูลนิธิฯ เอง แล้วก็ขายให้กับบริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด กับบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ในราคา 142 ล้านบาท
วันเดียวกัน บริษัททั้งสองแห่ง ได้นำที่ดินทั้งสองแปลง ไปจดทะเบียนจำนองที่ดินกับสถาบันการเงิน จำนวนเงิน 220 ล้านบาท
น่าคิดว่า มูลค่าที่ดินทั้งสองแปลงจริงๆ จะมากกว่านั้นแค่ไหน เพราะจดจำนองยังได้เงินมาตั้ง 220 ล้าน ขณะที่ซื้อมาจากมูลนิธิฯ ในราคาถูกๆ แค่ 142 ล้านบาท
3. ปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัทที่ซื้อที่ดินทั้งสองแปลงไปนั้น มีคนในครอบครัวของนายเสนาะ เทียนทอง ถือหุ้น ได้แก่ นางอุไรวรรณ เทียนทอง (ภรรยา) นายวิทยา เทียนทอง (น้องชาย) นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ (นักการเมืองกลุ่มวังน้ำเย็น) รวมไปถึงมีคนในแวดวงการเมืองถือหุ้นอีกด้วย เช่น นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล เป็นต้น
หลังจากนั้น ได้นำที่ดินไปทำสนามกอล์ฟ จำนวน 500 ไร่ แล้วจัดการขายต่อให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งใส่ชื่อคนรับใช้ใกล้ชิด
รอบๆ ตัว ได้แก่ นางสาวบุญชู เหรียญประดับ นายชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ นายวิชัย ช่างเหล็ก และทักษิณก็ไม่แจ้งรายการถือหุ้นของกลุ่มคนรับใช้ดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินฯ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ซึ่งถูกกล่าวหาว่าซุกหุ้น
4. คณะกรรมการกฤษฎีกา (ชุดใหญ่) เคยมีมติชี้ขาดว่า ที่ดินเป็นดังกล่าวตกเป็นของวัดและธรณีสงฆ์ทันทีที่นางเนื่อม
เสียชีวิต แม้ว่าจะไม่มีการโอนชื่อให้เป็นของวัดก็ตาม
เมื่อเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว จะไปดำเนินการซื้อข่ายจ่ายโอนไม่ได้ เว้นแต่ออกเป็น พ.ร.บ.ที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเท่านั้น
ต่อมา ในปี 2544 อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดินข้างต้น ตลอดจนรายการจดทะเบียนลำดับต่อๆ มาจากรายการข้างต้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นการโอนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ซึ่งล่าสุด ศาลปราบโกง ก็ได้พิพากษาตอกย้ำด้วยว่า คำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่ให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ดินของมูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัย ผู้โอน ให้กับมูลนิธิมหามงกุฎฯ เป็นผู้รับ และมูลนิธิมหามงกุฎฯ ได้ขายให้กับบริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ตลอดจนการจดทะเบียนลำดับต่อๆ มา รวมถึงการจดทะเบียนแยกแปลงในที่ดินที่เป็นข้อพิพาทนี้ เป็นคำสั่งที่ถูกต้องด้วยกฎหมายและข้อเท็จจริงแล้ว
ปรากฏว่า หลังอธิบดีออกคำสั่งเพื่อให้ที่ดินกลับไปเป็นธรณีสงฆ์อย่างถูกต้องในปี 2544 มีประชาชน 290 ราย ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว เรื่องจึงขึ้นไปสู่การพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานผู้บังคับบัญชากรมที่ดิน
5. ปรากฏว่า ปลัดกระทรวงขณะนั้น ลาออก ได้แก่ นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์
รองปลัดอันดับ 1 และ 2 มีผู้ติดต่อทาบทามว่า จะตั้งเบอร์ 3 คือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รักษาการในตำแหน่งปลัด แล้วในที่สุด ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยขณะนั้น (นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) แต่งตั้งนายยงยุทธขึ้นมารักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย
ราวหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น นายยงยุทธก็ออกคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินข้างต้น
6. ศาลปราบโกงพิพากษาว่า นายยงยุทธปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
คำพิพากษาระบุด้วยว่า นายยงยุทธต้องใช้ความรู้ความสามารถ พิจารณาอย่างรอบคอบ ระมัดระวังในข้อกฎหมายให้สมกับความรู้ และความสามารถในการดำรงตำแหน่งมาหลายตำแหน่ง จนได้รักษาการในตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทยในลำดับที่ 3 จาก 7 ลำดับ… ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้หลักความมั่นคงแห่งสิทธิ ความสุจริต ความเสียหายต่อสาธารณะอย่างสุจริตใจ แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทอัลไพน์ 2 แห่ง...
ถึงวันนี้ ที่ดินทั้งสองแปลง จะต้องกลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามเดิม เพื่อให้เป็นตามแนวทางคำพิพากษา ตามกฎหมาย และตามเจตนารมณ์แท้จริงในพินัยกรรมของยายเนื่อม
ควรจะทำอย่างไร?
6.1 กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ควรออกประกาศคำสั่งทางปกครองใหม่ ให้เป็นไปตามคำสั่งอธิบดีเมื่อปี 2544 ก่อนจะถูกนายยงยุทธเพิกถอนโดยมิชอบนั่นเอง โดยเนื้อหาสาระจะต้องให้สิ่งที่ดำเนินการต่อๆ มา จนถึงปัจจุบันเป็นโมฆะ เพื่อกลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามเดิม ตั้งแต่วันที่ยายเนื่อมเสียชีวิต
6.2 วัดธรรมิการามวรวิหาร สมควรเรียกร้องเอาที่ดินคืน พร้อมทั้งดอกผลที่เกี่ยวเนื่อง เนื่องจากมูลนิธิฯ เอาที่ธรณีสงฆ์ไปค้า
ขายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มิได้มีการออกพ.ร.บ. จะต้องมีการจ่ายเงินที่ซื้อมาคืนหรือไม่ หรือประการใดๆ อยู่ที่คำสั่งศาล โดยหากวัดตั้งทนายฟ้องร้องเรียกที่ดินคืน คนที่ถือกรรมสิทธิ์ในปัจจุบัน ก็คงต้องเข้ามาสู่กระบวนการเจรจา รวมถึงการหาเงินมาคืนต่อไป
6.3 สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สมบัติธรณีสงฆ์ ควรลุกขึ้นช่วยวัดธรรมิการามวรวิหาร หรือเป็นตัวแทนของวัด ในการดำเนินการเอาที่ธรณีสงฆ์คืนมาให้ได้
6.4 หากผู้ครอบครองในปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งบ้านจัดสรร และสนามกอล์ฟ เชื่อว่าตนครอบครองโดยสุจริต โดยไม่รู้ว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์
และกำลังจะมีผลกระทบ เพราะจะจำหน่ายจ่ายแจก จะจำนองไม่ได้ เนื่องจากเป็นธรณีสงฆ์ หากเกิดความรู้สึกว่า ทั้งหมดที่ดำเนินการมาก่อนถึงมือตนนั้น เป็นขบวนการอันมิชอบ สมควรฟ้องร้องดำเนินคดีในฐานะถูกหลอกขายธรณีสงฆ์ จากบริษัทที่เอาที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมายมาขาย เรียกเงินชดใช้คืน
ส่วนบริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด กับบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ที่ซื้อมาในราคา 142 ล้านบาท และวันเดียวกันสามารถนำไปจดทะเบียนจำนองได้เงิน 220 ล้านบาท จะอ้างว่าตนเองบริสุทธิ์ ก็จะต้องนำรูปการณ์ พฤติการณ์ ตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง พิสูจน์กันต่อไป รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร ขณะนั้นดำรงตำแหน่งการเมือง (หัวหน้าของนายยงยุทธ) รู้เห็นเป็นใจหรือไม่? นายเสนาะ เทียนทอง นายวิทยา เทียนทอง เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนการกระทำในส่วนใดของขบวนการข้างต้นหรือไม่? อย่างไร? ก็จะมีสิทธิไปต่อสู้ในกระบวนการศาลต่อไป
7. ขณะนี้ ปรากฏว่า มีผู้เตรียม “ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา พ.ศ. ....”
เป็นร่างที่ปรากฏอยู่ก่อนที่ศาลปราบโกงจะมีคำตัดสินล่าสุด
เนื้อหาตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะทำให้ที่ดินทั้งสองแปลงหลุดออกจากวัด ตกเป็นของมูลนิธิ และให้การจำหน่ายจ่ายโอนหลังจากนั้น ถือว่าถูกต้องชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดเลย
ร่างกฎหมายนี้ ถือเป็นร่างอัปยศ พยายามออก พ.ร.บ.เพื่อแปลงทรัพย์สินของวัด ที่ธรณีสงฆ์ ที่คุณยายเนื่อมแสดงเจตจำนงยกให้วัด ถูกปู้ยี่ปู้ยำไปตามขบวนการเล่นแร่แปรธาตุทั้งหลาย มีผลเสมือนหนึ่งนิรโทษกรรม เหมาเข่ง ทั้งผู้สุจริตและไม่สุจริต ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
เพราะผลลัพธ์ คือ ที่ดินหลุดไปจากวัด และให้กระบวนซื้อขายถ่ายโอนถือว่าถูกต้องตามกฎหมายด้วย
แน่นอนว่า นายยงยุทธผู้ถูกศาลปราบโกงพิพากษาว่ามีความผิดในชั้นต้นแล้ว จะต้องหยิบไปอ้างในการอุทธรณ์กับศาล ว่าเขาได้ทำถูกต้องแล้ว เพราะในที่สุด ทางการก็ออก พ.ร.บ.ที่ให้ยกเลิกเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินเหมือนกัน จึงมีเนื้อหาเป็นคุณกับนายยงยุทธ
นอกจากนี้ คำสัมภาษณ์รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ที่บอกว่า เรื่องนี้ อาจจะไม่จำเป็นต้องออก พ.ร.บ.ด้วยซ้ำ มีช่องทางกฎหมายที่สามารถออกเป็น พ.ร.ฎ. ได้ เท่ากับว่า คณะรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดออกเป็น พ.ร.ฎ. ได้เลย ฟังแล้วยิ่งไม่สบายใจ ว่าทำไมรองนายกฯ ที่ดูแลกฎหมายจึงออกมาให้สัมภาษณ์เช่นนี้ ในทันทีวันเดียวกับที่ศาลตัดสินคดีของนายยงยุทธ
จับตาดูการดำเนินการหลังจากนี้ จะทวงคืนที่ธรณีสงฆ์ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคุณยายเนื่อม และเช็คบิลขบวนการเล่นแร่แปรธาตุธรณีสงฆ์ไปเป็นทรัพย์สินเงินทองส่วนตัวหรือดำเนินการให้มีผลเป็นการจะนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ทั้งคนสุจริตและไม่สุจริต
หากปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ จะเป็นตราบาปแก่รัฐบาล คสช. ไปทั้งชาตินี้ และชาติหน้า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี