l ขอบคุณมาก “คุณชัยวัฒน์”……พี่ อาจารย์ ปู่จิ๊บ ที่ส่งข่าวสาระมาให้อ่านทุกเช้า
ผม ฉัน เรา หนู……ตื่นมาต้องอ่านเฟซบุ๊ค ไลน์ อี-เมล์ของอาจารย์ พี่ ลุง ปู่
นสพ.(แนวหน้าทุกวันจันทร์และสยามรัฐรายวันตามจังหวะที่ว่าง)
เฟซบุ๊ค “สถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน” และ “chaiwatsuravichai”
อี-เมล์ chaiwatchana 14 tu16@hotmail.com (ใช้มาร่วม 20 ปี เขาแนะนำให้เขียนยาวไม่ซ้ำใคร)
ไลน์ ตามห้องต่างๆ ทั้งกลุ่มและปัจเจก ร่วม 100 ห้อง
รายการวิทยุ FM101 ทุกเช้าวันอาทิตย์ 07.30-09.00 น.สำหรับคนฟังที่อยู่บ้านและบนรถยนต์ระหว่างเดินทาง
รายการ HI CABLE TV รายการบูรพาภิวัฒน์ ทุกวันศุกร์หรือเสาร์(อัดเป็นเทป)
บอกกันว่า ได้ประโยชน์มาก ข้อมูลเป็นกลาง ได้สาระ ไม่ต้องไปอ่านหนังสือพิมพ์ เอาไปใช้ต่อได้เยอะเลย
l ผมเจอผู้ใหญ่ผู้ใหญ่ในหลายวงการทั้งการเมือง ทหาร สังคม เศรษฐกิจ นักข่าว นักนสพ. นักกิจกรรมฯ ส่วนใหญ่เขาติดตามอ่านกัน และเมื่อเจอกัน ก็ได้คุยที่มาที่ไป เพราะผมอยากให้ทำกันมากๆ จะเกิดผล (แน่นอนมีเพื่อนสนิทที่รักใคร่กันมาบางคน ทั้งยุคเดินทางไกล หรือเรียนมาตั้งแต่เด็กถึงระดับมหาวิทยาลัย ที่มีความเห็นต่างในบางเรื่อง แต่บางรายเอาหนัก “กล่าวหาว่า ผมเปลี่ยนไป” เพราะเขาเชียร์ “ทัก” ไม่เอาทหาร น่าแปลกมาก เพราะ “เขา” ดีทุกเรื่อง คิดเพื่อสังคม ทำเรื่องดีมีประโยชน์ แต่เรื่องทัก-ปู มีความต่างกัน ผมก็ต้องใช้หลักเอาความเป็นเพื่อนที่คบกันมานานมาก่อนและคุยกันในเรื่องอื่น ไปด้วยกันได้ น่าจะให้นักสังคมวิทยา มานุษยวิทยา หรือนักจิตวิทยา มาสำรวจตรวจสอบดูว่า ทำไม ทำไม และทำไม เขาจึงรักและเทิดทูนทักมากขนาดนี้ จะแก้แทนไปทุกเรื่อง ทั้งเรื่องถูกและผิด, เขาถูกหรือทักเก่ง!!! )
l วันนี้ จึงจะนำมาเขียนลงสื่อ โดยเฉพาะ “สงสัยหรืองงว่า : ทำได้อย่างไร” ทำมายาวนานต่อเนื่อง เมื่อผมเล่าว่า ตื่นมา 02.00-03.00 น. ไปถึงหกโมงหรือเจ็ดโมงเช้า และกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน ฯลฯ
l เอาล่ะ มาคุยถึงเรื่องนี้กัน ในแง่มุมของการทำงาน การใช้เวลา และเรื่องของความคิดและเป้าหมายของผม
ผมจะเล่าให้ฟังก่อนว่า ในแต่ละวันได้ลงแรงกับเรื่องนี้ไปอย่างไร
1.หนังสือและแหล่งข้อมูล ที่ใช้เลือกสรร ข่าวสาระมาลง
หนังสือพิมพ์ : แนวหน้า สยามรัฐ ไทยโพสต์ โพสต์ทูเดย์ กรุงเทพธุรกิจ ผู้จัดการ มติชน คมชัดลึก สำนักข่าวอิศรา Thaipublica เป็นหลัก
Google : ใช้ไม่เป็นดีนัก ใช้ในการหาคำอธิบาย เพลง ภาพประกอบฯ (หากเก่งขึ้น น่าจะทำอะไรได้มากขึ้น)
แหล่งข่าว : ซึ่งเป็นส่วนที่มีความสำคัญในการหาข่าว และตรวจสอบข้อมูลจริงหรือไม่, ซึ่งยากไม่น้อย แต่ต้องนำมาตรวจสอบและเช็คดูทั้งข่าวจากผู้ใหญ่ ผู้นำกลุ่มต่างๆ ฝ่ายความมั่นคง ทหาร การเมือง ฯลฯ
การไปพุดคุยแลกเปลี่ยนจากกลุ่มต่างๆ ที่มีทั้งคุยกันประจำสัปดาห์ รายเดือน หรือเฉพาะครั้ง ผมจะฟังเป็นส่วนใหญ่ และจับความและประเด็นที่ดีๆ ส่วนใหญ่ข้อคิดดีๆ มาจาก ผู้ใหญ่ และผู้นำที่โดดเด่น
ที่อยากจะแนะนำ : เราต้องเลือก “คนที่ใช่” พูดมีเหตุผลมีน้ำหนัก เป็นจริง (พิสูจน์ได้จากเวลาที่ผ่านไป) ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปี คนเช่นนี้มีน้อยราย จำนวนไม่เกินนิ้วของมือทั้งสอง
ส่วนใหญ่ : มักเป็นเขาเล่าว่า แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ผู้ใหญ่กระซิบมา เช็คหลายข่าวแล้วตรงกัน ฯลฯ การคุยแลกเปลี่ยนความคิดและสถานการณ์ทางการเมือง จะเสียเวลาไปมากกับเรื่องเหล่านี้ แทนที่ควรจะเริ่มจากข่าวสารข้อมูลที่เป็นจริง และคนที่นำเสนอต้องรู้จริง แล้วนำมาแลกเปลี่ยนกัน และคนที่มักจะแสดงความคิดเห็นกินเวลาไปมาก มักจะเป็นคนเก่าซ้ำหน้าซ้ำตา ในทุกวงการและทุกเวที และคนประเภทนี้ มักจะดีเด่นดังในสังคม เก่งมีความรู้เยอะ เป็นข่าวในสื่อบ่อยๆ แต่น้ำหนักมีไม่มากนัก บางประเภทมีอคติ หรือมีความคิดเชิงลบ มองคนอื่นผิด ไม่ดีไปหมด ยกเว้นตัวเองและคนที่เขาศรัทธา
มีบางคนเด่นในการตั้งคำถามที่แหลมคม ถามผู้ใหญ่และคนมาร่วม มีส่วนทำให้ได้คำตอบดีๆ นำไปใช้ได้ ผู้ใหญ่บางคนมีข้อมูลดีๆ ที่น่าเชื่อถือและมีเหตุผล กล้าพูดกล้าวิจารณ์ แต่ไปในทางติเพื่อก่อ และสร้างสรรค์
ข้อดีของการไปร่วมคุย : เป็นการสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือ และได้รู้แนวคิดและทัศนะของผู้เข้าร่วม
เวลานำไปใช้ : ผมจะบันทึกประเด็นสำคัญนำไปคิดต่อ และในการนำมาลงฯ จะไม่เอ่ยชื่อและสถานที่
ห้องไลน์ : มักจะเป็นข่าวเริ่มต้น แต่ต้องนำมาตรวจสอบ, เรื่องเกี่ยวกับสาระความรู้เรื่องดีๆ คำคม ฯลฯ
2.ข่าวสาระที่นำไปลงไปเขียนไปพูด มีเรื่องของข่าวสถานการณ์ปัจจุบัน นำมาจากสื่อต่างๆ ที่กล่าวมา, บทความและความคิดเห็นต่อเนื่อง คอลัมนิสต์ประจำ ข่าวสาระที่เป็นความคิดความรู้ในทุกวงการ ที่จะนำมาใช้ให้เกิดความรู้และพัฒนาตนเอง มีเรื่องของกีฬาฯและเรื่องที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในการเป็นคนดีทำเพื่อส่วนรวม เรียนภาษาจากข่าว โดยนำข่าวที่เป็นภาษาอังกฤษมาลงประจำวันละเรื่อง ข่าวของสถาบันฯที่เราเคารพ ส่วนแหล่งสื่อเพื่อเผยแพร่นั้น ก็ได้เรียนไปในช่วงแรกแล้ว (ช่วยกลับไปอ่านอีกที)
3.การตรวจสอบและเช็คข่าวและความคิดความรู้สึกของคน เป็นเรื่องที่มีความหมายและความสำคัญ เป็นการรับรู้อารมณ์ ความคิดความรู้สึกของคนในวงกว้าง ผมทำหลายทาง ทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย การไปร่วมประชุมและการแลกเปลี่ยน การตรวจสอบจากสื่อ การสอบถามความเห็นจากเพื่อนมิตรในชนบทหลายแห่ง การติดตามงานและข่าวของรัฐบาลและทุกฝ่าย การคุยตรงกับคนทุกเพศทุกวัย ในทุกโอกาสที่ได้ลงไปสัมผัสเพื่อนมิตรและกระเป๋ารถเมล์ ฯลฯ
อยากจะแนะนำบางเรื่อง ในการตรวจสอบและวิจารณ์รัฐบาล เราต้องตามจริงและต่อเนื่อง ฯลฯ มิใช่ไม่ได้ติดตามข่าวการทำงานของรัฐบาลหรือกลุ่มต่างๆ แต่วิจารณ์จากข่าวและอคติอวิชชาของตน และที่สำคัญ คือ การประเมินการทำงานของรัฐบาล คสช. ต้องเปรียบเทียบกับรัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะ “ไม่สามารถทำได้รวดเร็วดังใจจากปัญหาสะสมมากมาย และการนำหลักกฎหมายกติกามาใช้”
ผลโพลล์ก็มีความสำคัญ แต่ต้องดูคำถามด้วย และต้องตามอย่างต่อเนื่อง ดูแนวโน้มในแต่ละช่วง
4.เวลาที่ใช้ในการทำงานด้านสื่อที่กล่าวมาและงานเพื่อส่วนรวม (ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน) แต่ละวัน เฉพาะที่ใช้ในการสรรหาข่าวสาระจากสื่อต่างๆ และนำมาเขียนและโพสต์จนเสร็จ 3-4 ชั่วโมง/วัน ส่วนการไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ใหญ่และกลุ่มต่างๆ การร่วมประชุมในเรื่องที่สำคัญฯ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์ การโทรศัพท์ผ่านมือถือและระบบไลน์ แต่ละวันต้องมี 3-4 ราย ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ฯลฯ
5.วัตถุประสงค์หลักคือ การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพคน (ซึ่งเป็นข้ออ่อนใหญ่ของสังคมไทย) ในการนำเสนอข่าวสาระ ในข้อเท็จจริง (80-90%) ให้เกิดการพัฒนาต่อโดยใช้ความรู้ สติปัญญา เป็นการเริ่มต้นของการสร้างและพัฒนาคน ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจนกว่าจะหมดเวลา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี