“ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้” มีหน้าที่ดูแลแดนอันตราย 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ซึ่งมีกลุ่มนอกกฎหมายคอยสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อต้องการแบ่งแยกดินแดน ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครต้องสังเวยชีวิต ถูกลอบยิงลอบวางระเบิด ทำลายสถานที่ราชการ ปล้นอาวุธปืนไปจากค่ายทหาร พวกเขาฆ่าทำลายหมดไม่เว้นแม้กระทั่งครู พระสงฆ์และเด็กนักเรียน รัฐบาลต้องระดมสรรพกำลังลงไป 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้ไม่หวังดี กลุ่มคนร้ายเหล่านี้เมื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงแล้ว จะหนีไปยังรัฐกลันตันและตรังกานูในประเทศมาเลเซีย ตำรวจต้องทำแผนสกัดกั้นด้วยวิธีต่างๆ ไม่ให้กลุ่มบุคคลอันตรายสร้างสถานการณ์ได้ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ทหารร่วมด้วยช่วยตำรวจค้นหาที่ซ่องสุมของบุคคลเหล่านี้ ทำให้ผู้ที่สร้างสถานการณ์ไม่สามารถก่อความรุนแรงในสถานที่ที่มีประชาชนและชุมชนอาศัยอยู่มากมาย ลดลงได้พอประมาณ
.....ขณะนี้มีการประกาศในราชกิจจาฯให้ยุบศชต.เพื่อนำกำลังจำนวนหนึ่งไปรวมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และตั้งกองบัญชาการท่องเที่ยวขึ้นมาแทน ความสำคัญระหว่างกองบัญชาการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจชายแดนภาคใต้นั้น เทียบกันไม่ได้เลย การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและทหารในศชต.เป็นการป้องกันความมั่นคงของชาติจากผู้ไม่หวังดีที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้านท่องเที่ยวนั้น ตำรวจทุกจังหวัดก็ดูแลสถานที่ท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีกองบัญชาการท่องเที่ยวขึ้นมาอีก ตอนนี้ก็ยังมีกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งไม่ค่อยมีข่าวคดีของนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น ตำรวจท่องเที่ยวที่มีอยู่แทบไม่มีงานทำ ถ้าตั้งเป็นกองบัญชาการ จะต้องเพิ่มกำลังตำรวจลงไปอีก จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณมากมาย การตั้งกองบัญชาการท่องเที่ยวขึ้นมาเพื่อมอบให้ใครคนหนึ่งที่มีความใกล้ชิดขั้วอำนาจใหญ่หรือไม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังถูกจัดระเบียบจนเละเป็นโจ๊กแล้ว สตช.ไม่ได้เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีกฎระเบียบการปฏิบัติดีอยู่แล้ว แต่เมื่อบุคคลกลุ่มนี้ต้องการลัดขั้นตอนมามีอำนาจให้ตนเองก้าวทันนั่งเก้าอี้สูงสุด สมควรแล้วหรือที่ผู้นำของรัฐบาลเห็นดีด้วยกับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎระเบียบ ซึ่งระบุว่าผู้ที่จะนั่งในตำแหน่งผู้บัญชาการต้องนั่งในตำแหน่งรองผู้บัญชาการมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี แต่ปีนี้ระดับรองผู้บัญชาการอาวุโส 1 ปี ไม่มีใครได้รับการแต่งตั้งเลย
....ที่สำคัญในปีหน้าจะต้องมีผู้ได้รับตำแหน่งซึ่งมีอาวุโสในตำแหน่งรอง ผบช.เพียงปีเดียว ก็มีสิทธิจะได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการในกองบัญชาการใหม่ที่ตั้งขึ้นมา ไม่ทราบว่า นายตำรวจคนนี้ทำอะไรให้ท่านทั้งหลายมหาศาลแค่ไหน จึงต้องทดแทนกันขนาดมองไม่เห็นหัวบรรดานายตำรวจที่เขาปฏิบัติหน้าที่เพื่อสตช.ทั้งชีวิตเลย...... สวัสดีครับ...
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี