ใครก็ตามที่ต้องการความสำเร็จในการทำงาน จะต้องรู้ว่าเวลาไหนเป็นเวลาทำงาน เวลาไหนเป็นเวลาเล่นหรือเวลาพักผ่อน และที่สำคัญก็คือต้องรู้จักหุบปากให้เป็นด้วย เพราะการหุบปากให้เป็นนั้นเป็นประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ
ต้องนึกอยู่เสมอว่าถ้อยคำที่พูดออกมานั้นเหมือนใบไม้ ตรงไหนมีใบไม้มาก ตรงนั้นหาผลยาก
เพราะฉะนั้นการจะพูดอะไรออกมาจึงควรคิดให้ดีก่อนอย่างคนมีสติ จะได้ไม่เป็นคนที่ชอบพูดเพ้อเจ้อ หรือกลายเป็นคนเหลวไหลเพราะไม่ทำอย่างที่พูด ต้องกลายเป็นคนโกหกหลอกลวงไปในสายตาของผู้คน แม้กระทั่งการพูดด้วยอารมณ์ก็สมควรยับยั้ง ไม่ควรพูด
ยิ่งเป็นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบสูงๆ ด้วยแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังในเรื่องการพูดจาของตนให้มาก ต้องรู้จักคิดก่อนพูดอย่างคนมีสติ อย่าชอบแต่โหวกเหวกโวยวาย พูดจาหาเรื่องกับคนถามที่ตั้งคำถามไม่ถูกใจ หรือออกท่าออกทางแสดงอำนาจเพราะไม่ถูกใจ เป็นต้น
บ้านเมืองของเราในตอนนี้เป็นอย่างนี้จริงๆ
เห็นได้จากเวลาที่สื่อมวลชนสอบถามหรือตั้งคำถามโดยหวังจะได้ฟังคำตอบ คำอธิบาย จากคนรับผิดชอบหรือคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาคนทำงาน แทบทุกครั้งจะเห็นคำพูดที่มาจากอารมณ์ไม่พอใจ ถึงขนาดบางครั้งดุด่าว่ากล่าวกลับไปให้ได้ยินได้เห็นแทบทุกครั้ง
สื่อมวลชนทุกแขนงเป็นสื่อที่ถ่ายทอดความเห็น และความรู้สึกนึกคิดของประชาชน สะท้อนความเป็นจริงให้รู้ตามระบอบการเมืองการปกครองประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ชอบใจคำถามของสื่อ หรือไม่ชอบฟังคำตำหนิติเตือนจากใคร สวนกลับไปด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสมในบางครั้งอย่างนี้เป็นต้น ใครเห็นใครได้ยินได้ฟังเสียงและท่าทางอย่างนี้แล้วได้แต่ส่ายหน้าไม่ชอบใจ
ขอนำพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯ ร.9 ที่ตรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อหลายปีที่ผ่านมาในสมัยที่การบริหารปกครองบ้านเมืองอยู่ในยุคของ “นักโทษหนีคุก” คนนั้น ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า
“...เมืองไทยนี่ประหลาด มีทีมปกครอง แต่ยังไงก็ตาม นายกฯรับผิดชอบทุกอย่าง ถ้ารับผิดชอบทุกอย่างก็ต้องยอมรับคำตำหนิ...”
“...ให้พิจารณาอ่านหนังสือพิมพ์ เขาเขียนตำหนิเรา ฟังเขาตำหนิอะไร ถ้าตำหนิถูกก็ต้องขอบใจเขา แต่ถ้าเขาตำหนิแบบไม่ถูกก็บอกว่าเบาๆหน่อย...”
ทรงสอนให้รู้จักอ่านหนังสือพิมพ์และรับฟัง
อะไรที่ใช่ก็ต้องยอมรับและขอบใจเขา
อะไรที่ไม่ถูกก็ต้องทำให้เกิดความเข้าใจ
พระราชดำรัสของ ล้นเกล้าฯ ร.9 ดังกล่าวในสมัยนั้นเกี่ยวกับผู้บริหารปกครองบ้านเมืองกับสื่อมวลชน ยังคงนำมาใช้ได้ในสมัยนี้เพราะเหตุการณ์คล้ายคลึงกันในเรื่องการพูดจากับสื่อมวลชน ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆให้ประชาชนรับทราบ
คำพูดแต่ละคำที่หลุดออกมาจากปากทุกครั้ง โดยเฉพาะคนมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารปกครองบ้านเมือง จึงต้องคิดให้ดีก่อนพูด คิดอย่างคนมีสติ
เพราะการรู้จักคิดให้ดีก่อนพูด และการคิดอย่างคนมีสตินั้น จะช่วยทำให้คนที่พูดรู้ตัวดีตลอดเวลา ว่าจะต้องพูดอย่างไรจึงจะดีและเหมาะสม ดังคำกลอนของ “เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ใน ร.5”ที่แต่งสอนใจในวิธีการพูดไว้ ดังนี้
“พูดโกรธไม่เป็น พูดเล่นไม่มี
พูดเสียดสีไม่ล่วง พูดติงท้วงไม่กล่าว
พูดก้าวร้าวไม่สันทัด พูดปดปัดไม่ชอบ
พูดนอกกรอบไม่ถนัด พูดอสัตย์เกลียดชัง
พูดปิดบังงดเว้น พูดตื่นเต้นเลิกขาด
พูดพยาบาทเลิกแสดง พูดอ้อมแกล้งเบื่อนัก
พูด โลภ รัก หลง หยุด พูดสมมุติมากยั้ง
พูดโอหังรู้เหนี่ยว พูดเฉลียวฉลาดรอบ
พูดประกอบเหตุผล พูดไม่พ้นอริยมรรค
พูดยึดหลักอ้างอิง พูดสัตย์จริงทุกคำ
พูดแต่ธัมมิโกบาย พูดแยบคายโยนิใส
พูดพุทโธภาษิต พูดสุจริตประจำ
พูดชักนำทางเจริญ พูดไม่เกินไม่ขาด
พูดนักปราชญ์ผู้สรรเสริญ พูดดำเนินในไตรลักษณ์
พูดสมัครในศีล พูดเคยชินในสติ
พูดเริ่มริในปัญหา พูดเริ่มริในปัญญา
พูดเสาะหาเพ่งโทษตน พูดสาละวนกำหนดทุกข์
พูดเร่งรุดละสมุทัย พูดห่างไกลกิเลสกาม
พูดปราบปรามทิฏฐิมานะ พูดสละอามิส
พูดกุศลเป็นประจำ จึงสมธรรมผู้ฉลาด
กล้าองอาจเอาตัวรอด จากภัยปลอดเป็นยอดดี”
นี่คือบทกลอนสอนใจการพูดของ “เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ร.5” ที่ขอยกมาให้ได้อ่านกัน เพื่อรู้ว่าในการพูดนั้นผู้พูดควรอยู่ในหลักการอะไรที่สำคัญควรใช้ ไม่ควรใช้ จะได้เป็นมงคลแห่งชีวิต ไม่ทำให้เกิดความเสื่อมใดๆ กับตน
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี