เมื่อรัฐบาลจะมีการปฏิรูปตำรวจ โดยเฉพาะงานสอบสวน บนถนนสีกากี จึงหยิบยกเสียงจากนายตำรวจท่านหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญและอยู่กับงานสอบสวนมากว่า 30 ปี ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก และอยู่ในสถานะความกดดันที่สูง ต้องทุ่มเททั้งร่างกาย จิตใจ และเป็นที่ไม่ก้าวหน้าเท่างานสืบสวน ปราบปราม จราจร หรือเรียกง่ายๆ ว่า คนอยู่สอบสวนคือคนที่ไม่มีเส้นสาย และน้อยนักที่จะเติบโตในวงการ
วันนี้ พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง อายุ 57 ปี ชาวราชบุรี ได้เล่าประสบการณ์ ที่ผ่านงานสอบสวนกว่า 30 ปี โดยเริ่มรับราชการปี 2528 เมื่อเป็น ร.ต.ต.จนถึงปัจจุบันยังเห็นงานสอบสวนมีปัญหาซ้ำๆ ไม่ได้รับการแก้ไข หรือแก้ไขแล้วก็ไม่เป็นผล เช่น กำลังคน งบไม่มี งานมากเกิน ที่ผ่านมามีการพัฒนา และปฏิรูปงานสอบสวน แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมจึงไม่สำเร็จอยู่ดี
“ผู้ใหญ่ที่จะมาบริหารงานสอบสวน ถ้าใจไม่รักจริงๆ ก็ไม่ค่อยมีใครอยากมา เพราะงานสอบสวนยุ่งยาก เกี่ยวข้องกับเรื่องระเบียบ ข้อบังคับกฎหมาย แก้ไขอะไรแต่ละครั้งต้องผ่านขั้นตอนกฎหมาย จะยกมือในที่ประชุมแต่ละที พวกก็บอกเอาไว้ก่อนนะ ในประเทศมีสักกี่คนที่ใจรัก นอกเหนือจาก พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อดีต รอง ผบ.ตร. แต่ถูกดึงเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงไม่มีแม่ทัพที่จะมาบริหาร”
ขณะที่อุปสรรคการทำงานมี 3 อย่าง 1.คน กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โรงพักในนครบาลขาดแคลนพนักงานสอบสวน และมีไม่กี่โรงพักที่พร้อม ที่ สน.ทุ่งสองห้อง งานถือว่าหนักจึงต้องอาศัยประสบการณ์ ซึ่งที่ผ่านมาค่อนข้างสาหัส แต่สามารถนำมาปรับเข้ากันได้ ขณะนี้มีพนักงานสอบสวน 9 นาย มาช่วยอีก 2 นาย เท่ากับเข้าเวร 11 คน จัดชุดละ 2 คน 5 ชุด เหลือฟรีไว้ 1 คน เข้าเวรผลัดละ 8 ชั่วโมง หมุนเวียนกันไป
2.งบประมาณ ไม่มีวัสดุอุปกรณ์ให้เจ้าหน้าที่ เราทำงานด้วยความขาดแคลน คอมพิวเตอร์ เครื่องปริ้นท์ หมึกและอื่นๆ ต้องซื้อเองทุกอย่าง อยากให้เหมือนภาพยนตร์ต่างประเทศ แค่ยกลังมาใบเดียวก็ทำงานได้ ยังไม่รวมค่าตำแหน่ง หรือค่าตอบแทน ตำรวจเบิกเงินค่าทำสำนวนได้สูงสุด 1,500 บาท ขณะที่ดีเอสไอเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 4 ล้าน ฐานเงินเดือนกระบวนการยุติธรรม ควรจะเท่ากันไม่ใช่ห่างกันราวฟ้ากับดิน
3.งาน พนักงานสอบสวน 1 คน ต้องรับไม่เกิน 70 คดีต่อปี ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ แต่ทุกวันนี้รับกันปีละไม่ต่ำกว่า 200 คดีต่อคน เมื่อปริมาณงานมีมากไม่พอดีกับคน เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานหนักขึ้น จนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว เราเคยเข้าเวรไม่ได้กลับบ้าน 5 วัน ตอนนั้นแต่งงานใหม่ๆ แล้วมีลูกอ่อน ภรรยาสงสัยหายไป 5 วัน อุ้มลูกมาที่โรงพักเห็นเรานั่งหลับคาโต๊ะจึงได้เข้าใจว่าเราทำงานหนักมาก
“เราทำงานหนัก และอยู่ท่ามกลางความเสี่ยง เพราะกฎหมายเป็นตัวกำหนดว่า ถึงขั้นตอนนี้ต้องทำอย่างไร ไม่ใช่ทำตามใจตัวเอง อย่างที่สุภาษิตว่า นั่งทำสำนวนขาข้างหนึ่งอยู่โรงพัก อีกข้างหนึ่งเข้าไปแตะคุกแตะตาราง ต้องทำงานด้วยความตั้งใจ แฝงด้วยความกลัว ใช้กฎหมายเป็นหลัก งานสอบสวนเป็นงานที่เครียด ตัวอย่าง ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยิงตัวตายเมื่อปี 2559”
รอง ผกก.สอบสวน เล่าด้วยว่า สำหรับตนเองได้พ้นขีดความกดดันมาหมดแล้ว จนสามารถอยู่ได้กว่า 30 ปี ที่ผ่านมาถูกกดดันร้อยแปด ถูกฟ้องร้องมากมาย ก็ผ่านตรงนี้มาได้ แต่น้องๆ ร้อยตรี ร้อยโท ร้อยเอก เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง เวลาเจอปัญหาก็อาจมีท้อบ้าง เราเป็นพนักงานสอบสวนรุ่นพี่ พยายามเอาประสบการณ์ไปบอกน้องๆ ก็มีการประชุมแนะนำชี้แจง ไปกินข้าวกินปลาอยู่เป็นประจำ เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียด
พนักงานสอบสวนเหมือน พ่อครัว จะแกงอะไรสักอย่างทำได้หมด หั่นมะเขือ สับเนื้อไก่ โขลกเครื่องแกง ทำเสร็จยกไปให้อัยการชิม อัยการบอกว่าอ่อนเค็ม ก็ส่งกลับมาให้พ่อครัวเติม เมื่อกลมกล่อมแล้วให้ผู้พิพากษา ตัดสินอีกทีว่าอร่อยหรือไม่ แต่เป็นพ่อครัวเหนื่อยกว่า คนชิมมีทักษะการลิ้มรส เรื่องข้อกฎหมายต้องแม่น ส่วนพ่อครัวต้องใช้ประสบการณ์ ความละเอียด กลยุทธ์ เทคนิค กว่าจะได้แกงสักหม้อไม่ใช่ง่าย
วกกลับมา สน.ทุ่งสองห้อง ที่นี้มีคดีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 900 ต่อปี มีพื้นที่มากสุดใน บก.น.2 รวมสถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์ราชการ ทีโอที ไปรษณีย์ไทย สถานกงสุล ศาลปกครอง กองทัพไทย คดีที่เกิดมักเกี่ยวกับการทุจริตต่อตำแหน่ง และทุจริตเรื่องอื่นๆ ล้วนเป็นคดีเสร็จสิ้นโดยยาก มีขบวนการขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน ไม่เหมือนกับคดีพื้นฐานทั่วไป เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องเป็นคนมีความรู้ ทั้งข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
“ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้รักอะไร ก็อยากโลดโผนเหมือนตำรวจทั่วไป ความฝันของตำรวจ ก็อยากขี่ม้าจับปืนกันทั้งนั้น แต่คนที่มาอยู่ส่วนมากเป็นคนที่ไม่มีเส้นสาย อยากจะไปอยู่สืบสวน ปราบปราม จราจรกับเขาบ้าง มีรางวัลอะไรหลายๆ อย่าง ยังดีที่เรายังสามารถถือปืนจับผู้ร้ายได้ แต่ลึกๆ แล้วพนักงานสอบสวน ก็เหมือนลูกเมียน้อย ที่ไร้การเหลียวแลมาโดยตลอด การจะพัฒนาชาติ ต้องพัฒนาที่คนก่อน” พ.ต.อ.สุบรรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี