นับว่าออกมาได้เหมาะเจาะกับสถานการณ์สำหรับศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย นายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “คนอีสานกับโรดแมปเลือกตั้ง” ซึ่งสุ่มตัวอย่างสอบถามความเห็นของชาวอีสาน 20 จังหวัด ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ย.ที่ผ่านมา
ผลสำรวจของอีสานโพลเผอิญออกมาในช่วงที่พรรคเพื่อแม้วกำลังอยู่ในภาวะระส่ำเพลี่ยงพล้ำอย่างหนักหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ เผ่นหนีไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาคดีของศาลเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินสายประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในจังหวัดต่างๆ ตุนศรัทธาจากมหาชนและนักการเมืองอย่างล่าสุดที่จ.สุพรรณบุรี เหล่าแกนนำพรรคปลาไหลถึงกับมาแสดงตัวแบะท่ายอมสยบพร้อมผสมพันธุ์หลังเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยการเชียร์ “บิ๊กตู่” ให้อยู่ยาว ทำเอานายใหญ่ระบอบแม้ว ณ แดนไกลต้องออกโรงเคลื่อนไหวปลุกระดมเหล่าสาวกเพื่อเรียกเรตติ้ง
ผลสำรวจของอีสานโพลในประเด็นที่ว่าการจัดการเลือกตั้งช่วงไหนเหมาะสมที่สุด พบว่าชาวอีสานส่วนใหญ่ร้อยละ 71.5 เห็นว่าเลือกตั้งภายในเดือนส.ค.2561 เหมาะสมที่สุด ขณะที่เห็นว่าช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.2561 เหมาะสมที่สุดร้อยละ 13.7 ช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.2562 ร้อยละ 7.4 และช่วงกลาง ปี 2562 หรือนานกว่านั้นร้อยละ 7.4 สรุปก็คือคนอีสานส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดไม่เกินเดือนส.ค.ปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีพรรคเพื่อไทย
ส่วนในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยการจับมือของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบว่าชาวอีสานส่วนใหญ่ร้อยละ 45.3 เห็นด้วย รองลงมาร้อยละ 28.2 ไม่เห็นด้วย และยังไงก็ได้ร้อยละ 26.4
มาถึงไฮไลท์สำคัญจากผลสำรวจของอีสานโพลก็คือประเด็นที่ว่า ใครเหมาะสมจะเป็นนายกฯคนต่อไปมากที่สุด พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.3 เห็นว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เหมาะสมมากที่สุด รองลงมา คือ คนนอกวงการเมืองที่ทุกฝ่ายยอมรับ ร้อยละ 22.4 ตามด้วย พล.อ.ประยุทธ์ เพียงร้อยละ 14.1 ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ร้อยละ 7.7 ผู้นำพรรคขนาดกลาง ร้อยละ 5.1 และอื่นๆร้อยละ 11.4
ส่วนเมื่อถามเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในประเด็นที่ว่าใครเหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า อันดับหนึ่งร้อยละ 68.4 เห็นว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เหมาะสม รองลงมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง ร้อยละ 56.1 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นสมาชิกตระกูลชินร้อยละ 52.6 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร้อยละ 34.2 นายวีรพงษ์ รามางกูร ร้อยละ 30.4 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ร้อยละ 29 นายวัฒนา เมืองสุข ร้อยละ 28.2 นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ร้อยละ 27.3 นายโภคิน พลกุล ร้อยละ 25.2 และ นายชัยเกษม นิติสิริ ร้อยละ 23.8
พรรคเพื่อแม้วนั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นพรรคบริษัทจำกัดที่การตัดสินใจเด็ดขาดขึ้นอยู่กับนายทุนเจ้าของพรรคเพียงคนเดียวและเป็นพรรคของตระกูลชินโดยตระกูลชินและเพื่อตระกูลชิน ขณะที่บรรดาสส.ทั้งหลายเป็นเพียงพนักงานบริษัทที่คอยรับผลประโยชน์แล้วทำตามคำสั่งเจ้าของพรรคโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้นแทนที่จะทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองในฐานะผู้แทนปวงชน
พรรคเพื่อแม้วยังถูกตั้งข้อสงเกตว่าเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่ใช้ผลประโยชน์ทุกรูปแบบซื้อสส. ซื้อกลุ่มการเมืองรวมตัวเป็นพรรคใหญ่ ซื้อเสียงเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งแล้วจัดตั้งรัฐบาลไม่ต่างจากซื้อประชาธิปไตย ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประเทศ จากนั้นใช้อำนาจเผด็จการในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมทุจริตโกงชาติปล้นแผ่นดินถอนทุนบวกกำไรมโหฬาร ขณะเดียวกันพยายามผูกขาดอำนาจทะเยอทะยานถึงกับมีแนวคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแผ่นดิน
พรรคแม้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบอบแม้วที่เคยก่อจลาจลทั่วกทม.และอาศัยมวลชนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจา รวมทั้งพยายามสังหาร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ เมื่อปี 2552 และปีถัดมาก็สร้างสถานการณ์จนนำไปสู่การก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง
ระบอบแม้วคือรากเหง้าต้นเหตุของวิกฤติความแตกแยกในชาติและสร้างความบอบช้ำให้ประเทศอย่างหนักตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา จนมวลมหาประชาชนออกมาแสดงพลังขับไล่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จนในที่สุดกองทัพต้องยึดอำนาจจากรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณถึง 2 ครั้ง
หากผลสำรวจของอีสานโพลสะท้อนความเห็นส่วนใหญ่ของชาวอีสานอย่างแท้จริงถือเป็นสัญญาณอันตรายที่สะท้อนนัยสำคัญทางการเมืองที่อาจบ่งชี้แนวโน้มผลการเลือกตั้งและอนาคตของชาติบ้านเมือง เพราะหากรัฐบาลหลังการเลือกตั้งกลับไปสู่ธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมแบบเดิมๆ เชื่อว่าในที่สุดจะถูกต่อต้านขับไล่จากมวลมหาประชาชนและในที่สุดหนีไม่พ้นกลายเป็นวิกฤตการณ์ความรุนแรงนำประเทศไปสู่วังวนของวรจรอุบาทว์ซ้ำซากที่จบลงด้วยการรัฐประหาร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี