ชาวโลกชื่นชอบในความเป็นผู้นำของออง ซาน ซู จี ซึ่งเคยถูกจำกัดบริเวณเป็นเวลากว่า 20 ปี เพราะความอดทนเพื่อประเทศของตนเอง ได้รับความนิยมว่าเป็นผู้นำที่มีคุณค่าต่อประเทศพม่าสู้กับรัฐบาลทหารอย่างสันติวิธีด้วยความอดกลั้น
จนประสบความสำเร็จ พรรคของเธอจึงชนะถล่มทลายถึงแม้รัฐธรรมนูญไม่ให้เป็นประธานาธิบดี แต่เธอคือผู้นำตัวจริง โลกชื่นชมเธอในความอดทนต่อสู้เพื่อประชาชนจนได้รางวัล Nobel สาขาสันติภาพ
เมื่อขึ้นสูงสุด ความศรัทธาสูงสุดก็เสื่อมได้เหมือนกัน ถ้าหมดความพยายามเอากลับคืนมา The Speed of Trust ดังที่นายกฯประยุทธ์เคยยกตัวอย่างไว้ ว่าศรัทธาสร้างได้ก็เสื่อมได้
เพราะในสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวโรฮีนจากว่า 400,000 คนจากรัฐยะไข่ ต้องอพยพข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศบังกลาเทศ มีการทำร้ายชาวโรฮีนจา อย่างทารุณโหดร้าย บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ชาวโลกมองว่าเป็นการทารุณโหดร้ายขาดมนุษยธรรม เหมือนเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบไม่เคยมีมาก่อน
ความนิยมในความเป็นผู้นำของออง ซาน จึงตกต่ำอย่างมากยังออกให้สัมภาษณ์แบบไม่รับผิดชอบด้วยว่าไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้นกับเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งค้านกับสายตาของคนในโลก ทำนองว่าจะหาสาเหตุที่แท้จริงว่าคืออะไร? ซึ่งตรงข้ามกับความรู้สึกของคนในโลกที่รักสิทธิมนุษยชนเห็นว่า รัฐบาลพม่าภายใต้การทำงานของเธอ ไม่มีความเป็นมนุษยธรรม ไม่นึกถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของชนกลุ่มน้อย
ข้อเท็จจริงคือ รัฐบาลของออง ซาน ยังต้องพึ่งทหารของพม่าในเรื่องความมั่นคงอยู่ ทหารก็จะถูกชาวโรฮีนจาหัวรุนแรงฆ่าตายและบาดเจ็บจำนวนหนึ่งไม่มากนัก ทำให้เกิดความโกรธแค้น จึงโจมตีกลับอย่างรุนแรงเกินเหตุเพื่อล้างแค้น
เพราะปัญหาการขัดแย้งระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมโรฮีนจามีมานาน วิธีการแบบนี้เป็นวิธีการที่ขาดความอดทนทำให้เกิดเหตุบานปลายมีการอพยพกลับไปยังประเทศบังกลาเทศแบบไร้สิทธิมนุษยชนจำนวนกว่า 400,000 คน หมู่บ้านของชาวโรฮีนจาก็ถูกเผาเกินครึ่ง
ประเด็นของผมคือ เรื่อง Trust หรือศรัทธา ซึ่งเมื่อมีแล้วต้องรักษาไว้และเมื่อเสื่อมก็ต้องพยายามสร้างให้กลับมา เมื่อขึ้นสูงสุดก็ต้องตกต่ำลงมา จะสร้างศรัทธาเหล่านี้กลับได้อย่างไรดังเช่นในหนังสือ Speed of trust
กรณีของออง ซาน นี้ ความศรัทธาจากโลกภายนอกเสื่อมตกต่ำลงอย่างมาก คำถามในสายตาคนในโลกคือจะดึงเอาศรัทธากลับมาได้อย่างไร
ข้อเท็จจริงคืออำนาจจริงอยู่ในมือของทหารพม่า เมื่อออง ซาน ไม่มีอำนาจเหนือทหารพม่า ที่ดูแลเรื่องความมั่นคงได้อย่างไรเป็นเรื่องที่ทหารยังต้องมีบทบาทอยู่โดยเฉพาะเกี่ยวกับคนกลุ่มน้อยเพื่อความมั่นคง
เพราะประเทศพม่ามีปัญหาชนกลุ่มน้อยมาก มีความขัดแย้งสร้างความไม่สงบอยู่เสมอ รวมทั้งปัญหาโรฮีนจาด้วย ความขัดแย้งระหว่างมุสลิมอย่างโรฮีนจากับพุทธในพม่า ยังรุนแรง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน จะดูว่าศรัทธาของเธอจะดึงกลับได้หรือไม่?
ถ้าพูดถึงผู้นำที่ต้องสร้างศรัทธามากขึ้น ยังมีผู้นำอีกคน ซึ่งยังไม่ทันได้สร้างศรัทธา แต่ทำตัวเองให้เสื่อมลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ คือ Donald Trump
การไปพูดที่ UN ครั้งสุดท้าย อย่างที่ผมเคยเสนอไปแล้วว่าการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ระดับประธานาธิบดีควรจะเป็นผู้นำแบบ Transformation ของอเมริกาที่ต้องถูกกำหนดบทบาทให้เป็นผู้นำของโลกด้วยเพราะถ้าทำไม่ได้วันหนึ่งผู้นำอย่าง Xi jinping ก็จะมาเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว และทุกวันนี้ Xi jinping ก็เก็บคะแนนเป็นผู้นำของโลกทุกวันทั้งเรื่องโลกร้อน และการเป็นผู้นำเรื่องการค้าเสรี
การไปแสดงสุนทรพจน์ที่ UN ครั้งแรกของ Trump สร้างความอับอายให้แก่ชาวโลก เพราะเป็นการพูดที่มองความสำคัญของอเมริกาอย่างเดียว ไม่ยกย่องให้เกียรติประเทศอื่นๆ เช่นใช้ภาษาที่ไม่สุภาพ เรียกผู้นำของเกาหลีเหนือว่า Rocket man ขาดมารยาทนักการทูตที่ดีเขาไม่ทำกัน ข่มขู่ว่าจะใช้กำลังทหารทำลายล้างเกาหลีเหนือซึ่งการไปพูดที่ UN น่าจะเป็นทางออก เจรจาต่อรองเพื่อหาสันติภาพมากกว่าสงคราม
ยิ่งไปกว่านั้น การพูดขัดแย้งกันเอง เพราะในยุค โอบามา ได้เซ็นสัญญาป้องกันอาวุธนิวเคลียร์กับ Iran แต่ Trump แทนที่จะปฏิบัติตาม กลับจะยกเลิกสัญญาดังกล่าว
ถ้าเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะยอมเจรจาก็จะมีน้อย เพราะในอนาคต Trump อาจจะไม่รักษาสัญญาเหล่านั้นไว้ เป็นการแสดงสุนทรพจน์ที่ขาดความสมดุลและมองอเมริกายิ่งใหญ่อย่างเดียว โดยถูกอิทธิพลจาก Steve Bannon อดีตที่ปรึกษาอเมริกามาก่อน (America First)
จึงอยากฝากให้ผู้อ่านได้ศึกษาเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งที่พม่าและที่ UN นำเอาทฤษฎี 2R’s คือ Reality และ Relevance มาวิเคราะห์ผู้นำทั้ง 2 คน เป็นบทเรียนที่ดีในการวิเคราะห์ ผู้นำที่เน้นความจริงและตรงประเด็น
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี