“อิตาเลียนไทย” ซิวทางคู่มาบกะเบา-จิระ 7,650 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 160 ล้านบาท
วันที่ 1 กันยายน 2560 ประชาชาติธุรกิจ
..............................
“เอ.เอส.ฯ” คว้างานโยธารถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน สัญญาแรก ด้าน “ซิโน-ไทย” คว้าสัญญา 2 แต่ราคาต่ำสุดน้อยกว่า
ราคากลางเพียง 2%
วันที่ 10 สิงหาคม 2560 กรุงเทพธุรกิจ
...............................
นี่คือพาดหัวข่าวของนสพ.เศรษฐกิจ 2 ฉบับที่ผมยกตัวอย่างมา เพื่อจะให้นายกฯลุงตู่ ได้ดูได้อ่านได้พิจารณาว่า การมีคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือซุปเปอร์บอร์ด กับการไม่มี มันจะทำให้รัฐได้หรือเสียในการประมูลงาน
และที่สำคัญคือมันให้ความเป็นธรรมในการแข่งขันของผู้เข้าประมูลทั้งรายใหญ่ รายกลางและรายเล็กหรือไม่
ที่สำคัญอีกที่สุดคือ มันแก้การ “ฮั้ว” ได้หรือไม่
เพราะจากผลของการประมูลตามที่สื่อรายงานมีดังนี้ รายงานข่าว
จากการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า เมื่อรวมผลการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 9 สัญญา พบว่าผู้ชนะการประมูลเป็นรายใหญ่เกือบทั้งหมด ประกอบด้วย 5 กลุ่ม เรียงตามลำดับสัดส่วนมูลค่างานดังนี้
อันดับที่ 1 กลุ่ม ITD 3 สัญญา (เป็นกิจการร่วมค้า 1 สัญญา) วงเงินรวมทั้งสิ้น 22,657 ล้านบาท
อันดับที่ 2 UNIQ 2 สัญญา (เป็นกิจการร่วมค้า 1 สัญญา) วงเงินรวมทั้งสิ้น 18,699 ล้านบาท
อันดับที่ 3 บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC 2 สัญญา (เป็นกิจการร่วมค้า 1 สัญญา) วงเงินรวมทั้งสิ้น 13,512 ล้านบาท
อันดับที่ 4 บริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด 1 สัญญา วงเงิน 8,198 ล้านบาท
อันดับที่ 5 บริษัท เค.เอส.ร่วมค้า จำกัด ในเครือกรุงธนเอนยิเนียร์ 1 สัญญา (เป็นกิจการร่วมค้า) วงเงิน 6,465 ล้านบาท
ผมตัดข่าวจากหนังสือพิมพ์มาทั้งดุ้นเพื่อให้ดูว่า สื่อเขาพาดหัวว่า 5 บริษัทใหญ่ที่ได้เค้กรถไฟรางคู่ 9 สัญญาของนายกฯลุงตู่ไป
อย่างนี้รายกลางไม่ตายอย่างเขียดหรือครับ!!!!
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เปิดให้เอกชนเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 8 กิโลเมตร ราคากลาง 9,399 ล้านบาท ปรากฏว่ากิจการร่วมค้า ITD-RT ซึ่งประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เป็นบริษัทนำ และบริษัทไรท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 9,290 ล้านบาท
ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) ระยะทาง 29 กิโลเมตร ราคากลาง 10,147 ล้านบาท ปรากฏว่ากิจการร่วมค้าUN-SH ซึ่งประกอบด้วยบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นบริษัทนำ และบริษัท ซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น จำกัด เสนอราคาที่ 10,050 ล้านบาท
มันมีข้อเปรียบเทียบนะครับระหว่างการมีซุปเปอร์บอร์ดกับไม่มี ดูได้จากการประมูล โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งในการประมูลครั้งใหม่นี้มีการปรับลดราคากลางลงมาจากเดิม 8,076 ล้านบาท (ไม่รวมระบบอาณัติสัญญาณและเครื่องมืออุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟ ซึ่งถูกแยกออกไป)เป็น 7,305 ล้านบาท โดยอ้างว่าเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาขนาดกลางเข้าร่วมแข่งขันได้ทั้งด้านคุณภาพและราคา
แต่ปรากฏว่าบริษัทที่ชนะการประมูลเสนอราคา 5,807 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางถึง 1,498 ล้านบาท คิดเป็น 20.5% ซึ่งบริษัทนั้นก็คือ อิตาเลียนไทย
มันเป็นไปแล้วครับ!!!!
แล้วมาเปรียบเทียบกับโครงการที่ยังไม่มีคำสั่งม.44 ของลุงตู่ตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง “ซุปเปรอ์บอร์ด” เส้นทางถนนจิระ-ขอนแก่น และเส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ปรากฏว่าผู้ชนะการประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 0.75% และ 2.77% ตามลำดับเท่านั้น
ซึ่งผู้รับเหมาขนาดกลางก็ไม่สามารถเข้าแข่งขันได้ หรือบางโครงการเข้าแข่งได้แต่ก็ไม่ชนะการประมูล ยังคงวนเวียนอยู่กับ
5 ผู้รับเหมารายใหญ่ที่รู้แข้งรู้ขากันดี
ลุงตู่ทราบเรื่องนี้หรือไม่ผมไม่ทราบครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี