l หลังศาลฎีกาไม่รับคำขอยุติธรรม คดีสิ้นสุดแค่ศาลอุทธรณ์ แกนนำพธม.สุวรรณภูมิ ถูกปรับ 522 ล้าน มีผู้คนสงสัยมากมาย จึงไปเรียนถามฟ้าแห่งธรรม ได้คำตอบที่ทำให้ใจประชาชนสว่างไสวขึ้นทันที
l ฟ้าขอบคุณเหล่าดิน ที่ออกมาสู้เพื่อปกป้องบ้านเมือง เพื่อฟ้า จากกลุ่มคนชั่วครองเมือง
แล้ว เสียงฟ้าดังกึกก้อง สะท้านไปทั่วปฐพีแดนไทยเหนือใต้ออกตก ให้เหล่าดินได้ยินชัดเจนว่า : โลกตัดสินไปตามหลักฐานที่โจทก์อัยการเสนอเรื่องราวขึ้นมา ตอนพลบค่ำที่ฟ้าเพิ่งจางหายไป ทำให้ขาดแสงสว่างแห่งธรรม ที่จะฉายลงดิน ทำให้ใจคิดมืดมิดไปชั่วคราว ถูกจึงผิด ผิดจึงถูกชั่วคราว แต่เมื่อยามรุ่งอรุณ ฟ้าทอแสงแห่งธรรมขึ้นทางบูรพาทิศ นำความจริงแห่งธรรมมาปรากฏแก่แผ่นดินและมอบคุณธรรม 5 ประการให้ดินรับรู้ และนำไปคิดลึก เพื่อปฏิบัติการทวงคืนความเป็นธรรม
l โดยได้ให้รำลึกถึงพระบรมราโชวาท ร.9 ที่ให้แสงสว่างแห่งความคิดหลักปฏิบัติเพื่อให้เกิดแผ่นดินธรรม https://i0.wp.com/bact.cc/f/2013/08/chai-rachawat-hm-quotes.jpg?resize=605%2C329
“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
l 1.หลักคิดใหญ่แห่งความเป็นธรรม ในแผ่นดินหนึ่งๆ คืออะไร
2.กระบวนการยุติธรรมในสังคมไม่เป็นธรรมและในสังคมเป็นธรรม เป็นอย่างไร
3.โจทก์ เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนอย่างไร มีอิสระถูกแทรกแซงสั่งการไหม อย่างไร
4.ใครคือจำเลย จำเลยคือใคร และบทบาทของทนายและจำเลย ต้องกระจ่างชัด
5.ประชาชนกับประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้เพื่อบ้านเมือง
l 1.หลักคิดใหญ่แห่งความเป็นธรรมในแผ่นดินหนึ่งๆ คืออะไร
1.1ตามมโนคติของสามัญชนทั่วไป
เป็นเรื่องง่ายๆ : คนดีทำดี ต้องได้ไปสวรรค์ คือ ได้รับสิ่งที่ดีตอบ
คนชั่วคิดชั่วทำไม่ดี ต้องไปนรก คือ ต้องได้การตำหนิ ลงโทษ
@ ยิ่งเป็นเรื่องของบ้านเมืองด้วยแล้ว คนดีคิดดีทำดี ต้องได้สิ่งตอบแทนสูงสุด เพราะเป็นเรื่องของแผ่นดิน แต่หากคนชั่วทำไม่ดี โกงบ้านเมือง ใช้อำนาจมิชอบเพื่อครอบครัว ทำให้ชาติเดือดร้อน ต้องลงโทษสถานหนัก คนไทยทั่วแผ่นดิน จึงจำพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.9 ได้แม่น และน้อมนำไปปฏิบัติ ด้วยความสุขกายใจ
1.2 ตามหลักกฎกติกาของบ้านเมือง
บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป เพราะเป็นเรื่องของคนหมู่มาก และต้องมีหลักใหญ่ที่จะค้ำจุนบ้านให้อยู่ยั่งยืนยง คือ “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นกติกาสูงสุด ที่เหนือกว่ากฎหมายแพ่งอาญาฯทั้งปวง และสังคมไทยยังมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มติซึ่งออกมา ทั้งรัฐบาล รัฐสภา ศาลฯ ต้องปฏิบัติตาม หลักการฯนี้ง่ายๆ จำได้พูดได้ แต่ไม่น่าเชื่อ ที่มีผู้รู้และมีหน้าที่บางคนในกระบวนการยุติธรรม ไม่ปฏิบัติตาม เช่น ตำรวจ อัยการบางคน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตามกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ไม่นำมาใช้ ไม่ปฏิบัติตาม
l 2.กระบวนการยุติธรรมในสังคมไม่เป็นธรรมและในสังคมเป็นธรรม เป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสภาพและลักษณะของสังคมนั้นๆ
ก.หากเป็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ที่เป็นธรรม เสมอภาค คนทุกคนในสังคมจะได้รับการปฏิบัติได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน
ข.หากเป็นสังคมไม่เป็นประชาธิปไตย ที่ไม่เป็นธรรม มีความเหลื่อมล้ำไม่เสมอภาค ฯลฯ กระบวนการยุติธรรมจะไม่เป็นธรรม ล่าช้า แพง ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล(คณิต ณ นคร) เช่น คนติดคุกส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่ยากไร้ ไม่มีเงิน ไม่มีทรัพย์สมบัติ ขาดความรู้ ประชาชนที่ลุกขึ้นออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม สู้บ้านเมือง มักจบที่คุกตะราง ล้มละลายฯ
l 2.1 กระบวนการยุติธรรมในสังคมเป็นธรรม ในการพิจารณาตัดสินต้องยึดหลักธรรมและความจริง
-กระบวนการยุติธรรมต้องทำหน้าที่แสวงหาความจริง โดยต้องให้ความสำคัญก่อนเรื่องใดๆ
-ต้องยึดหลักวิธีการทางกฎหมายตามข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัด
-ต้องให้ความสำคัญแก่ตัวคู่คดีมาก่อน คือ โจทก์และจำเลยที่จะได้รับรู้การพิจารณาของศาล มากกว่าทนายเพราะผลลัพธ์จากการตัดสิน
โจทก์และจำเลย เป็นผู้รับ มิใช่ทนาย
-ความผิดพลาดของทนาย ที่ทำให้จำเลยเสียหายในเรื่องใหญ่ จึงต้องยึดหลักผลประโยชน์ของจำเลยมาก่อน
-การพิจารณาตัดสินคดี ต้องกระทำต่อหน้าโจทก์และจำเลยไม่ควรที่จะกระทำลับหลังจำเลยโจทก์
-ข้อหาอาญาต้องได้รับการพิจารณาก่อน ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ เพราะอาญามาก่อน ต้องรู้ว่าผิดถูกก่อนจึงจะไปพิจารณาคดีแพ่ง ซึ่งเป็น
เรื่องเกี่ยวกับค่าเสียหายที่ตามมาฯ (มิใช่ไปพิจารณาแพ่งก่อนอาญา)
l 2.2 กระบวนการพิจารณา ต้องเรียงลำดับความสำคัญของตำรวจ อัยการและศาล
-น้ำหนักของการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม เรียงจากขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย(สุดท้าย) คือ ความละเอียดรอบคอบของศาลสูงสุด รองลงมาคือ อัยการ และขั้นล่างสุด คือ ตำรวจ
-และในส่วนของศาล ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุด เป็นที่สุดท้ายของความเป็นธรรม ต้องให้โอกาสให้จำเลยได้รับการพิจารณาตัดสินด้วยความเป็นธรรม สูงกว่าศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น ข้อบกพร่องของกระบวนการยุติธรรม กลับกลายเป็นว่า น้ำหนักของคดีไปอยู่ที่ตำรวจ มากกว่าอัยการและศาล
l 2.3 กระบวนการยุติธรรมต้องยึดหลักกติกาสูงสุดของบ้านเมือง คือ รัฐธรรมนูญ และการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
-ในสังคมที่ขาดความเป็นธรรม กระบวนการยุติธรรมมักเอากฎหมายแพ่งอาญามาก่อนรัฐธรรมนูญ
-โดยเอาเรื่องรองหรือเรื่องย่อยมาให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องหลัก คือ รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคดีของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญปกป้องบ้านเมืองจากผู้ปกครองเลวฯ
-ทำไมกระบวนการยุติธรรม กลับให้ความสำคัญแก่ “วิธีการ-การชุมนุม มากกว่า หลักการ-บ้านเมือง”
-เรื่องใหญ่เรื่องหลัก คือกระบวนการยุติธรรม ควรสนับสนุนให้คนดีคนกล้าออกมาต่อสู้เพื่อบ้านเมืองฤา?
-เป็นการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท ให้ส่งเสริมคนดีมาบริหารบ้านเมือง ขจัดคนไม่ดีไม่ให้ก่อความวุ่นวาย
-คดีนี้เป็นคดีใหญ่เป็นคดีบ้านเมือง แต่กลับมายุติที่ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ โดยศาลฎีกาไม่ได้พิจารณา
l นี่เป็นหลักการพื้นฐานบางส่วน ที่นำเสนอให้ กระบวนการยุติธรรม และประชาชนเจ้าของประเทศได้พิจารณา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี