“โง่แล้วอยากนอนเตียง” เป็นภาษาสแลงที่คงตกยุคแล้ว แต่ที่โบราณกว่านั้นก็คือ “จนแล้วไม่เจียม เสงี่ยมวาจา” ซึ่งก็มีความหมายว่า “โง่แล้วอวดฉลาด” โง่แต่ขยันต้องการสร้างผลงาน ทำให้ได้ผลลัพธ์แบบสร้างความเสียหายมากกว่าสร้างสรรค์ คณะทำงานของคุณสมชายก็เข้าข่ายนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีความต้องการสร้างผลงานแข่งขันกัน ทำให้ไม่รอบคอบ พิจารณาข้อดีข้อเสียให้ถี่ถ้วน เพราะต้องการรีบเสนอผลงาน
ห้ามนั่งกระบะท้ายก็เป็นความคิดที่ดี แต่ไม่เหมาะสม เพราะเริ่มต้นแบบหนึ่งจะจบลงแบบหักมุมนั้น คนไทยไม่นิยม รถกระบะเป็นพระเอกของคนบ้านนอกมานาน เพราะราคาถูก ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ ขนของก็ได้นั่งก็ได้ และเมื่อคนไทยไม่รู้จักพอ ยังชอบดัดแปลงทำให้รถกระบะเปลี่ยนไปเป็นกรงขนหมาขนหมูขนวัวควาย เป็นพาหนะสำหรับขนคนงานจำนวนมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เป็นรถขนโอ่งสำหรับเล่นสงกรานต์ ดังนั้นอยู่ๆจะมาห้ามนั่งกระบะท้ายเล่นสงกรานต์ จึงสร้างกระแสไม่พอใจสูงปรี๊ด จนในที่สุดคุณสมชายก็ต้องเข้าเกียร์ R ยอมยกธงขาวเพราะกลัวเรตติ้งตก
จากห้ามนั่งกระบะท้ายมาถึงเก็บภาษีน้ำจากชาวนา ซึ่งเป็นการย่ำยีกระดูกสันหลังของชาติเพราะชาวนานั้นปลูกข้าวให้คนไทยกินมานับพันปี “หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน” อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นชาวนา ขณะที่ระบอบทักษิณหาเสียงกับชาวนาด้วยนโยบายจำนำข้าว ซึ่งถ้าทรราชมีเจตนาดีต้องการช่วยชาวนา มิใช่ต้องการช่วยพ่อค้าหรือช่วยเจ๊ ก็สามารถใช้วิธีอื่นเพื่อให้ชาวนามีรายได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะกำหนดราคาข้าวให้สูงขึ้นโดยให้เป็นภาระของผู้บริโภค แต่ก็ต้องห้ามกองทัพมดขนข้าวจากเพื่อนบ้านให้ได้ผล 100% หรือรัฐบาลใช้งบประมาณอุดหนุนเพิ่มราคาให้ชาวนาโดยตรง แต่การเลือกใช้วิธีรับจำนำข้าวด้วยราคาสูงกว่าราคาตลาดอย่างเดียว เป็นการทำร้ายชาวนามากกว่าช่วยเหลือ เพราะเมื่อขายข้าวที่รับจำนำไว้ไม่ได้ รัฐจะเอาเงินที่ไหนมารับจำนำต่อ
แต่ไอเดียของกูรูเศรษฐกิจที่ต้องการให้เงินสะพัดมากขึ้น รัฐมีเงินผลาญมากขึ้น ด้วยการเก็บภาษีน้ำ (หรือจะเอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำ) นั้น เป็นไอเดียที่อุบาทว์มาก เพราะเป็นการซ้ำเติมความโชคร้ายที่เกิดมาเป็นชาวนา เพราะวันนี้เครื่องยนต์การเกษตรมิได้อยู่ในโรงนา แต่อยู่ในโรงจำนำ เพราะถ้าไม่จำนำก็ต้องถูกขโมย เพราะวันนี้อาชญากรเต็มท้องทุ่ง
ยุทธศาสตร์แห่งชาติที่หน้าปกหรือคำนำประกาศว่าเป็นศาสตร์พระราชาแต่เนื้อหาเป็นวิชาทรราชทั้งสิ้น เพราะมีแต่ประชานิยม เพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าความอยู่รอดของประเทศและประชาชน เมกะโปรเจกท์มากมาย รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ขนซื้อเข้ามาแบบไม่สนใจความคุ้มค่า เรือดำน้ำ รถถัง เครื่องบิน ที่ไม่สามารถระงับความรุนแรงและการสูญเสียเลือดเนื้อของทหารตำรวจและประชาชนนั้น จะมีประโยชน์อะไร เพราะซื้อมาเพื่อรอปลดประจำการเท่านั้น แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในประเทศได้เลย ทั้งนี้ เพราะสถานการณ์ที่นำไปสู่การเกิดสงครามระหว่างเพื่อนบ้านนั้น แทบจะไม่มี อาวุธต่างๆก็ซื้อมาแค่ขู่หรืออวดกันเท่านั้น โดยมีผลประโยชน์แอบแฝงทุกชาติ แต่ที่แน่ๆ ก็คือความร่ำรวยของประเทศที่ขายอาวุธ
ขึ้นต้นเป็นรถกระบะ จบด้วยเรือดำน้ำ สมกับเป็นคนไทยยุคนาวาสามแป๊ะจริงๆ แต่เรื่องที่อยากฝากไว้ก็คือ “คุณภาพคณะทำงาน” ของนาวาสามแป๊ะ ที่มีหน้าที่ปริ๊ฟก่อนเข้าประชุมนั้น“ห่วย” สิ้นดี แต่ยังถูลู่ถูกังลากกันไปแบบ“เตี้ยอุ้มค่อม” ก็ต้องขอเตือนว่า ระวังจะตายทั้งเตี้ยและค่อม โดยเฉพาะทีมกฎหมายที่เสียหน้ามาตั้งแต่“เมอซิเออร์ วอน เจอสาก”แล้ว
ซึ่งก็เป็นคณะสามเนติบริกรชื่อดังเช่นกัน เพราะยังมีคราบของไส้กรอกและเบียร์ แม้จะห่างไกลจาก “ออกโตเบอร์เฟส” ในเมืองไส้กรอก เพราะยังใช้ระบบนับคะแนนทุกบัตรเลือกตั้ง ซึ่งหวังว่า จะมีช่อง“โนโหวต”ไว้สำหรับคนที่ไม่ต้องการกินข้าวผสมอุนจินะครับ
แมวครวญ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี