เมื่อมนุษย์คิดประดิษฐ์ “ล้อ” ได้ ก็นำล้อมาใช้งานด้วยการลากและเข็น และเมื่อมนุษย์คิดเครื่องจักรกลได้ ก็ส่งผลให้ยานพาหนะต่างๆ สามารถเคลื่อนไหวด้วยแรงผลักดันในตัวเอง ซึ่งต่อมาก็พัฒนากันจนมีวิวัฒนาการถึงขั้นเทคโนโลยีและการสื่อสารสมัยใหม่ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เนต
มนุษย์ก็ติดต่อไปมาหาสู่กันได้มากและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นเป็นลำดับ โยงใยกันได้อย่างทั่วถึงทันทีทันควัน เรียกว่าเพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น
บัดนี้ มิใช่แค่ติดต่อสื่อสาร ส่งข้อความไต่ถามทุกข์สุขหรือติดต่อเรื่องงานเรื่องการเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของโอกาสการใช้ประโยชน์ต่างๆอย่างมากมาย และจะทวีคูณยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผ่านสิ่งที่เรียกว่าแอพพลิเคชั่น–แอพ (Application – App.)
สังคมโลกเริ่มเห็นภาพการใช้การสื่อสารสมัยใหม่เพื่อการทำมาค้าขาย (E-Commerce) เพื่อการบริหารของภาครัฐต่อประชาชน (E-Government) ไปจนถึงการใช้ระบบการสื่อสารสมัยใหม่ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics “E”) ไปจนถึงการแพทย์ การสั่ง หรือเรียกการบริการจากรถแท็กซี่ จากร้านอาหาร จากโรงแรม สายการบิน เป็นต้น เป็นการติดต่อทำธุรกิจหรือรับบริการรัฐที่ไม่ต้องผ่านคนกลาง หรือเสียบริการใต้โต๊ะ
วันนี้และวันหน้า จึงไม่มีสังคมใดหรือประเทศใดเพิกเฉยต่อวิวัฒนาการการสื่อสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะกำลังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่จำเป็น และหลีกเลี่ยงมิได้แล้ว เรื่องเศรษฐกิจบนพื้นฐานของระบบเทคโนโลยีการสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ จึงต้องถือเป็นเรื่องธรรมดาๆที่ทุกประเทศต้องทำกัน มิฉะนั้นก็จะล้าหลัง ตกหล่น หรือถูกมองข้ามไป จึงไม่เป็นเรื่องวิเศษวิโสอะไรที่รัฐบาลหนึ่งใดออกมาพูดว่า จะต้องทำให้ประเทศเป็นเศรษฐกิจ 4.0 ในชั่วข้ามคืน เพราะมันค่อนข้างจะเป็นเรื่อง “ถูกบังคับ” แทนที่จะส่งเสริมให้ประเทศได้เติบโตเป็น 4.0 อย่างเป็นธรรมชาติ ตามรากเหง้าของตนเอง
แต่ประเด็นคือว่า แล้วรัฐบาลนั้นๆ จะเตรียมตัวกันอย่างไร เพื่อให้วิธีการและผู้คนพร้อมที่จะมีทักษะการใช้ให้เป็น ให้คุ้มค่า คุ้มประเทศ
อีกทั้งการจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ก็เป็นผลค้นคิดสิ่งประดิษฐ์ของต่างชาติ ซึ่งเราก็ต้องซื้อเข้ามา ค่าใช้จ่ายต้องสูงมากอย่างแน่นอน แล้วไทยเราจะพึ่งพาและเป็นแค่“นักซื้อ”เท่านั้นเองหรือ? หรือไทยจะร่วมมือกับเพื่อนประชาคมอาเซียนอีก 9 ประเทศได้อย่างไร ในทำนองร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อพาพวกเดียวกันไปให้มากที่สุด
ฉะนั้น คิดจะใช้ด้วยการคิดจะซื้อแต่อย่างเดียว ก็เป็นการพึ่งพาต่างชาติเขาไปตลอดชาติ ก็จะดูกระไรอยู่ ความเป็นตัวของตัวเองก็จะไม่มี แล้วก็จะเป็นลูกไล่เขาโดยตลอด
ฉะนั้น การศึกษาและการค้นคว้าวิจัยจึงเป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง ทั้งเพื่อสร้างบุคลากร และสร้างขุมความรู้ เพื่อเราและอาเซียนจักได้พึ่งตัวเองได้บ้าง
ใกล้บ้านเรา จีนเปิดประเทศได้แค่ 30 ปี ก็ดูไปโลดทั้งในเรื่องการคิด ค้นคว้า และประดิษฐ์ ไปจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์ จนบัดนี้คนจีนกว่าครึ่งประเทศ ซื้อของขายของด้วยระบบ E-Commerce และกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด
หรืออินเดียก็ขึ้นชื่อเรื่องการค้นคว้าวิจัยพัฒนาและเป็นศูนย์กลางการบริหารติดต่อในเรื่องธุรกิจ และในเรื่องการบริหารต่างๆ
ประชาคมอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ จึงจะอยู่นิ่งเฉยมิได้ ต้องมีความเป็นเลิศกับเขาบ้าง
นอกจากเรื่องการพัฒนาผู้คนให้พร้อมแล้ว ภาครัฐต้องเริ่มแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้อง และก็ต้องเริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารต่างๆ เพื่อรองรับงานต่างๆ ได้
แต่ ณ วันนี้ มีการพูดกันแบบท่องจำ ว่าด้วยคำว่า 4.0 และการจะใช้งบประมาณเป็นแสนล้านจัดซื้ออุปกรณ์ แต่ยังไม่ได้มีการวางแผนให้แน่ชัดว่า จะทำอะไรบ้างและอย่างไร
ในระดับประชาคมอาเซียนก็มีแผนแม่บท แต่เป็นลักษณะแนวทางมากกว่าแบบปฏิบัติ
ฉะนั้น สิ่งเร่งด่วนที่สุดคือ แผนปฏิบัติ ทั้งในระดับชาติ และในระดับอาเซียนว่าจะเป็นอย่างไร
3-4 ปีมานี้ มักได้ยินคำศัพท์โก้เก๋ต่างๆว่าด้วยเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และการพัฒนาการบริหาร แต่ยังไม่ได้เห็นเส้นทางการปฏิบัติและการลงมือเริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง
ก็หวังว่า การเริ่มพัฒนาจะไม่ต้องรอกันไปอย่างไร้ความหวัง อย่างที่ใครๆ เขาแซวว่า อยากจะไป 4.0 ด้วยความสามารถ 0.4
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี