วันนี้เมื่อปีที่แล้ว หัวใจคนไทยแตกสลาย
ร่ำไห้กับความสูญเสียใหญ่หลวงที่สุดของแผ่นดิน
เวลาผ่านไป เหมือนม่านหมอกความเศร้าโศกยังคลี่คลุมจิตใจส่วนลึกของพสกนิกรไทยตลอดมา
13 ต.ค.ปีนี้ คนไทยจำนวนมากคงจะออกไปทำบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ครบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามวัดหรือศาสนสถานที่สะดวก
พระองค์ไม่เคยไกลจากหัวใจคนไทยเลยแม้แต่น้อย
1. แม้แต่พระเมรุมาศ ในพระราชพิธีสำคัญ ก็ยังคงเต็มไปด้วยอนุสรณ์ของรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ด้านหน้าพระเมรุมาศ มีแปลงนาข้าวจำลอง ด้วยแรงบันดาลใจจากวังสวนจิตรลดา หรือพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน อันเป็นสวนในพระราชวังของพระองค์ท่าน และเป็นสถานที่ทดลองโครงการส่วนพระองค์ที่เกี่ยวกับการเกษตร เป็นศูนย์วิจัยพัฒนาแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ตามแนวพระราชดำริในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อคิดค้นแนวทางแก้ปัญหาด้านการเกษตรให้แก่ประชาชน สร้างประโยชน์สุขต่อพสกนิกรชาวไทย
สวนด้านหน้าพระเมรุมาศ ยังปลูกหญ้าแฝก ยางนา มะม่วงมหาชนก เป็นต้น
ติดตั้งกังหันชัยพัฒนา สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยวิธีการเติมอากาศ
ทั้งหมดนั้น คือสิ่งที่มีอยู่จริง เกิดขึ้นจริง อยู่ในพระราชวังของพระเจ้าแผ่นดิน ที่เต็มไปด้วยการคิดค้นหาหนทางช่วยเหลือพสกนิกรให้พ้นจากความทุกข์ยาก เพื่อประโยชน์ของพสกนิกรโดยแท้
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สร้างประโยชน์แก่ประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ถูกนำมาวาดภาพจิตรกรรมไว้ในบริเวณพระเมรุมาศด้วย
2. รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามน้อมนำศาสตร์พระราชา ควรตระหนักถึงแนวทางคำสอนของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะการทำงานเพื่อช่วยชาวบ้านนั้น องคมนตรี “เกษม วัฒนชัย” ให้แง่คิดไว้ในหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับองคมนตรี” ว่า การถวายงานในโครงการพระเจ้าอยู่หัว จะต้องยึดหลักการทำงาน ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ปฏิบัติงานในโครงการหลวงได้แก่
“1. เร็วๆ เข้า จะทำอะไรก็ให้เร็วๆ เข้า
เคยมีพระบรมราชาธิบาย ขยายความว่า ประชาชนตกทุกข์ได้ยากอยู่บนดอย จะมัวช้าไม่ได้
2. ลดขั้นตอน
ระบบราชการมีขั้นตอนมาก ถ้าลดลงบ้างจะทำให้งานสำเร็จลุล่วงเร็วขึ้น
3. ช่วยเขาให้ช่วยตนเอง
พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญกับข้อนี้มาก โครงการพระราชทานความช่วยเหลือด้านการเกษตร และด้านอื่นๆ ท้ายที่สุดแล้ว จะต้องทำให้ประชาชนช่วยตนเองให้ได้”
ทุกข้อล้วนสำคัญ และข้อที่จะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน คือ “ช่วยเขาให้ช่วยตนเอง”
แนวทางหลัก จึงควรมุ่งที่การสร้างระบบ เสริมความเข้มแข็งแก่เกษตรกร
การรวมกลุ่มเกษตรกร จะเห็นได้ว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงมุ่งเน้นการพัฒนาการผลิตข้าว ทั้งการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว การพัฒนาระบบชลประทาน การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการผลิตข้าว ฯลฯ
ทรงมีพระราชดำรัสว่า “...ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ศึกษาและทดลองทำนาบ้าง และทราบดีว่า การทำนานั้นมีความยากลำบากเป็นอุปสรรคอยู่มิใช่น้อย จำเป็นต้องอาศัยพันธุ์ข้าวที่ดี และต้องใช้วิชาการต่างๆ ด้วย จึงจะได้ผล เป็นล่ำเป็นสัน อีกประการหนึ่ง ที่นานั้น เมื่อสิ้นฤดูทำนาแล้ว ควรจะปลูกพืชอื่นๆ บ้าง เพราะจะเพิ่มรายได้ให้อีกไม่น้อย ทั้งจะช่วยให้ดินร่วน ช่วยเพิ่มปุ๋ยกากพืช ทำให้ลักษณะเนื้อดินดีขึ้น เหมาะสำหรับจะทำนาในฤดูต่อไป”
3. ในโอกาสนี้ คนไทยทุกหมู่เหล่า ควรน้อมจิตใจ จิตวิญญาณ ด้วยหลักธรรมอันถูกต้อง
ดั่งที่ “สมเด็จพระวันรัต” วัดบวรนิเวศวิหาร ได้แต่งและแปลคาถาถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ปรากฏอยู่ในราชกิจจานุเบกษา ท้ายหมายกําหนดการ พระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต ดังคำแปลว่า
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน มีพระวิริยอุตสาหะ มีพระวิสัยทัศน์ยาวไกล มีปัญญาฉลาดหลักแหลมในการปกครองประเทศ
ทรงเป็นพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่กว่าพระมหาราชใดๆ ในโลก
ทรงได้รับการสรรเสริญ สักการะ นับถือ บูชา ยกย่องว่าเป็นเทวดาที่ยังมีชีวิตอยู่ของปวงพสกนิกรชาวไทย
ทรงครองสิริราชสมบัติเพื่อประโยชน์สุข แห่งมหาชนชาวสยาม สิ้นกาลเวลา 70 ปี แม้ฉันใด แต่ความชราและความตายย่อมพรากองค์พระภูมินทร์ ฉันนั้น ความตายหาได้ละเว้นใครๆ ไม่ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพทย์ ศูทร คนจัณฑาล ความตายย่อมทําลายทุกสิ่งถ้วนทั่ว เพราะฉะนั้นแลผู้เป็นบัณฑิตเมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ ส่วนตนก็พึงดําเนินชีวิตของตนให้ยิ่งด้วยความไม่ประมาท
บุคคลผู้ไม่ประมาทย่อมจะได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ส่วน คือ ประโยชน์ปัจจุบันและประโยชน์ในภายภาคหน้า
ผู้มีปัญญารู้อรรถสาระแห่งพระบาลีตามที่ สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสไว้ดีแล้วน้อมปฏิบัติ โดยประการที่ชีวิตจะเป็นชีวิตที่มีสาระ ไม่เป็นชีวิตเปล่าประโยชน์ (ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท)
บุญอันใดที่ข้าพเจ้าได้ทําแล้ว ณ กาลบัดนี้ ด้วยเหตุแห่งบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําแล้ว และด้วยการถวายพระราชกุศลอันนี้ ด้วยความปรารถนาอันใดอันหนึ่งที่เป็นกุศลของข้าพเจ้า ขอบุญและความหวังนั้นจงสําเร็จโดยง่ายทุกเมื่อ
ขอพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จงทรงเป็นผู้มีส่วนแห่งปัตติทานของข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอพระองค์จงถึงซึ่งบทอันเกษม คือ พระนิพพาน ขอความปรารถนาอันดีงามของพระองค์ทั้งปวงนั้นจงสําเร็จโดยพลัน เทอญฯ”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี