ความรักภักดี ที่พสกนิกรชาวไทย มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ ชัดแจ้ง เป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้
1. ความทรงจำร่วมของคนในชาติ
“ความทรงจำร่วม” ของคนในชาติ ล้วนเป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่ในตัว ว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวง ไม่ว่าจะเป็น ทรงไม่ถือพระองค์ ติดดิน
ใกล้ชิดประชาชน ตั้งแต่เมื่อครั้งเสด็จฯไปทั่วทุกหัวระแหง ทรงนั่งคุยกับชาวบ้าน ทรงจิบสุราที่ชาวเขาถวาย ทรงสัมผัสเนื้อตัวพสกนิกรที่รอเฝ้าด้วยความอ่อนโยน ฯลฯ
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ทำตัวเป็นเทพ แม้จะมีฐานความเชื่อเรื่องสมมุติเทพอยู่ในสังคมไทย
ไม่ได้มุ่งใช้อำนาจ หรือพระเดช แต่ใช้พระคุณ ความรัก ความเมตตา ก่อให้เกิดความศรัทธาบารมี
ประชาชนมองเห็นพระองค์ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของ สามีที่ดี พ่อที่ดี ลูกที่ดี
ทรงสมถะ ประหยัด พอเพียง ดังภาพเครื่องใช้ของพระองค์ที่ปรากฏ เช่น หลอดยาสีฟัน, รองพระบาท ฯลฯ
ทรงรักและเมตตาสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น สุนัข ช้าง ฯลฯ
พระองค์ทรงเป็นพุทธมามกะ เคยผนวช และทรงธรรมในการปกครองประเทศตลอดรัชสมัย
มีความเชื่อกันว่า ผู้ที่สามารถพัฒนาสมองข้างซ้ายซึ่งเก่งทางด้านวิทยาศาสตร์และตรรกศาสตร์ จะมีความด้อยในด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรีซึ่งพัฒนาจากสมองด้านขวา แต่สำหรับพระองค์ท่านมีพระปรีชาสามารถทั้งสองด้านซึ่งเป็นการทำลายความเชื่อดังกล่าว
ชาวไทยชื่นชมในพระปรีชาสามารถอันหลากหลายของพระองค์ ทั้งในทางวิชาการ ทรงมีและทรงใช้หลักวิชาการในการทรงงาน
มีทฤษฎีในการทำงาน และสามารถถ่ายทอดงานที่ทำจริงๆ นั้น เป็นทฤษฎีเพื่อการขยายผล ขยายต่อการเรียนรู้ต่อไปได้อีก ไม่ว่าจะเป็น ทฤษฎีใหม่ หรือเทคนิควิธีการทำฝนหลวง ฯลฯ
เวลาพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปไหนก็ต้องมีแผนที่ เพราะแผนที่คือทฤษฎีที่จำลองความจริงของพื้นที่ ทรงใช้ดินสอจดข้อมูล ปรับแก้ข้อมูลในแผนที่ให้ทันสมัย สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ทรงลงพื้นที่วิจัยเชิงสำรวจด้วยพระองค์เอง
ทรงเก็บข้อมูลพื้นที่จริงด้วยกล้องถ่ายรูป บันทึกภาพรายละเอียด เพื่อนำกลับมาวางแผน และถ่ายทอดงานให้เจ้าหน้าที่ไปทำต่ออย่างแม่นยำ
ชาวไทยยังชื่นชมในพระปรีชาสามารถด้านการดนตรี ศิลปวัฒนธรรมผ่านงานพระราชนิพนธ์บทเพลงทั้งหมด 48 บทเพลง (เพลงแสงเทียน เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก) ทั้งยังมีผลงานวรรณกรรม ทั้งพระราชนิพนธ์และแปล อีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ ทรงมีความสามารถทางกีฬา แข่งเรือ ต่อเรือ รวมไปถึงงานเทคนิคด้านวิทยาศาสตร์ เครื่องยนต์ กลไก เครื่องมือสื่อสาร วิทยุสื่อสาร พระนามเรียกขาน VR009 ทรงมีพระเนตรพระกรรณกว้างขวาง ทั้งประชาชนและคนทำงานอาสาสมัครล้วนสัมผัสได้จริงในพระเมตตาและความรักที่พระองค์มีต่อชาวไทย
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนมากกว่า 4,000 โครงการ ช่วยพลิกชีวิต สร้างชีวิต และสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่แก่คนไทยและคนทั่วโลกอย่างมหาศาล
ทั้งหมด เกิดจากการที่พระองค์เสด็จเพื่อรับทราบทุกข์สุขของประชาชนด้วยตัวพระองค์เอง
พระองค์พระราชทานพันธุ์ปลานิล ทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลพระองค์แรกในประเทศไทย โดยโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ทรงสนับสนุนการผสมเทียมสายพันธุ์ปลาหายากอย่างเช่นปลาบึก จนสามารถผสมเทียมสำเร็จ
ทรงศึกษาเรื่องหญ้าแฝกคลุมดิน เพื่อเผยแพร่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดิน กระทั่งทำให้สมาคมควบคุมการกัดเซาะผิวดินนานาชาติ (International Erosion Control Association : IECA) มีมติถวายรางวัล The International Erosion Control Association’s International Merit Award แด่พระองค์ ที่ทรงเป็นแบบอย่างในการนำหญ้าแฝกมาใช้อนุรักษ์ดินและน้ำ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2536
พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโรงพยาบาลปอดเหล็ก จัดซื้อเวชภัณฑ์เพื่อสู้กับวัณโรคที่กำลังระบาดหนัก สนับสนุนให้สภากาชาดไทยผลิตวัคซีน BCG ป้องกันวัณโรค จนกระทั่งปราบวัณโรคได้สำเร็จ
ทรงหาทุนโดยเสด็จพระราชกุศลด้วยการ “เป่าแซกโซโฟนตามคำขอ” มีพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนโทรศัพท์มาขอเพลงผ่านวิทยุ อส.ได้ ทรงก่อตั้ง “กองทุนปราบอหิวาตกโรค” โดยให้การสนับสนุนสภากาชาดไทยซื้ออุปกรณ์เพื่อผลิตวัคซีน เครื่องมือวิจัยโรค ในที่สุด โรคอหิวาตกโรคหยุดระบาดในระยะเวลาเพียง 1 ปี 5 เดือน
งานพระราชกรณียกิจแต่ละเรื่องที่พระองค์ทรงทำจนสำเร็จนั้น บางอย่างเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะสำเร็จได้ หรือจะเกิดขึ้นได้ เช่น ฝนหลวง เปลี่ยนดินที่ไม่สามารถเพาะปลูกให้เพาะปลูกได้ เปลี่ยนท้องที่ปลูกฝิ่นเป็นพื้นที่โครงการหลวง ปลูกพืชพรรณอาหารที่เป็นประโยชน์ ฯลฯ ทั้งหมดสำเร็จได้ ด้วยทรงเป็นผู้ที่มีความเพียรเป็นเลิศ พระองค์ทรงทำเป็นแบบอย่าง ทรงประพฤติปฏิบัติเองให้คนไทยเห็นความสำคัญของความเพียร และยังทรงแต่งเรื่อง พระมหาชนก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่นต่อๆ ไปด้วย
2. ทำไมคนไทยจึงรักในหลวงรัชกาลที่ 9
สถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญต่อประเทศชาติมายาวนาน ทำให้คนไทยมีความรู้สึกเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
แม้เมื่อถึงรัชสมัยของในหลวง รัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์ สถาบันพระมหากษัตริย์มีข้อจำกัด ทั้งนี้เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศ ทั้งแรงกดดันถาโถมจากต่างประเทศ ทำให้สถานะของสถาบันพระหากษัตริย์ต่างไปจากเดิม ในเชิงอำนาจก็ไม่สมบูรณาสิทธิ์เหมือนเช่นในอดีต ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้เน้นการทำงานร่วมกับประชาชน ซึ่งพระองค์สามารถหล่อรวม เชื่อมต่อกับประชาชนคนไทย ข้ามยุคสมัยได้อย่างสมบูรณ์โดยตลอด
ส่วนหนึ่ง ก็เพราะในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นกษัตริย์ ในขณะนั้นไม่มีใครรอบข้างคาดว่าท่านจะเป็นกษัตริย์
ทรงมีมารดาที่เป็นคนสามัญ สมเด็จย่าฯ เป็นสามัญชน
ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่น ทำอาหาร เก็บดอกไม้ ทำการ์ดอวยพร ด้วยตัวเอง
สมเด็จย่าทรงให้ในหลวงทั้งสองพระองค์ เรียนร่วมกับคนธรรมดาสามัญ ทำให้ได้เรียนรู้ สัมผัส และสนใจชีวิตคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งน่าจะเป็นรากฐานให้ในหลวง รัชกาลที่ 9 เข้าใจและสนใจชีวิตของประชาชนทั่วไป
ทรงเข้าใจประชาชน ทรงเข้าถึงประชาชน จึงทรงครองหัวใจประชาชน
พระองค์เสด็จพระราชดำเนินร่วมกิจกรรมกับประชาชนทุกระดับ
ไม่ว่าจะเป็น กองทัพ โดยพระมหากษัตริย์ไทยแต่เดิมถือเป็นจอมทัพไทยเป็นนักรบ แต่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ไม่ได้เป็นทหารแต่กำเนิด ก็สามารถเอาชนะใจกองทัพไทย มีสถานะเป็นจอมทัพ ที่ได้รับการยอมรับจากขุนทหารทั้งหมด
ทรงสัมพันธ์กับปัญญาชน ด้วยการพระราชทานปริญญาบัตร และเสด็จทรงดนตรีที่มหาวิทยาลัยต่างๆ เสด็จพระราชดำเนินไปในชนบทหมู่บ้านทุกหนแห่ง เพื่อเยี่ยมเยียนและรับทราบปัญหาของประชาชนทั่วไป
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เป็นพระองค์แรกของไทย และได้ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด
พระองค์ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุด เป็นผู้เข้าใจการเมืองไทยดีที่สุด เห็นการเปลี่ยนแปลงของการเมืองไทยมามากและยาวนานที่สุดของไทย
ในทางการเมือง จึงเป็นศูนย์รวมใจ เป็นที่เคารพสักการะ จึงสามารถขจัดความขัดแย้งทางการเมืองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น
กรณี 14 ตุลา 2516, พฤษภาทมิฬ 2535 ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังทรงออกเยี่ยมรับฟังปัญหาจากประชาชนทุกท้องที่, ทรงแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เรื่องดิน เรื่องความแห้งแล้ง รวมถึง
พันธุ์ข้าว สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ในขณะนั้นที่เป็นเกษตรกร
ด้วยเหตุนี้ สถาบันกษัตริย์ในยุคสมัยของพระองค์ท่าน นอกจากจะเป็นที่พึ่งที่อาศัยคุ้มเกล้าฯ ของประชาชนแล้ว ประชาชนยังเป็นเกราะที่คอยปกป้องคุ้มครองสถาบันด้วย
คนที่รักและเห็นความดีของพระองค์ ไม่ใช่แค่คนไทย ทรงเป็นแบบอย่างของกษัตริย์จิกมี ประเทศภูฏาน และทรงได้รับการกล่าวเทิดพระเกียรติจากพระมหากษัตริย์ทั่วโลกว่าเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในหมู่พระมหากษัตริย์ด้วยกัน
ยูเนสโก ยกย่องให้ท่านเป็น กษัตริย์นักพัฒนา King of the World
3. สานต่อแนวทางของในหลวง รัชกาลที่ 9
แม้จะสิ้นรัชสมัยของในหลวง รัชกาลที่ 9 แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ยังคงสืบสานบทบาทสำคัญที่มีต่อประเทศชาติและประชาชนไทยต่อไป
คนไทยแม้จะโศกเศร้ากับความสูญเสีย แต่ก็ควรแปรเป็นพลัง สืบสานปณิธานของพระองค์ท่านต่อไป
น้อมนำคำสอน และสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง มาสู่การลงมือทำอย่างแท้จริง ทั้งในระดับประชาชนคนธรรมดา รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมืองการปกครองด้วยทศพิธราชธรรม
เพื่อฟ้าใหม่ของแผ่นดินไทย จะเป็นฟ้าวันใหม่ของความรุ่งโรจน์ ตราบนานเท่านาน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี