ชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยแพร่ผลสำรวจเรื่องการเมืองกับการปฏิรูปประเทศในสายตาประชาชนครั้งล่าสุดสรุปสาระสำคัญได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.9 มองว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้ายังจะเหมือนเดิม และที่น่าเป็นห่วงคือร้อยละ 20.2 ระบุว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นจะมีมากขึ้น มีเพียงร้อยละ 10.9 เชื่อว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นจะลดน้อยลง
นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือผลสำรวจสะท้อนว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 56.3 เชื่อว่า ความขัดแย้งและความรุนแรงของคนในชาติจะกลับมาเหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 27.3 ระบุว่าความขัดแย้งและความรุนแรงจะมีมากขึ้น โดยมีเพียงร้อยละ 15.9 ที่เชื่อว่าความขัดแย้งและความรุนแรงจะลดน้อยลง
ส่วนในประเด็นการรับรู้ถึงการปฏิรูปตัวเองของนักการเมือง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 75.9 ยังไม่เห็นว่านักการเมืองมีการปฏิรูปตัวเอง ขณะที่ร้อยละ 24.1 เห็นการปฏิรูปแล้ว
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.4 เรียกร้องให้นักการเมืองควรปฏิรูปตัวเองก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเห็นว่าเป็นนักการเมืองที่ดี มีคุณภาพ ไม่โกง โดยประชาชนหวั่นเกรงว่าจะได้นักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่นกลับมาอีก ปัญหาการซื้อเสียงจะกลับมา ขณะเดียวกันประชาชนก็กลัวปัญหาความวุ่นวายความรุนแรงทางการเมืองจะคืนชีพโดยเฉพาะพวกเผาบ้านเผาเมือง และในที่สุดการปฏิวัติรัฐประหารก็จะกลับมาอีกถ้านักการเมืองไม่ปฏิรูปตัวเอง ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองหยุดชะงักถอยหลังเข้าคลองอีกไม่หลุดพ้นจากวงจรเดิมเสียที ขณะที่มีประชาชนเพียงร้อยละ 26.6 ต้องการเห็นการเลือกตั้งก่อนที่จะมีการปฏิรูปเพราะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
แต่ที่แปลกสำหรับเหตุผลหนึ่งของประชาชนเสียงข้างน้อยที่อยากเลือกตั้งก่อนปฏิรูปก็คือ อยากได้เงินจากพวกหัวคะแนน ซึ่งถือเป็นเหตุผลที่อันตรายและสวนทางกับความเป็นประชาธิปไตยสิ้นเชิง
ผลสำรวจซูปเปอร์โพลสะท้อนนัยสำคัญทางการเมืองซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงในปัจจุบันว่า นักการเมืองและพรรคการเมืองบางพรรคที่เป็นบริษัทธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันเลวร้ายแบบเดิมๆ โดยยังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านขัดขวางการปฏิรูปประเทศ และใช้เล่ห์กลทางการเมืองด้วยวิธีการสกปรกทุกรูปแบบบ่อนทำลายป้ายสีอำนาจรัฐปัจจุบัน โดยหวังจะกลับมายึดครองประเทศมีอำนาจยิ่งใหญ่ฟื้นระบอบธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอีกครั้งหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
พรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมบางพรรคยังไม่ได้ปฏิรูปตัวเองแม้แต่น้อยเพราะโครงสร้างพรรคยังคงมีลักษณะไม่ต่างจากบริษัทการเมืองจำกัดที่อำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายทุนเจ้าของพรรคเพียงคนเดียวที่เป็นอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกซึ่งบงการอยู่ในต่างแดน ขณะเดียวกันแนวทางการให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐของพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมก็คือ ทุ่มเงินหรือใช้
ผลประโยชน์ทุกรูปแบบซื้อ สส.หรือกลุ่มการเมืองให้ได้มากที่สุด จากนั้นซื้อเสียงเอาชนะการเลือกตั้งเพื่อเป็นรัฐบาลแล้วทุจริตคอร์รัปชั่นถอนทุนบวกกำไรโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬาร ตลอดจนใช้อำนาจรัฐโกงทุกรูปแบบเพื่อผูกขาดอำนาจรัฐในระยะยาวไม่ต่างจากประชาธิปไตยจอมปลอมที่ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประเทศ ซื้อประชาธิปไตย
ดังนั้นถ้านักการเมืองยังไม่ปฏิรูปตัวเอง การเลือกตั้งอย่างเดียวคงไม่ใช่คำตอบของประชาธิปไตยที่แท้จริงซึ่งจะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งการที่พรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมบางพรรคยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองยังมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ อนาคตของประเทศแม้จะมีการเลือกตั้งคงมืดมน เพราะหากพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมเผชิญชนะการเลือกตั้งและกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง แน่นอนว่าย่อมไม่ทิ้งพฤติกรรมชั่วร้ายแบบเดิมๆ นั่นคือโกงชาติปล้นแผ่นดินและใช้อำนาจในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมตามใจชอบซึ่งจะเป็นชนวนให้ประชาชนจำนวนมากออกมาต่อต้านขับไล่กลายเป็นวิกฤติความรุนแรงทางการเมืองซ้ำรอยอดีต ในที่สุดกองทัพก็จำเป็นต้องเข้ามาคลี่คลายวิกฤติด้วยการยึดอำนาจกลายเป็นวงจรอุบาทว์ไม่รู้จบ
แม้ประชาชนส่วนใหญ่จะเอือมระอาต่อพฤติการณ์อันเลวร้ายของนักกินเมืองกลุ่มหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติสร้างความบอบช้ำให้ประเทศตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แต่การเลือกตั้งก็คงจะต้องมีขึ้นตามโรดแมปในราวปลายปีหน้า ดังนั้นประชาชนจะเป็นตัวแปรสำคัญในการปฏิรูปกำหนดอนาคตของประเทศอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยย้ำมาหลายครั้งทำนองว่า ประชาชนต้องรู้จักสรุปบทเรียนไม่เลือกผิดอีกเพราะหากเลือกพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมกลับมามีอำนาจนั่นหมายถึงวังวนของวงจรอุบาทว์ซ้ำซากจะกลับมาอีกครั้ง
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี