การที่พรรคทางเลือกเยอรมนี (AFD - Alternative for Germany / Alternative Für Deutschland) ได้รับการเลือกเป็นจำนวนมากจากชาวเยอรมัน ถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ทางการเมืองเยอรมนี ที่น่าจับตามอง
เพราะนับตั้งแต่การสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา พรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ชาตินิยมสุดโต่งที่ตั้งขึ้น ต่างไม่สามารถมีบทบาททางการเมืองในระดับชาติของเยอรมนีได้เลย ผิดกับการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2017 เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ที่ได้คะแนนเสียงถึงร้อยละ 15 เรียกว่าเกินความคาดหมาย โดยทอนออกมาเป็นที่นั่งแล้ว ก็ได้กว่า 90 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมดประมาณ 625 ที่นั่ง ซึ่งจำนวนเก้าอี้ที่ได้นั้น เป็นการช่วงชิงคะแนนเสียงมาจากพรรคร่วมรัฐบาลชุดก่อน (พรรคคริสเตียนเดโมแครต - CDU และพรรคคู่แฝด พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน – CSU แห่งมลรัฐบาวาเรีย และพรรคสังคมประชาธิปไตย – SPD)
โดยพรรคคู่แฝด CDU/CSU แม้หลังการเลือกตั้งยังได้คะแนนรวมสูงสุด สามารถเป็นผู้ตั้งคณะรัฐบาลชุดต่อไปก็จริง แต่นับว่า เป็นเสียงข้างมากที่จำนวนลดน้อยลง เสมือนชนะ แต่ก็เห็นถึงความนิยมชมชอบที่ถดถอย
เกจิอาจารย์การเมืองเยอรมันต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ที่พรรคร่วมรัฐบาลคะแนนตกลงไปมากนั้น มีสาเหตุจากการที่ผู้คนไม่พึงพอใจต่อนโยบายการเปิดประเทศให้ผู้อพยพลี้ภัยจากตะวันออกอย่างเร่งด่วน (โดยเฉพาะจากประเทศซีเรียเข้ามาถึง 900,000 คน) และขาดการเตรียมตัวรองรับอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ก่อให้เกิดกระแสการต่อต้านผู้อพยพต่างชาติ บวกกับประเด็นปัญหาจากเหตุการณ์ก่อการร้าย ซึ่งมักจะเกี่ยวโยงกับผู้นับถือศาสนาอิสลาม ประชาชนก็เลยเกิดอาการเหมารวมว่า เป็นความยุ่งยาก
โดยทำให้ประเด็นปัญหาที่ประชาชนเห็นชัดขึ้นมาก็คือ ความเป็นหัวรุนแรงทางศาสนา กับความมั่นคงสงบสุขภายใน กลายเป็นเหตุการณ์ที่สบโอกาสให้กับพวกมีความคิดเชื้อชาตินิยม ศาสนานิยม สีผิวนิยม ได้กระพือเรื่องราวให้เกิดความกลัว และความเกลียดชัง เรียกร้องคะแนนนิยมให้กับตนเอง และโหมประณามฝ่ายรัฐบาล
เมื่อรู้ที่มาที่ไปของสถานการณ์แล้ว ก็เลยมีคำถามต่อไปว่า แล้วพรรคและขบวนการการเมืองขวาจัดเหล่านี้ จะมีความยั่งยืนและขยายฐานเสียงได้อีกต่อไปหรือไม่ อย่างไร?
วงการคอการเมืองก็มองวิเคราะห์ให้ฟังว่า คะแนนเสียงที่เทให้พรรค AFD นั้น แม้จะได้ไปจากกลุ่มที่เชื่อเรื่องชาตินิยม ปฏิเสธคนต่างชาติต่างศาสนาก็จริงอยู่ แต่ก็อย่าลืมว่า ยังมีพวกที่เลือกเพราะต้องการจะสั่งสอนรัฐบาลว่า พวกท่านทำงานทำการไม่ได้เรื่องได้ราว และถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูปตัวและแก้ไข รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งก็ต้องการจี้ให้ฝ่ายรัฐบาลตื่นตัว คิดการให้รอบคอบกว่านี้ ฉะนั้นจึงต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การพุ่งพรวดของคะแนนพรรคฝ่ายขวาจัดเหล่านี้ในสังคมเยอรมัน เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่น่าจะยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเยอรมันโดยทั่วไป ยังจดจำประวัติศาสตร์อันน่าอดสูขื่นขมในสมัยสงครามโลกได้ และต่างอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ต้องการให้ประชาธิปไตยสูญหาย รวมทั้งมิต้องการให้ผู้ใดมาทำลายประชาธิปไตย ไม่อยากเห็นหรือได้สัมผัสการเมืองแบบเผด็จการชาตินิยม และเชื้อชาตินิยมอีกแล้ว เพราะนั่นคือความหายนะ
อีกทั้งที่ผ่านๆ มาในการเมืองของเยอรมนี มีพรรคหลักทั้งใหญ่และเล็ก ที่ได้ปักเสาหลักการเมืองอย่างมั่นคง ได้รับแรงสนับสนุนจากสมาชิกและประชาชนไม่ว่าจะเป็นพรรค CDU / CSU พรรค SPD พรรค Green พรรค FDP ซึ่งรวมแล้วก็เป็นเสียงข้างมากอย่างมากมาย ก็คงไม่ยินยอมให้พรรคขวาจัด หรือซ้ายจัดได้เข้ามามีอิทธิพลชี้นำ ครอบงำสังคมเยอรมันเป็นอันขาด
แต่ก็แน่นอนรัฐบาลผสมชุดใหม่ของเยอรมนี ซึ่งคงประกอบด้วย พรรค CDU / CSU พรรค FDP และพรรค Green นั้น ก็ต้องเร่งรีบแก้ปัญหาผู้อพยพลี้ภัย รวมไปถึงแรงงานต่างชาติให้สามารถปรับตัวและผสมผสานกัน (integrate) เข้ากับวิถีชีวิตของสังคมเยอรมันให้ได้ คือ มีความเป็นพลเมืองเยอรมันให้ได้ โดยไม่เป็นคนต่าง คนนอก หรือคนที่เข้ากับสังคมทั่วไปไม่ได้
อีกประเด็นหนึ่งคือ ถึงแม้ว่าการรวมประเทศระหว่างเยอรมนีตะวันตก กับตะวันออก มากว่า 20 ปี จะประสบความสำเร็จอย่างมากแล้วก็ตาม แต่ความรู้สึกต่ำต้อย ปรับตัวมิได้ยังคงมีอยู่ในพลเมืองเยอรมันตะวันออก ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้นำประเทศจะต้องสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียว สร้างโอกาส และส่งเสริมขวัญกำลังใจ และความทัดเทียม
เยอรมนีมีสถานะเป็นผู้นำสหภาพยุโรป และมีบทบาทสำคัญในโลกกว้าง ดังนั้นหากเยอรมนีจะนำพาโลกไปได้ การเมืองภายในก็จะต้องมีเสถียรภาพ และเป็นประเทศเจริญก้าวหน้าภายในกรอบของสังคมประชาธิปไตย ซึ่งดูๆ แล้ว เสถียรภาพของเยอรมนีก็ยังจะไปต่อได้ และประชาธิปไตยของเยอรมนีก็น่าจะยั่งยืนต่อไป
ดังนั้น ในอนาคต ยุโรป และโลก ก็ยังน่าจะสามารถหายใจได้ทั่วท้องได้ในระดับหนึ่ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี