การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าของประเทศให้กลับมาเฟื่องฟูฟื้นตัวยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าในปัจจุบันรัฐบาลได้ออกมาตรการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนำไปแจกแก่คนยากจนจำนวน 13 ล้านคน ทั่วประเทศซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยใช้วงเงินทั้งหมด 40,000 ล้านบาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วคนจนจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐคนละ 600-700 บาทต่อเดือน
มาตรการนี้ใครจะว่าเป็นการหาเสียงของรัฐบาล คสช.ก็ตามแต่ถือว่าเป็นการนำเงินไปให้คนยากจนที่มีอยู่ร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด 65 ล้านคน ได้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเงินเดือนละ 700 บาท อาจจะดูน้อยมากสำหรับคนที่มีฐานะในเมืองใหญ่แต่สำหรับคนในชนบทแล้วถือว่ามากพอสมควร
เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2560 มีแนวโน้มที่สดใสมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา คาดว่าเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วคือปี 2559 แต่การขยายตัวนั้นส่งผลเฉพาะคนชั้นกลางและคนที่มีฐานะร่ำรวยในเมืองใหญ่เท่านั้นแต่คนระดับรากหญ้ากลับรู้สึกว่าย่ำแย่หากนำไปเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจในยุครัฐบาลระบอบทักษิณ
เพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เอาเงินภาษีของคนในเมืองใหญ่มาแจกให้ประชาชนในระดับรากหญ้าในชนบทตามนโยบายประชานิยมแบบสุดลิ่มทิ่มประตูที่พรรคการเมืองในระบอบทักษิณใช้คือการใช้เงินมาซื้อพืชผลทางด้านการเกษตรแบบไม่คำนึงถึงภาวะราคาในตลาดโลกจนเกิดปัญหาขาดทุนอย่างมโหฬารหลายๆ แสนล้านบาท
การแก้ไขปัญหาคนระดับรากหญ้าที่ไม่มีกำลังซื้อนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะประเทศไทยมีประชากรน้อยไม่ถึง 70 ล้านคน วิธีแก้ไขที่ได้ผลเร็วที่สุดก็คือรัฐบาลต้องเอาเงินงบประมาณมาแจกให้คนจนได้มีเงินใช้ซึ่งวิธีนี้ในอดีตในยุคที่โลกเกิดเศรษฐกิจตกต่ำเงินฝืดในปี 2473-2478
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ได้ใช้วิธีการลงทุนสร้างงานให้ประชาชนมีงานทำเมื่อประชาชนมีงานมีรายได้ก็จะมีเงินมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ มีผลให้เศรษฐกิจพ้นภาวะการถดถอยเงินไม่ฝืดกำลังซื้อในระดับรากหญ้าดีขึ้นเศรษฐกิจของประเทศก็จะขยายตัว
ตามข้อเท็จจริงภาวะเศรษฐกิจของไทยในปี 2558-2560 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารประเทศด้วยการรัฐประหารล้มรัฐบาลขี้โกงของนักการเมืองในระบอบทักษิณไปได้สำเร็จนั้นก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายแต่อย่างใดนักแต่เป็นเพราะประชาชนในระดับรากหญ้าที่เป็นฐานคะแนนเสียงใหญ่ของระบอบทักษิณไม่มีเงินใช้จ่ายประกอบกับสื่อมวลชนที่เป็นทาสรับใช้นักการเมืองออกมาโจมตีรัฐบาลแบบมีอคติ
วิธีแก้ไขโดยเร็วและได้ผลที่สุดด้วยการที่รัฐบาลออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้กระทำมานั้นถือได้ว่ามาถูกทางแล้วถ้าหากเห็นว่าวงเงินคนละ 700 บาท น้อยเกินไปไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้รัฐบาลก็ใช้วิธีเพิ่มวงเงินอีกคนละ 700-800
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี