เมื่อเร็วๆนี้ได้เคยนำเรื่อง “มหาโจร 5 ประเภท” มาพูดให้ฟัง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนที่ไม่ถูกต้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้าในลักษณะต่างๆมาแล้ว วันนี้จึงอยากจะนำเรื่องลักษณะในการกระทำของมนุษย์ 5 ประเภท มาพูดสู่กันฟังบ้าง ซึ่งเป็นลักษณะแห่งการกระทำของมนุษย์ตามคำสอนในพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน ว่ามนุษย์แต่ละประเภทดังกล่าวนี้มีลักษณะในการกระทำของแต่ละประเภทเป็นอย่างไร
เพราะความเป็นมนุษย์นั้นมีที่มาและที่ไปไม่เหมือนกัน
ที่มาและที่ไปซึ่งไม่เหมือนกันของมนุษย์ใน 5 ประเภทดังกล่าวนี่แหละ เป็นบ่อเกิดให้มนุษย์มีความแตกต่างกันในลักษณะต่างๆ ตระกูลสูงก็มี ตระกูลต่ำก็มี สติปัญญามีไม่เท่ากัน หรือมีฐานะความเป็นอยู่ไม่เท่ากัน ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ล้วนมาจากผลแห่งกรรมในอดีต
อำนาจของกรรมเป็นอำนาจที่ทำให้เกิดมาไม่เหมือนกัน คือจะเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาเป็นสัตว์ แม้เทวดาก็อาจเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ เป็นสัตว์ได้ และสัตว์นั้นก็อาจไปเกิดเป็นมนุษย์ได้เช่นเดียวกัน
เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แต่บ้านเมืองในทุกวันนี้ก็ยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจากการกระทำของคนไทยด้วยกันเอง โดยไม่คำนึงถึงกฎแห่งกรรมในหลักธรรมพุทธศาสนา ไม่ว่าความวุ่นวายนั้นจะมาจากการแก่งแย่งผลประโยชน์ต่างๆ ระหว่างกัน หรือการแย่งชิงอำนาจที่ไม่ใช่ของตนเอามาเป็นของตน และใช้อำนาจนั้นตามใจชอบ โดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
พฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ เป็นพฤติกรรมที่มีลักษณะของการกระทำที่สอดคล้องกับการกระทำในคำสอนทางพระพุทธศาสนา ที่ว่าด้วย “มนุษย์ 5 ประเภท” คือมีลักษณะที่แยกพฤติกรรมในการกระทำ 5 ลักษณะด้วยกัน คือประพฤติตน ปฏิบัติตนไม่เหมือนกัน 5 อย่าง ดังนี้
1. มนุสสนิรโย เปรียบเทียบมนุษย์ที่มีพฤติกรรมเหมือนสัตว์นรก มีจิตใจโหดร้าย เข่นฆ่าผู้อื่น ไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม
2. มนุสสเปโต เปรียบเทียบมนุษย์ที่มีพฤติกรรมเหมือนเปรต คือเป็นผู้หิวอยู่ตลอดเวลา มีความอยากอยู่ตลอดเวลา เป็นคนโลภ คนงก วิ่งหาโน่นหานี่ ไม่คำนึงถึงความถูก ความผิด เอาเปรียบคนอื่นตลอดเวลา
3. มนุสสเดรัจฉาโน เปรียบเทียบมนุษย์เหมือนสัตวเดรัจฉาน ไม่มีหิริโอตตัปปะคือความไม่ละอาย หน้าด้านหน้าทน ไม่กลัวบาป ไม่มีคุณธรรมศีลธรรม
4. มนุสสมนุสโส เปรียบเทียบพฤติกรรมของมนุษย์ที่รู้จักรับผิดชอบ รู้จักชั่วดี ทำแต่ในสิ่งดี
5. มนุสสเทโว เปรียบเทียบมนุษย์ที่มีพฤติกรรมเหมือนเทพ เหมือนเทวดา มีจิตใจงดงาม ทำแต่ในสิ่งดี
ทั้ง 5 ประการดังกล่าวจำแนกความแตกต่างของพฤติกรรมของมนุษย์ ว่ามนุษย์ผู้นั้นจัดอยู่ในลักษณะของความเป็นมนุษย์ประเภทไหน
เอามาจำแนกแยกแยะกับพฤติกรรมหรือการกระทำของคนมีหน้าที่ที่ต้องทำได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าหน้าที่นั้นจะเป็นหน้าที่ในราชการ ในการเมืองการปกครอง หรือหน้าที่ในภาคเอกชนต่างๆ สามารถนำมาประยุกต์เปรียบเทียบได้ทั้งสิ้น
ที่เห็นๆกันอยู่ในขณะนี้ มีจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในระนาบเดียวกับลักษณะประเภท “มนุสสนิรโย” “มนุสสเปโต” และ “มนุสสเดรัจฉาโน” หาความมงคลในชีวิตตนไม่ได้ สำหรับประเภท “มนุสสมนุสโส” นั้นก็พอมีอยู่ในการทำงานในหน้าที่ ทั้งในภาคราชการและภาคเอกชนบางแห่ง ที่มีพฤติกรรมรู้จักผิดชอบชั่วดี ทำแต่ในสิ่งดี
“มนุสสเทโว” นั้นก็พอมีอยู่บ้างแต่ก็น้อยมาก ดูได้จากความประณีต งดงาม มีกิริยาวาจามารยาทที่สุภาพอ่อนโยน ไพเราะเรียบร้อย ผิวพรรณวรรณะที่งดงาม เฉลียวฉลาด เหมือนเทวดามาเกิดเป็นมนุษย์
ทุกลักษณะและประเภทของมนุษย์ดังกล่าวนี้ล้วนแล้วแต่มาจากการทำกรรมดี หรือกรรมชั่ว ที่ทำมาในแต่ละภพแต่ละชาติที่เกิด ทับถมและซับซ้อนกันจนแยกไม่ออกว่า ได้ทำกรรมใดก่อน ทำกรรมใดหลัง หรือมากน้อยกว่ากันอย่างไร เป็นความซับซ้อนของกรรมที่แยกไม่ออก
เกิดมาต่างกันในชาตินี้ก็เพราะทำกรรมไว้ไม่เหมือนกัน
ได้ดิบได้ดี มีตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆทำ มียศศักดิ์สูง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใด โดยเฉพาะในหน้าที่สูงๆ ในการบริหารปกครองบ้านเมืองด้วยแล้ว ก็เพราะเคยทำกรรมดีมาก่อน เพราะฉะนั้นในชาติที่กำลังมีชีวิตอยู่นี้จึงต้องยิ่งนึกถึงในเรื่องอย่างนี้ให้มาก และทำแต่สิ่งที่ดีต่อไป ถ้าต้องเป็นคนรับผิดชอบในการบริหารปกครองบ้านเมืองด้วยแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังในสิ่งที่ตนทำให้มากยิ่งกว่าคนอื่นๆ แต่ถ้าคิดเพียงว่ามีอำนาจอยู่ในมือก็จะทำอย่างไรก็ได้ ใครติใครเตือนไม่ฟัง
โดยเฉพาะต้องไม่พึงใจต่อความคิดเห็น ที่มาจากคนประจบสอพลอเพื่อประโยชน์ตน หรือคล้อยตามพวกประจบสอพลอเคล้าแข้งขาอยู่ในขณะนี้ เพราะคนเหล่านี้จะทำให้ต้องสะดุดขาตัวเองจนล้มคว่ำ
เป็นกรรมไม่ดีติดตัวไปถึงชาติหน้า
ต้องหมั่นซักใจตนเองให้สะอาด เพื่อทำให้ใจไม่สกปรก ยิ่งต้องมารับภาระหน้าที่ใหญ่โตในชาตินี้ ยิ่งต้องรู้จักซักใจตน ห้ามใจตนไม่ให้ติดยึดอยู่กับความอยาก หรือสะสางให้หมดไป หรือไม่เกิดขึ้นในใจแบบสะสม ไม่รู้จักซักล้าง
ถ้าแยกใจ ชำระใจได้อย่างนี้ ก็เหมือนกับดวงจันทร์ที่แยกออกจากเมฆ เพราะสิ่งไม่ดีต่างๆเหล่านั้นก็เหมือนเมฆหมอกที่มาบังใจตลอดเวลานั่นเอง
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี