ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในสังคมถือเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้บริหารประเทศหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันยังไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันได้สร้างปัญหาทางการเมืองจากการที่กลุ่มการเมืองบางกลุ่มฉวยโอกาสอาศัยความยากจนและความเหลื่อมล้ำมาเป็นเครื่องมือหาเสียงสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง และอาศัยประชาชนระดับรากหญ้าเป็นฐานคะแนนเสียงและถึงกับใช้เป็นเครื่องมือเคลื่อนไหวทางการเมือง
เมื่อราวปี 2518 ยุครัฐบาลพรรคกิจสังคมที่มี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรีได้พลิกประวัติศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ ด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ได้เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการและได้เข้าพบรัฐบุรุษของจีนคือเหมา เจ๋อ ตง อดีตประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยตอนหนึ่งของการสนทนาม.ร.ว.คึกฤทธิ์ถามผู้นำสูงสุดของจีน ว่าจะแก้ปัญหาการต่อสู้อำนาจรัฐด้วยกำลังอาวุธของพรรคมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้อย่างไร ซึ่งอดีตประธานเหมาตอบว่า ถ้าแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนได้ คอมมิวนิสต์ก็หมดไปเอง
คำกล่าวของอดีตประธานเหมาสะท้อนให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมืองนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทยซึ่งคนส่วนใหญ่ยังยากจนและมีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน ตลอดจนการแบ่งปันทรัพยากรภายในประเทศยังไม่เป็นธรรมอยู่มาก
จากความสำคัญของปัญหาความยากจนจึงไม่น่าแปลกใจที่หนึ่งในยุทธศาสตร์การเมืองนำการทหารภายใต้นโยบาย 66/2523 ซึ่งริเริ่มโดยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในอดีต ก็คือการแก้ไขปัญหาความยากจน
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาความยากจนไม่ควรทำแบบฉาบฉวยเพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองเฉพาะกลุ่ม ด้วยโครงการประชานิยมแบบลดแลกแจกแถมอย่างขาดความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นการมอมเมาสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชนที่ยากจนได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่กลับก่อให้เกิดผลร้ายตามมาในระยะยาวนั่นคือสร้างนิสัยค่านิยมแบมือขอจากรัฐอยู่ร่ำไปในหมู่ประชาชนระดับรากหญ้าโดยไม่พยายามพึ่งพาตัวเองและยังสร้างความหายนะล่มจมต่อการคลังของประเทศ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วมากมาย อาทิ โครงการรับจำนำข้าว
เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาความยากจนจะต้องไม่ใช้วิธีแจกปลาให้ประชาชน แต่ต้องสอนให้ประชาชนรู้จักวิธีจับหรือเลี้ยงปลาอันเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เพราะหากประชาชนสามารถพึ่งพาตัวเองดำรงชีวิตอยู่ได้และมีอาชีพเลี้ยงตัวเอง ปัญหาความยากจนก็หมดไป ไม่ต้องแบมือขอความช่วยเหลือจากรัฐ และปัญหาทางการเมืองจากประชาชนระดับรากหญ้าก็จะไม่เกิดขึ้นเหมือนเช่นทุกวันนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี