“หนูชอบ เวลาพี่พูดถึงลูกศิษย์ หนูสัมผัสได้ถึงความรักที่พี่มีให้เขา” น้องสาวคนหนึ่งกล่าว เมื่อผมเล่าถึงชีวิตศิษย์พระดาบสบางคนให้ฟัง และเล่าว่าพวกเราทำหน้าที่อะไรกันอยู่
ใช่ครับ ผมเป็นเพียง “ดาบสอาสา” สอนในวิชาธรรมดาๆ ที่บรรจุอยู่แค่ไม่กี่ชั่วโมง ในหลักสูตร 1 ปี ของโรงเรียนพระดาบส
“อยากให้เขามีหลักคิดที่ดี อยากให้เขายึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง เป็นแสงสว่าง เป็นหลักชัย” นั่นคือจุดหมายในใจของผม
...
ลูกศิษย์คนหนึ่งอยากเป็นพยาบาล เธอบอกผมอย่างนั้น เมื่อให้เล่าถึง “ความใฝ่ฝัน” ในชีวิต
“ทำไมถึงอยากเป็นพยาบาลล่ะ”
“ตอนเด็กๆ หนูพายายไปหาหมอ เราไปรอคิวตั้งแต่เช้า จนใกล้เที่ยง อยู่ๆ พยาบาลก็พาคนมีตังค์มาลัดคิวก่อน หนูก็เลย
คิดว่า หนูจะต้องเรียนพยาบาล แล้วหนูจะไม่ทำอย่างนั้น ยากดีมีจน ทุกคนต้องได้รับการดูแลเหมือนๆ กัน” เธอบอก
“แล้วทำไม่เรียนพยาบาลเสียเลยล่ะ มาเรียนที่นี่ทำไม” ผมถาม
“หนูไม่มีเงินหรอกค่ะอาจารย์ หนูต้องหาเงินให้ได้ก่อน หนูจึงมาสมัครเรียนที่นี่ โรงเรียนนี้ให้โอกาสคนจนอย่างเรา” เธอกล่าวพร้อมน้ำตาคลอหน่วย
...
“พระเจ้าอยู่หัวก็เป็นคนจนคนหนึ่ง” ผมเล่าให้นักเรียนฟังหน้าชั้น
“ท่านอยากได้จักรยาน สมเด็จย่าก็บอกให้ท่านเก็บเงิน ไม่มีเงินจะไปซื้อจักรยานคงไม่ได้ ท่านก็พากเพียรเก็บ จนได้ครบตามจำนวน วันที่สมเด็จย่าพาไปซื้อจักรยาน ท่านทรงให้รางวัล ด้วยการออกให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ลูกรู้ว่า หากลูกตั้งใจดี ทำความดี มีความเพียร รางวัลจะเกิดขึ้นกับลูก” ซึ่งเด็กๆ นั่งฟังตาแป๋ว
...
เด็กๆ ในที่นี้ มีตั้งแต่อายุ 17 ปี ถึง 35 ปี พวกเขาไม่เคยรู้ว่า ในหลวงทรงดำเนินชีวิตอย่างไรในวัยเด็ก เมื่อเล่าอีกหลายเรื่องให้ฟัง พวกเขาจึงนั่งฟังด้วยแววตาตื่นเต้น
“ฉะนั้น อย่ารังเกียจความจน อย่าเอาความจนมาเป็นปัญหา มาเรียนที่นี่ พระเจ้าอยู่หัวท่านไม่ได้หวังให้เรามานั่งแบกปัญหา หรือจมอยู่กับปัญหา ท่านให้มาเอาปัญญา ไปสร้างชีวิต จะได้ไม่อับจนเหมือนที่เคยอับจน จนยังพออยู่ได้ ถ้าใจเรารู้จักพอ แต่ถ้าอับจนเสียแล้ว อยู่อย่างไรก็ไม่เป็นสุข ดังนั้น ตั้งใจเรียนกันนะ เอาวิชาความรู้ไปสู้ชีวิตในวันข้างหน้ากัน” ผมบอก
...
เป็นอย่างนี้เสมอมา ที่ผมเลือกจะเล่าเรื่องเหล่านี้ กระตุ้นเตือนเขาทุกรุ่นว่า ชีวิตที่ผ่านมา เราย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ เมื่อวานเราจน ไม่ได้แปลว่าวันข้างหน้าเราจะจน ถ้าเราอดทน พากเพียร ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความขยันหมั่นเพียรและสุจริต รู้จักคิด รู้จักวางแผน เราก็กำหนดชีวิตของเราได้ จากเดิมที่ชีวิตกำหนดเรา เราไม่ได้กำหนดมัน ฉะนั้น ไม่ว่าจะผ่านอะไรมา จะมีช่วงเวลาที่เลวร้าย เป็นทุกข์สักกี่ครั้ง วางมันลงซะ จนแล้วก็จนไป พ่อแม่เลิกกันแล้วก็เลิกไป หรือเคยทะเลาะวิวาท มีคดีติดตัว ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด มันก็ไม่ใช่ชีวิตในวันนี้ของพวกเราแล้ว พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงให้โอกาส มาเรียนฟรี กินฟรี อยู่ฟรี เพื่อเอาความรู้ไปสร้างชีวิตใหม่ให้ดี สัญญากับครูซิ ว่าพวกเราจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังหรือเสียพระทัย” แน่นอน เด็กๆ ล้วนรับปากและสัญญา
...
ลูกศิษย์ของเรา เป็นเด็กที่สังคมหลงลืม ทอดทิ้ง แต่ในหลวงไม่ทรงทิ้งใครไว้ข้างหลัง จนจนไม่ได้เรียนใช่ไหม ครอบครัวมีปัญหาจนขาดโอกาสใช่ไหม อยู่กับตากับยาย ไม่มีใครช่วยวางแผนชีวิต บ้างก็เดินทางผิด ติดยา ทะเลาะวิวาท เด็กเหล่านี้ สังคมไม่ให้โอกาสมากนัก มีโรงเรียนไหน นึกถึงพวกเขาเหล่านี้บ้าง มีตาคู่ใด มองไปที่พวกเขาเหล่านี้บ้าง
...
ใครไม่นึก ไม่เป็นไร
ใครไม่เห็น ไม่เป็นไร
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเห็น และยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ลงมาฉุดมือน้อย ๆ และสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวต่อชีวิตของพวกเขาให้หยัดยืนขึ้น สบตากับชีวิต ยิ้มกับชีวิต เพื่อจะเริ่มสร้างชีวิตของตัวเอง ใน “โรงเรียนพระดาบส” ที่ทรงตั้งให้
...
เด็กเหล่านี้เป็นแก้วร้าวๆ แตกๆ มีตำหนิ เก่าคร่ำ และหมองหม่น ครูอย่างเรา ในนามดาบสอาสา คือ ผู้เข้ามาสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน มีหน้าที่ซ่อมแซมและหล่อหลอมพวกเขา ให้รู้ค่าของชีวิต ไม่หดหู่ท้อแท้ ไม่เอาความหลังมาแบกไว้บนบ่า ให้มองไปข้างหน้า พร้อมๆ กับมั่นใจว่า พระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรมองมาจากเบื้องหลังอยู่เสมอ เดินให้ดีนะลูกนะ เดินให้ตรงทางนะลูกนะ ปาดน้ำตา แล้วมาสร้างชีวิตใหม่กันดีกว่า
...
ดังนั้น เมื่อมีคนถามว่า “พี่จะปลูกดอกดาวเรืองไหม” ผมก็มักจะบอกเขาไปว่า ผมปลูกดาวเรืองถวาย “พ่อ” มาหลายปีแล้ว
เด็กๆ เหล่านี้ คือ ดาวเรืองของ “พ่อ”
จากเมล็ดแห้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะงอกและงามไหม คล้ายกับท่านมอบหมายให้เราฟูมฟักให้เห็นผล
...
ครูจะรดน้ำพรวนดินพวกหนูเอง
ครูจะปลูกดาวเรืองของ “พ่อ”
ดาวเรืองทุกต้นจะต้องเติบใหญ่ และออกดอกไสวให้ “พ่อ” ได้ “เห็น”
มาเป็น “ดาวเรืองของพ่อกันนะ” ลูกศิษย์ของครู
...
จะต้องใช้กี่ดอก...เพื่อบอกรัก
อย่างมั่นคงแน่นหนัก...รักในหลวง
กี่วันคืนจะสร่างโศกวิโยคปวง
เดือนปีล่วง...ตราบนิรันดร์...ยังมั่นรัก
จะกอบเก็บกี่คำมาย้ำเตือน
ก็ไม่เหมือน “ทำใจ” ให้มีหลัก
ว่าชีวิตหนึ่งนี้-โชคดีนัก
มีในหลวงให้ใจภักดิ์--รักนิรันดร์
ให้ได้เห็นแบบอย่าง, สร้างความดี
จะโลกนี้หรือโลกไหนในสวรรค์
ขอเพียงเราคนไทยพร้อมใจกัน
ร่วมสร้างสรรค์แผ่นดิน...จนสิ้นใจ
รู้อยู่, รู้ทำ, ด้วยความเพียร
ไม่เบียดเบียน, รักดี, มีแต่ให้
แผ่นดินนี้ไม่มีวันจะบรรลัย
เพียงคนไทยรู้จัก “รักแผ่นดิน”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี