มีบันทึกไว้ใน http://www.gotonakhon.com ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเยือนจ.นครศรีธรรมราช ช่วงปีพุทธศักราช 2501-พุทธศักราช 2533 ไม่ต่ำกว่า 16 ครั้ง
ครั้งหนึ่งเมื่อผมยังเป็นนักเรียนชั้นประถมโรงเรียนเทศบาลวัดชัยชุมพล ในตัวเมืองทุ่งสง ขบวนรถพระที่นั่งแล่นผ่านหน้าโรงเรียน คณะครูนักเรียนก็จะเข้าแถวล่วงหน้า ที่หน้าโรงเรียนโบกธงไตรรงค์ รอรับเสด็จอย่างเป็นระเบียบ
ที่จ.นครศรีธรรมราชนี้ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายอย่าง มีบันทึกเล่าขานกันมายาวนาน
อาทิ จาก http://www.naewna.com/likesara/298851 ที่ผมนำมาคัดลอกลงตีพิมพ์ในฉบับนี้ ก็ต้องขอบคุณ ทีมงาน “ชชาดล เจริญพงศ์” คณะผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยัง “บ่อน้ำเจ้าตัก”โรงเรียนบ้านหน้าเขา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สืบหาประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่ามาให้สังคมได้รับรู้
พร้อมสัมภาษณ์ คุณยายแจ่ม ธนาวุฒิ หรือ นามสกุลเดิม รักษ์ศรีทอง อายุ 89 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 9 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถึงความเป็นมาของบ่อน้ำเจ้าตัก ที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนบ้านหน้าเขา ว่าบ่อน้ำดังกล่าว นายเขียน ธนาวุฒิ สามีของตน ที่มีลูกๆ ด้วยกัน 5 คน เป็นคนขุดบ่อน้ำให้เด็กนักเรียนและครู รวมทั้งชาวบ้านได้ใช้น้ำในสมัยก่อน เนื่องจากสมัยก่อนนายเขียนได้อุทิศที่ดินส่วนตัวให้กับส่วนรวมเพื่อสร้างโรงเรียน จำนวนเนื้อที่21 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา หลังจากนั้นเป็นต้นมาเด็กได้เรียนหนังสือใกล้บ้าน จนมาถึงปัจจุบัน
สำหรับที่มาของคำว่า “บ่อน้ำเจ้าตัก” สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2516 ในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯมาที่โรงเรียนบ้านหน้าเขา โดยไม่มีหมายกำหนดการล่วงหน้า พระองค์ท่าน ขับรถจี๊ปขับเข้ามาจอดในโรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารติดตามมาติดๆ หลังจากนั้น พระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีและบุคคลในเชื้อพระวงศ์เสด็จลงมาจากรถ แล้วเดินไปที่บ่อน้ำแห่งนี้ พร้อมทั้งทรงใช้ หมาน้ำตักน้ำขึ้นมา (“หมาน้ำ” หมายถึงภาชนะที่คนโบราณใช้ตักน้ำ ทำมาจากตอกหมาก หรือกาบหมาก นำมาเย็บด้วยไม้ไผ่เป็นรูปร่างทรงสี่เหลี่ยมเพื่อใช้ตักน้ำในบ่อ) โดยที่ชาวบ้านวางหมาน้ำเอาไว้ข้างบ่อน้ำ หลังจากนั้นได้มีทหารเรียกนายเขียน สามีของตนให้นำถังเหล็กที่มีอยู่ในบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียน มาตักน้ำให้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นำไปใส่รถ
คุณยายแจ่มเล่าว่า ตอนนั้นคิดว่าน้ำในหม้อน้ำของรถที่พระเจ้าอยู่หัวประทับ น้ำคงจะแห้ง จึงได้จอดหาน้ำเพื่อเติมน้ำ นายเขียนจึงรีบเอาถังมาตักน้ำถวายพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9ตนจำได้ว่าตอนนั้นนายเขียนเองก็ไม่ได้สวมเสื้อ ไม่สวมรองเท้าเพราะเร่งรีบ
หลังจากนายเขียนตักน้ำถวายแล้ว เติมน้ำในหม้อน้ำรถแล้วเสร็จ พระองค์ก็เสด็จกลับไป และมาทราบภายหลังว่าครั้งนั้นพระองค์เสด็จมาประทับที่โรงปูนซิเมนต์ไทย ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง และวันนั้นขบวนเสด็จกำลังจะไปที่ไหนสักแห่ง ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงขับรถด้วยพระองค์เอง และเลี้ยวรถมาตามถนนเพื่อทรงเยี่ยมประชาชน จนพบโรงเรียนบ้านหน้าเขา จึงแวะเข้ามาเพื่อหาน้ำไปเติมในรถ
ขณะนั้นตนได้นั่งมองอยู่ไม่ห่าง พร้อมทั้งเอามือไปตบที่ตัวของลูกชายคนสุดท้องที่ยังแบเบาะและอุ้มอยู่ในตักพร้อมทั้งบอกลูกว่าลูกเอ๋ย
เป็นบุญวาสนาของวงศ์ตระกูลของเราแล้วที่ ในหลวงเสด็จฯมาถึงบ้าน และเหยียบบนแผ่นดินที่พ่อของลูกอุทิศให้กับโรงเรียน และเป็นพระมหากรุณาอย่างล้นพ้นไปมากกว่านั้นคือพระองค์ทรงตักน้ำในบ่อที่พ่อของลูกเป็นคนขุด และพ่อของลูกก็ยังได้ตักน้ำถวายในหลวงด้วยตัวเอง
ต่อมาเมื่อปี 2558 นายเขียนเสียชีวิตลงด้วยโรคชราวัย 90 ปี เหลือเพียงความดีและบ่อน้ำเจ้าตักเป็นอนุสรณ์
คุณยายแจ่ม เล่าในตอนท้ายว่า มีความสุขและภูมิใจในตระกูลที่ได้ทำความดี และตนได้เดินทางไปยังพระบรมมหาราชวัง กราบพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 มาแล้ว และในวันที่ 26 ต.ค.นี้ จะได้ไปร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดใกล้บ้านเพื่อถวายความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี