ท่ามกลางช่วงขาลงของอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำลังถูกสารพัดปัญหารุมเร้า ขณะที่โรดแมปสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้านับถอยหลังใกล้เข้ามาทุกขณะ โดยที่พรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคเพื่อแม้วเปิดเกมรุกดับเครื่องชนอำนาจรัฐ คสช.ในทุกรูปแบบอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาเมื่อนางเยาวเรศ ชินวัตร ทายาทคนที่ 3 ของตระกูลชิน เดินสายหาเสียงแบบเงียบๆ ในพื้นที่ฐานที่มั่นของพรรคเพื่อแม้วนั่นคือภาคเหนือและภาคอีสาน
นางเยาวเรศนั้นเป็นน้องสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกและเป็นพี่สาวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯที่หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าวตามคำพิพากษาของศาล โดยข่าวแจ้งว่า นางเยาวเรศ ในฐานะนายกสมาคมชาวเหนือ พร้อมคณะนำสิ่งของไปแจกแก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ยังเตรียมนำสิ่งของไปแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคอีสานด้วย
นางเยาวเรศ นอกจากเป็นพี่สาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของตระกูลชินวัตรแล้ว ยังเป็นพี่สาวของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ “เจ๊แดง” และ นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (ชินวัตร) ซึ่งเป็นน้องสาว “เจ๊แดง” และเป็นพี่สาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า “เจ๊แดง” พยายามผลักดัน นางมณฑาทิพย์ อดีตประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทเอ็มลิ้งค์ เอเซีย คอร์ปอเรชั่น ขึ้นเป็นทายาททางการเมืองของตระกูลชินคนต่อไปเนื่องจากไม่ไว้วางใจหากจะให้คนนอกขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแม้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางมณฑาทิพย์ ให้สัมภาษณ์ว่าไม่สนใจที่จะเข้าสู่สนามการเมือง
ความเคลื่อนไหวซึ่งถูกมองว่าเป็นการเดินสายหาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานอันเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อแม้วของ นางเยาวเรศ ครั้งนี้จึงถูกจับตาว่า นางเยาวเรศ อาจแสดงบทบาทหรือถูกวางบทบาทปูทางไปสู่การเป็นทายาททางการเมืองของตระกูลชินหรือไม่
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมาตลอดว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้รับไฟเขียวจาก นายทักษิณ ให้เป็นทายาททางการเมืองคุมบังเหียนพรรคเพื่อแม้ว อย่างไรก็ตาม คุณหญิงสุดารัตน์
มีข่าวสะพัดว่าต่อต้านจากสมาชิกตระกูลชินโดยเฉพาะ “เจ๊แดง” รวมไปถึง สส.ในพรรคเพื่อแม้ว ส่วนหนึ่ง
สำหรับบทบาทของ นางเยาวเรศ ในอดีตนั้นเคยเป็นประธานสภาสตรีแห่งชาติในยุคที่รัฐบาลระบอบแม้วเรืองอำนาจ ขณะที่บุตรสาวคนโตของ นางเยาวเรศ คือ นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ เคยทำงานการเมืองให้กับพรรคเพื่อแม้วและเคยเป็นทีมงานให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อครั้งเป็นนายกฯ
การที่พี่น้องตระกูลชินที่นำโดย “เจ๊แดง” คัดค้านแนวคิดของ นายทักษิณ ผู้เป็นพี่ชายในการผลักดันคนนอกมาเป็นทายาททางการเมือง เพราะในอดีตเคยมีบทเรียนมาแล้วกรณีของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯหุ่นเชิด ของ นายทักษิณ ซึ่งจับมือกับกลุ่มเพื่อนเนวินคิดแข็งข้อกับ นายทักษิณ จนถึงจุดแตกหักโดย นายสมัคร และกลุ่มเพื่อนเนวินแยกทางหันหลังให้กับพรรคพลังประชาชนซึ่งถูกยุบพรรคและต่อมาก็คือพรรคเพื่อไทย
จากบทเรียนการแข็งข้อของ นายสมัครและกลุ่มเพื่อนเนวินทำให้นับจากนั้นตระกูลชินผลักดันคนในตระกูลขึ้นเป็นทายาททางการเมืองมาตลอดไม่ว่าจะเป็น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีของ
“เจ๊แดง” ขึ้นเป็นนายกฯต่อจาก นายสมัคร และคนสุดท้ายคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่ง นายทักษิณใช้อิทธิพลและกลยุทธ์ทางการเมืองผลักดันจนน้องสาวได้เป็นนายกฯด้วยเวลาหาเสียงแค่ 49 วันทั้งๆ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 คดีทุจริตอื้อฉาวต่างๆ ของคนตระกูลชินที่ถูกปกปิดแช่แข็งมานานได้ถูกทยอยรื้อฟื้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องหลบหนีก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญาในคดีรับจำนำข้าว ขณะที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ กำลังถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน คดีทุจริตธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ให้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ทำให้ นายทักษิณ เปลี่ยนแผนหันไปสนับสนุนคนนอกเป็นหุ่นเชิดทางการเมืองเพราะคนตระกูลชินเสี่ยงที่จะต้องติดคุก
เพราะฉะนั้นนางเยาวเรศหากคิดจะเข้าสู่สนามการเมืองคงต้องคิดหนักเพราะหนีไม่พ้นต้องตกเป็นเป้าถูกขุดคุ้ย
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี