“ชคัทธาดา เมนะสูต” ผู้สื่อข่าวอาวุโส นสพ.แนวหน้า ได้ไปประชุมระดับโลกที่กรุงจาการ์ตา นครหลวงของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เล่าให้ผมฟัง ถึงร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ที่อินโดนีเซียไว้ว่า ที่ ท่าอากาศยานโซการ์โนฮัตตา ชานกรุงจาการ์ตาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติใหญ่ของประเทศที่มีประชากรรวมกัน 262 ล้านคน ซึ่งมากกว่าไทย 4 เท่า
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่เป็นหมู่เกาะขนาด 17,000 เกาะ เนื้อที่รวม 1,904,569 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าไทย 3 เท่า เป็นประเทศอันดับ 1 ในอาเซียนมีรายได้ประชาชาติปี 2560 ประมาณ 237.5 ทริลเลี่ยนดอลลาร์สหรัฐอยู่อันดับ 7 ของโลก รายได้ต่อคนต่อปี 12,432 ดอลลาร์สหรัฐ น้อยกว่าไทยประมาณ 3 พันเหรียญสหรัฐ
ท่าอากาศยานของเขามี 3 อาคารเรียกว่า เทอร์มินัลมีปริมาณผู้โดยสารรวมน้อยกว่าไทยจำนวนร้านค้าปลอดอากรหรือดิวตี้ฟรีช็อป เป็นร้านรัฐวิสาหกิจแล้วให้เอกชนคนอินโดนีเซียเช่า
สินค้าที่วางขาย นอกจากสินค้าระดับสากลแล้ว ยังมีสินค้าฝีมือดีของคนพื้นเมืองเหมือนร้านโอท็อปและศิลปาชีพคล้ายของไทย ทราบว่าอินโดนีเซียมีท่าอากาศยานรองในเมืองใหญ่ที่บันดง เมดาน เดนปาซาร์ สุราบายา ปาเล็มบัง โบกอร์ และเซมารัง ทุกเมืองมีร้านค้าปลอดอากรเหมือนๆ กันขนาดย่อมคล้ายไทยเช่นกันเจ้าของคือรัฐบาล
ที่ท่าอากาศยานโซการ์โนฮัตตาชานกรุงจาการ์ตา เขารักษาเอกลักษณ์ วัฒนธรรมความเป็นอินโดนีเซียไว้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
มองอินโดนีเซียแล้ว มองดูประเทศไทย ร้านค้าปลอดภาษีที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนนี้ บริหารงานโดยกลุ่มคิง เพาเวอร์ กลุ่มทุนคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้จะจำหน่ายสารพัดสินค้า แต่ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย ช่วยเหลือคนไทย
ก็ต้อมชม “โครงการ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย” ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำโดย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมพนักงานกว่า 150 ชีวิต ลงพื้นที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ในโครงการดังกล่าว เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ขนาด 7 คนเล่น ให้กับโรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม จ.เชียงใหม่ และมอบลูกฟุตบอล ให้กับ 25 โรงเรียน และ 1 ชมรมฟุตบอล โดยรอบอำเภอดอยเต่า 500 ลูก พร้อมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโรงเรียน ทาสีกำแพงโรงเรียน กำแพงศูนย์อพยพบ้านแปลง 8 และกำแพงวัดบ้านชั่ง
กิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งเน้นที่จะเข้าไปส่งเสริม สนับสนุนเยาวชนไทยในด้านกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อพัฒนาให้เยาวชนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ได้พัฒนาศักยภาพด้านกีฬาของตนเอง โดยเข้าไปสนับสนุนตั้งแต่ “การมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก” ให้เยาวชนไทยทั่วประเทศ และการ “สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม” จำนวน 100 แห่ง ภายใน 5 ปี ให้กับโรงเรียนและชุมชนทั่วประเทศได้มีสนามฟุตบอลมาตรฐานระดับสากลได้ออกกำลังกาย
ซึ่งสนามนี้ นอกจากจะทำให้เยาวชนได้มีพื้นที่ในการออกกำลังกาย เสริมสร้างร่างกายแข็งแรง มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทำในช่วงเวลาว่างแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มกันเพื่อเล่นกีฬาฟุตบอล อันนำไปสู่การสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน สร้างชุมชนเข้มแข็งได้ในที่สุด
ครับ ครู น้องๆ นักเรียน ในพื้นที่อื่น ขาดอุปกรณ์กีฬา ก็แจ้งไปที่คิง เพาเวอร์ ได้ พี่ๆ ใจดีทุกคน
สำหรับกลุ่มคิง เพาเวอร์นี้ เป็นผู้รับสัมปทาน จากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากร (Duty Free) และสัญญาพื้นที่ให้บริการส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Pick Up Counter) จะหมดสัญญาก็โน่น ปี 2563
แต่ช่วงที่อยู่ในระหว่างสัญญา บรรดาคู่แข่งทางธุรกิจใจร้อน อยากจะมาเอี่ยวในส่วน (Pick Up Counter) ซึ่งสุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทาง ทอท.ประกาศชัดถ้าใครคิดจะลงทุนก็ต้องรอการประมูลครั้งใหม่ หลังหมดระยะสัมปทานรายเดิม เห็นว่าทอท.จะเริ่มเขียนทีโออาร์ปีหน้า
เป็นที่น่าสนใจว่าการประมูลในครั้งต่อไปจะเป็นการแยกสัญญาสัมปทานออกเป็น 2 สัญญา จากเดิมมีเพียงสัญญาเดียว โดยแยกกิจการร้านค้าปลอดอากร เพื่อเปิดทางให้กับผู้สนใจทำธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Duty Free Downtown)ตามนโยบายเพื่อสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ที่อ้างว่ามียอดขายต่ำลงทุกปี หรือไม่
แต่มันก็แปลกเพราะห้างสรรพสินค้ากลับผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดตามหัวเมืองต่างๆทั่วประเทศ
ก็ต้องจับตาต่อ ว่าถ้ามีการเปิดประมูล 2 สัญญา จะมีข้อแตกต่างจากสัญญาเดิมอย่างไร เป็นผลดีต่อประเทศชาติ มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้น่าติดตามครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี