นับเป็นข่าวอื้อฉาวและเป็นเรื่องใหญ่กรณีนายธรรมรัตน์ สุวรรณโพธิศรี ผู้ก่อตั้งเพจเฟซบุ๊ค Spotlight Phuket ออกมาเปิดโปงและยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมหลักฐานเพื่อให้ตรวจสอบนายตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เรียกรับส่วยรีดไถผู้ประกอบการต่างๆรวมทั้งแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอป่าตองมีการรีดส่วยคิดเป็นมูลค่าถึงเดือนละกว่า 100 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) รีบออกมาตอบโต้นายธรรมรัตน์ พร้อมทั้งขู่จะดำเนินคดีกับนายธรรมรัตน์ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฐานแชร์ข้อมูลอันทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสื่อมเสีย
อย่างไรก็ตาม นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเป็นหนึ่งในผู้ประสานงานกลุ่ม Police Watch ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำเรื่องนี้ให้เกิดความกระจ่างโปร่งใสตรงไปตรงมาเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการและเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ
หลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเกิดกระแสกดดันจากภาคประชาชนให้ตรวจสองเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ในที่สุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จำต้องมีคำสั่งมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทนจเรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจสอบข้อเท็จจริงท่ามกลางกระแสข่าวว่าการรีดส่วยดังกล่าวทำเป็นขบวนการโดยมีการส่งส่วยให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นทอดๆ
ทั้งนี้ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าองค์กรตำรวจตกเป็นข่าวอื้อฉาวมาตลอดทั้งในเรื่องวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ การรีดไถหาผลประโยชน์จากสารพัดส่วย ซ้ำร้ายตำรวจบางคนทำตัวเป็นโจรในเครื่องแบบเสียเอง จนประชาชนเอือมระอาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปองค์กรตำรวจอย่างจริงจัง
การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกันเองขององค์กรตำรวจดูจะไม่ค่อยเป็นที่น่าเชื่อถือของสาธารณชนเนื่องจากที่ผ่านมามีบทเรียนให้เห็นอยู่เสมอว่าตำรวจปกป้องช่วยเหลือพวกเดียวกันเอง ดังนั้นในกรณีการรีดส่วยในจังหวัดภูเก็ตครั้งนี้จึงได้แต่หวังว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูหรือตัดตอนปกป้องพวกเดียวกันโดยเฉพาะนายตำรวจระดับสูง ซึ่งผลการตรวจสอบที่จะออกมาจะเป็นอีกบทพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือขององค์กรตำรวจ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี