การบริหารบ้านเมืองของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนทุกภาคส่วนที่มีอยู่นั้น มีการจัดลำดับความสำคัญในการบริหารปกครองไว้ 4 ประการดังต่อไปนี้
1.การบริหารปกครองที่ดีที่สุดคือราษฎรไม่รู้ว่าถูกปกครอง
2.รองลงมาคือราษฎรยกย่องชื่นชมการปกครอง
3.รองลงมาคือราษฎรกลัวเกรงการปกครอง
4.รองลงมาคือราษฎรหมิ่นเยาะเย้ยการปกครอง
ทั้ง 4 ประการเป็นหลักการสำคัญในการจัดการบริหารปกครองบ้านเมือง ที่นักปกครองทั้งหลายสมควรได้ตระหนัก และเลือกใช้ในการทำงานในหน้าที่ของตนไม่ว่านักปกครองนั้นจะเข้ามีอำนาจตามระบบที่ใช้อยู่ หรือได้อำนาจมาจากการปฏิบัติรัฐประหาร
การทำรัฐประหารเพื่อกำจัดความเลวร้ายทั้งหลายที่มีผู้ทำขึ้นในยามมีอำนาจหน้าที่นั้น พอรับฟังเหตุและผลได้แต่ถ้าทำรัฐประหารแล้วใช้อำนาจที่ได้มาตามชอบใจ ใครจะว่าอย่างไรไม่สนใจ สวนกลับทุกทีด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังเพราะโกรธในเรื่องที่เขาถามหรือเรียกร้องให้ผ่อนปรนในเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ในเรื่องให้ปลดล็อกทางการเมืองเป็นต้น คนถือปืนเข้ามามีอำนาจต้องระมัดระวังหลักการข้อ 4 ข้างต้นให้จงหนัก
เพราะปืนนั้นนำอำนาจมาให้ได้ก็จริง แต่ปืนไม่สามารถจะนำมาใช้เป็น “พาย” สำหรับพายเรือพาผู้คนข้ามถึงฝั่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางได้ เรือลำนี้คงต้องล่มก่อนถึงฝั่งเพราะราษฎรที่นั่งในเรือรำคาญใจ ส่งเสียงดูหมิ่นเหยียดหยามหรือเยาะเย้ย ที่กำลังดังขึ้นเรื่อยๆอยู่ในขณะนี้
เสียงพูดคนในเรือจะติติงแนะนำอย่างไรไม่อยากฟัง
ฟังมันอยู่พวกเดียวกันที่มีไม่กี่คน ไม่ว่ารุ่นพี่หรือรุ่นน้อง
การต่อต้านของราษฎรที่นั่งในเรือจะเกิดขึ้นตามมาให้เห็น
โดยเฉพาะคนที่เคยทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีไว้ก่อนเข้ามามีอำนาจหน้าที่ ซึ่งคนทั้งบ้านทั้งเมืองรู้ว่าเป็นคนไม่ดี เป็นคนใช้ไม่ได้ เป็นคนที่ชอบหาเงินทองด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ไม่สุจริต เป็นคนที่มีประวัติไม่โปร่งใสในการทำงาน แต่นำมาใช้งานอีกนั้น การใช้ปืนพายเรืออย่างนี้ไม่มีวันจบลงด้วยดีแน่ อย่างที่เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วในอดีตบางยุคบางสมัย
ต้องรู้จักคิดว่าบ้านเมืองเรื่องศักดิ์สิทธิ์ ไม่อาจเข้าครอบครองได้ด้วยกำลังตลอดไป ผู้ใช้แต่อำนาจเข้าบริหารปกครอง หรือบริหารจัดการเหมือนเป็นของส่วนตัวของตนแล้ว ย่อมจะต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในที่สุด
นักปกครองที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหารในครั้งนี้ ถ้าจะยึดถือแนวทางเพื่อใช้ในการบริหารปกครองบ้านเมืองตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อตอนเสด็จขึ้นครองราชย์ปี พ.ศ.2489 ซึ่งเป็นพระราชดำรัสสั้นๆแต่มีเนื้อหากว้างใหญ่ไพศาล มาเป็นรูปแบบและวิธีการในการบริหารจัดการบ้านเมืองแล้ว บ้านเมืองของเราและประชาชนคนไทยทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขแน่นอน
พระราชดำรัสที่ว่านี้ก็คือ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
นักปกครองที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร สมควรเดินตามรอยพระยุคลบาลในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ด้วยการบริหารปกครองให้ถูกต้องตามหลักคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเรียกรวมอยู่ในคำเดียวว่า “หลักธรรมาภิบาล” นั่นเองในหลักนี้มีเรื่องสำคัญทางปฏิบัติ 10 ประการ
1.จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.ไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อตนและพวก
3.ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและจรรยาบรรณที่มี
4.ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
5.ไม่สร้างเครือข่ายพวกพ้องที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ไม่คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
6.ถือประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง
7.ไม่คบหาหรือสนับสนุนผู้ประพฤติผิดกฎหมาย หรือผู้มีความประพฤติในทางเสื่อมเสียในการกระทำอันมิชอบ
8.ไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่าย แทรกแซง การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย หรือเลื่อนขั้นเงินเดือน เลื่อนตำแหน่งของข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
9.รับฟังปัญหาประชาชน
10.ไม่ยินยอมให้บุคคลในครอบครัวหรือผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนโดยมิชอบ ไม่เรียกร้องของขวัญของกำนัล หรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ต่างๆ อันจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน
เป็นบัญญัติ 10 ประการที่นักปกครองทั้งหลายโดยเฉพาะนักปกครองที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหารต้องยึดถือเป็นหลักปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนในครั้งนี้ให้ได้ ไม่ใช่ดีแต่พูดหรือดุด่าคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับตน
(อ่านต่อวันศุกร์)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี