หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายอำนวยคลังผา อดีตสส.ลพบุรี พรรคเพื่อแม้ว และแกนนำพรรคเพื่อแม้วหลายคนออกมาแบะท่าว่าอาจเป็นไปได้ที่สองพรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อแม้วกับพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะจับมือกันเพื่อสกัดนายกฯคนนอกหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ล่าสุดหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จุดประเด็นตั้ง 6 คำถามหยั่งกระแสมหาชนทั้งประเทศว่าเห็นด้วยหรือไม่หากจะมีพรรคคสช.ที่จะสานต่อภารกิจปฏิรูปประเทศของคสช.หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าทำเอาพรรคเพื่อแม้วถึงกับพล่าน โดยนายอำนวยออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยการจุดกระแสเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรครวมหัวกันต้านคสช.และนายกฯคนนอก
นายอำนวย อ้างว่าวันนี้ประชาชนยังเชื่อมั่นใจในระบอบประชาธิปไตยในการเลือกตัวแทนเข้าสภาแก้ปัญหาปากท้อง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เพราะขาดความยึดโยงกับประชาชน ดังนั้นวันนี้พรรคการเมืองทุกพรรคต้องหันหน้าเข้าหากันสร้างความปรองดองในหมู่นักการเมืองให้ได้ เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็แข่งกันตามกติกา ใครได้เสียงส่วนใหญ่ก็จัดตั้งรัฐบาล ถึงเวลาแล้วที่นักการเมืองต้องทำให้การเมืองเข้มแข็งไม่ให้ใครเข้ามาแทรกแซงการเมืองเหมือนที่ผ่านมาอีก ถ้าเราไม่ปรองดองกัน ปัญหาเดิมๆ ที่การเมืองถูกอำนาจอื่นแทรกแซงจะกลับมาอีก
คำพูดของ นายอำนวย ตีความได้สองนัยคือ ประการแรก เป็นการปลุกกระแสเหล่านักเลือกตั้งให้รวมหัวกันต่อต้านคสช.ทุกรูปแบบ ประการที่สองจุดกระแสให้ต่อต้าน บิ๊กตู่ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไปต่อเป็นนายกฯคนนอกหลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคการเมืองทุกพรรคมีความสำคัญที่จะกำหนดว่านายกฯคนนอกจะเกิดขึ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายอำนวย ไม่พูดความจริงที่ว่าที่วันนี้มีคสช. ซึ่งจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ก็เพราะพฤติกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่นอกจากมีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างร้ายแรงจากโครงการรับจำนำข้าวแล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายใต้การบงการของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ผู้เป็นพี่ชายยังอาศัยเสียงข้างมากของพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมประพฤติชั่วร้ายตามใจชอบโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม โดยเฉพาะพยายามใช้พวกมากลากไปหักดิบผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าแต่มีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงมุ่งที่จะฟอกโทษความผิดให้ นายทักษิณ ผู้เป็นนายใหญ่เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกคดีทุจริตตามคำพิพากษาศาล จนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เป็นชนวนให้มวลมหาประชาชนหลายล้านคนออกมาแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ในภาวะรัฐล้มเหลวไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ก็ยังพยายามดันทุรังรักษาอำนาจขณะเดียวกันก็ปราบปรามประชาชนจนประเทศใกล้เกิดสงครามกลางมือง
อีกอย่างเหล่านักเลือกตั้งทั้งหลายต้องสำนึกสังวรไว้ด้วยว่า การเมืองจะเข้มแข็งได้อย่างแท้จริงนักการเมืองต้องปฏิรูปพฤติกรรมที่เลวร้ายของตัวเองนั่นคือ เลิกพฤติกรรมโกงบ้านกินเมือง ซื้อเสียงซื้อประชาธิปไตย ซื้ออำนาจยึดครองประเทศ หากนักการเมืองประพฤติดีก็คงไม่มีอำนาจนอกระบอบประชาธิปไตยใดๆ มาแทรกแซงได้ แต่ที่ผ่านมาก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่า พรรคธุรกิจการเมืองอาศัยคราบประชาธิปไตยจอมปลอมพอได้อำนาจแล้วก็อำนาจโกงชาติปล้นแผ่นดินประพฤติชั่วร้ายตามใจชอบโดยอ้างมาจากประชาชนซึ่งมีบทเรียนให้เห็นมาแล้วว่าพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอย่างพรรคเพื่อแม้วได้สร้างความวิบัติย่อยยับให้ชาติบ้านเมืองตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา
การที่คนของพรรคเพื่อแม้วมักอ้างประชาธิปไตยสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองเป็นการปกปิดอำพรางโฉมหน้าที่แท้จริงเพราะความจริงพรรคเพื่อแม้วไม่ใช่พรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่เป็นพรรคธุรกิจการเมืองหรือบริษัทการเมืองจำกัดในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่มีตระกูลชินเป็นเจ้าของ และถูกสั่งการโดยคนเพียงคนเดียวคือ นายทักษิณ ส่วนบรรดา สส.พรรคมีสถานะไม่ต่างจากพนักงานที่เป็นทาสรับใช้นายทุนเจ้าของบริษัทแทนที่จะทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎรอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี
การออกมาแบไต๋ปลุกกระแสต้านคสช.และนายกฯคนนอกของพรรคเพื่อแม้วเป็นความพยายามหาพวก แต่ซ่อนไว้ด้วยเป้าหมายทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้นเพราะพรรคเพื่อแม้วขณะนี้อยู่ในภาวะถูกโดดเดี่ยวและกำลังจะถูกปฏิรูป
พรรคเพื่อแม้วจึงพยายามดิ้นรนเคลื่อนไหวทุกวิถีทางเพื่อที่จะหาพวกหวังเอาตัวรอดและฟื้นระบอบแม้วกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้งผ่านการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า โดยเป้าหมายสำคัญคือฟอกโทษความผิดให้กับนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกคดีรับจำนำข้าวผู้เป็นน้องสาว แต่ดูแนวโน้มแล้วว่าพรรคเพื่อแม้วคงหาพวกได้ยากโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่วิธีคิดแนวทางและอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกันสิ้นเชิงและพรรคประชาธิปัตย์ก็คงรู้เท่าทันของพรรคเพื่อแม้วเป็นอย่างดีว่าทำทุกอย่างล้วนเพื่อตัวเอง
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี