รัฐบาล คสช.เอาจริงแค่ไหนกับการดำเนินคดีธัมมชโยและธรรมกาย ?
หลังจากที่ปฏิบัติการค้นวัด โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คว้าน้ำเหลวไม่เป็นท่า
แม้แต่มาตรา 44 ก็งัดมาใช้แล้ว ยังไม่สามารถจับกุมตัวธัมมชโย จนต้องยุติการค้นหาเมื่อ 10 มีนาคม 2560
หลังจากนั้น คดีต่างๆ มีความคืบหน้าอะไรบ้าง?
เงียบเชียบ!!!
แถมล่าสุด บางคนในโผที่จะเข้ามาเสียบเป็นรัฐมนตรีเกษตรฯ มีกระแสข่าวว่าเป็นลูกศิษย์ตัวเอ้ของธัมมี่ด้วย
ปัจจุบัน วัดพระธรรมกายเริ่มกลับมาทำกิจกรรมระดมเงินกันอีกแล้ว
เมื่อธัมมชโยไม่สามารถปรากฏกายได้ ก็พยายามชูคนอื่นขึ้นมาแทนนั่นก็คือ พระทัตตชีโว
1. แม้ปัจจุบัน พระทัตตชีโวจะไม่มีชื่อเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างเป็นทางการ
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับชื่อ พระครูสังฆรักษ์รังสฤษฏ์ อิทธิจันตโก ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าอาวาส ก็จะพบว่า พระทัตตชีโวนั้น เหนือกว่าทั้งอิทธิพลและบารมีในวัด แถมบทบาทในทางพฤตินัยก็สูงกว่ามาก
ช่วงหลัง พระทัตตชีโวยังออกงานมากขึ้น ถูกชูขึ้นเพื่อให้มีความโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด ก็คือในโอกาสวันเกิดครบ 77 ปี 21 ธันวาคมนี้ ทางวัดพระธรรมกายเชิญชวนให้มีการสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร 277,777,777 จบ เพื่อบูชาธรรมเนื่องในวาระ 77 ปี หลวงพ่อทัตตชีโว และจัดโครงการอุปสมบทหมู่บูชาธรรม 77 ปีหลวงพ่อทัตตชีโว ด้วย
มีรายงานข่าวว่า งานนี้ ใครร่วมสวดครบกี่จบ มีรางวัลเป็นล็อกเกตหลวงปู่สด โดยมีด้านหลังเหรียญเป็นภาพพระมหาเจดีย์ทัตตชีโว พร้อมลายเซ็นครูไม่เล็ก (พระทัตตชีโว)
งานนี้ ถ้าไม่เรียกว่า โปรโมท ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
2. ถ้าว่ากันเฉพาะภายในวัด พระทัตตชีโว คือผู้ที่มีอิทธิพลบารมีมากที่สุดในหมู่แกนนำที่เหลืออยู่
ธัมมชโย เรียกตัวเอง “คุณครูไม่ใหญ่”
พระทัตตชีโว ก็เรียกตัวเองว่า “คุณครูไม่เล็ก”
ธัมมชโย มีมหาธรรมกายเจดีย์เป็นแลนด์มาร์ก
พระทัตตชีโว ก็มี “พระมหาเจดีย์ทัตตชีโว” ที่ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี
ธัมมชโย ชอบเทศนา อวดอ้างอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย ไปมาหมดแล้วทั้งนรก-สวรรค์ ไปเห็นสตีฟ จ๊อบ ในนรกก็ไปมาแล้ว แต่ไม่ยอมออกไปพบดีเอสไอและไปพบเจ้าพนักงานสอบสวนนอกวัด
พระทัตตชีโวแน่กว่า เพราะเดินทางไปรับทราบข้อหาจากเจ้าพนักงานสอบสวนแล้วด้วย (แต่คดีนะจังงังไปถึงไหนแล้วก็ไม่ทราบ)
ที่วัดพระธรรมกายได้ที่ดินแปลงดั้งเดิมนี้มา ก็ด้วยการลงไม้ลงมือของทัตตชีโว
แล้วเรื่องอิทธิฤทธิ์ พระทัตตชีโว ก็ไม่น้อยหน้า เคยร่ำเรียนวิชามากับ “คุณยายอาจารย์จันทร์ ขนนกยูง” ไม่ต่างกับธัมมชโย แถมก่อนหน้านี้ ยังอ้างว่าเคยผ่านการศึกษา “ไสยศาสตร์” และการฝึกวิชา “คงกระพันชาตรี”
โดยพระทัตตชีโวได้บอกเล่าเรื่องราวไว้ในหนังสือมุทิตาสักการะในวาระ60 ปีทองของการสร้างบารมี 21 ธันวาคม พุทธศักราช 2543 และจากบันทึกที่เขียนไว้ในเรื่อง “ผจญมาร”
ในหนังสือ “เดินไปสู่ความสุข” พิมพ์เมื่อปีพุทธศักราช 2512 บางตอนระบุว่า
“...พออ่านคัมภีร์วิสุทธิมรรคแล้วก็อยากฝึกสมาธิ แต่ฝึกเองไม่ได้ผล จึงดั้นด้นค้นหาอาจารย์สอนสมาธิให้ บังเอิญไปพบอาจารย์ที่ฝึกสมาธิเพื่อประโยชน์ทางอิทธิฤทธิ์เข้าก่อน จึงเลยเป็นไปตามฤทธิ์หนุ่ม คือฝึกวิชาหนังเหนียว รูดโซ่ ลุยไฟ สะเดาะกลอน สารพัด ใจมันอยากจะเป็นอย่างขุนแผนกับเขาบ้าง ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าวิชาเหล่านี้เป็นวิชามาร คิดว่าเป็นวิชาพระ เพราะมีคาถาประกอบเป็นบทสรรเสริญ พระพุทธคุณบ้าง บทสรรเสริญพระโมคคัลลาน์อัครสาวกผู้มีฤทธิ์บ้าง... โชคดีที่อาตมามีความสนใจใคร่รู้เรื่องนรก-สวรรค์มาก ดังนั้น ถึงแม้จะได้ร่ำเรียนวิชาที่ทำให้มีอิทธิฤทธิ์มากเพียงใด วิชาเหล่านี้ก็ไม่สามารถดับความกระหายใคร่รู้เรื่องนรก-สวรรค์ได้เลย...
เมื่อมีเวลาว่างก็ดั้นด้นไปตามป่าตามเขา ไปฝึกสมาธิกับ พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ได้โอกาสก็ถามท่านเรื่องนรก-สวรรค์เสียทุกคนไป แต่ไม่ว่าจะไปถามท่านใด ทั้งที่เป็นพระภิกษุและฆราวาสว่า นรกมีจริงไหม สวรรค์มีจริงไหม เทวดานางฟ้ามีจริงไหมก็ไม่มีใครให้คำตอบที่จริงจังชัดเจน น่าเชื่อตามได้สักรายเดียว อาตมาจึงเชื่อในสิ่งที่สามารถพิสูจน์ ได้เฉพาะหน้า คือ เชื่อเรื่องหนังเหนียว รูดโซ่ ลุยไฟ เพราะเขาทำให้เราดูได้ และเมื่อเราลองทำ ก็ทำได้จริงอีกด้วย ตอนนั้นรู้สึกภูมิใจมาก...”
3. ธัมมชโยมีคดีแล้วหนีไป ส่วนพระทัตตชีโวก็มีคดีติดตัวอยู่เหมือนกัน
อย่าลืมว่า เมื่อต้นปีนี้เอง ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ ระบุว่า มีราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดถอนพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2560 ด้วยเข้าข่ายการเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องหา และการนําเงินของวัดพระธรรมกายไปเล่นหุ้น เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กฎหมายอาญา 157
ไม่นานมานี้ คณะพนักงานสอบสวนเคยเปิดเผยว่า มีการนำเงินจากบัญชีของวัดพระธรรมกายไปซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยระหว่างปี 2553-2559 มีการนำเงินวัดพระธรรมกายกว่า 1,400 ล้านบาท ออกไปกระจายให้บุคคล กลุ่มบุคคล ไปลงทุนในหลายรูปแบบ หลักฐานธุรกรรมการเงินปรากฏชัดว่า บางส่วนเป็นเงินจากคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
แม้ไม่มีชื่อพระเล่นหุ้นเอง แต่มีการใช้กลุ่มบุคคลและบุคคลที่เป็นนักธุรกิจให้เป็นนอมินี มีทั้งการเล่นหุ้นและอาจปั่นหุ้น
พนักงานสอบสวนได้มีการเรียกผู้มีรายชื่อเกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำแล้ว แนวทางที่มีการตรวจสอบพบ คือ เงินจากวัดพระธรรมกายถูกถ่ายโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของฆราวาส แล้วบุคคลดังกล่าวก็เปิดบัญชีเล่นหุ้นผ่านบริษัทหลักทรัพย์จากนั้น มีการใช้บัญชีดังกล่าวซื้อขายหุ้น
หุ้นที่พบว่ามีการซื้อขายมากที่สุด คือ หุ้นกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หลายตัวหลายรอบ
น่าสนใจว่า นายทุนใหญ่ที่สนิทสนมกับผู้บริหารวัดพระธรรมกาย และมีบทบาทจัดการโครงการก่อสร้างของธรรมกาย ก็คือผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ นั่นเอง (ล่าสุด ออกจากตำแหน่งไปแล้ว)
ขณะที่ฝ่ายวัดพระธรรมกาย ได้เผยแพร่เอกสารลงวันที่ 15 มี.ค. เพื่อชี้แจงถึงเรื่องนี้เพียงสั้น 10 กว่าคำว่า “ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่ประการใด”
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่เป็นจุดตายของมหาอาณาจักรธรรมกาย คือกิจการมูลนิธิหลักๆ ในเครือของธรรมกาย นำโดยมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ฯมูลนิธิธรรมกาย ฯลฯ ที่มีเงินหมุนเวียนแต่ละปีหลายพันล้านบาท มีเงินสะสมหลักหมื่นล้านบาท
บางมูลนิธิเข้าไปพันกับเงินทุจริตที่โกงมาจากสหกรณ์ฯคลองจั่น
บางมูลนิธิเข้าไปพันกับการก่อสร้างอาคารบนที่ดินคดีฟอกเงิน
แต่ละมูลนิธิล้วนมีบทบาทเป็นช่องทางผันเงินผ่านเข้า ออกมหาอาณาจักร ดำเนินกิจการ จัดการผลประโยชน์มูลค่ารวมหลักแสนล้านบาท
ไม่พบการเสียภาษีเงินได้ โดยอ้างว่าทำในนามมูลนิธิ
หากมีการตรวจสอบเหมือนกรณีทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่มีการสอบภาษีย้อนหลังเครือข่ายที่ดำเนินการหลบเลี่ยง ดำเนินการเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำงาน กรณีมหาอาณาจักรธรรมกายน่าจะพบจุดล่อแหลมที่สุด เพราะเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนธุรกิจมหาศาล แต่อาศัยดำเนินการในนามมูลนิธิ มีการผ่องถ่ายเงินไปสู่กลุ่มทุนรับเหมา กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มทุนการเงิน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี