ช่วงนี้ดูเหมือนเหล่าแกนนำเครือข่ายเพื่อแม้วจะดาหน้าออกมาเคลื่อนไหวชนิดดับเครื่องชนอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดุเดือดผิดปกติซึ่งน่าจะมีเบื้องหลังสาเหตุที่จี้ใจดำทำให้บรรดาเครือข่ายเพื่อแม้วถึงกับออกมาอาละวาดฟาดหัวฟาดหางขนาดนี้ ซึ่งการเคลื่อนไหวแบบดับเครื่องชนของเครือข่ายเพื่อแม้วเผอิญเกิดขึ้นช่วงเดียวกับที่สำนักงานอัยการสูงสุดภายใต้นโยบายของ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ได้แถลงให้นำ 2 คดีทุจริตอื้อฉาวในอดีตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกที่ค้างคาอยู่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกครั้งเพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไปหลังจากที่ต้องจำหน่ายคดีชั่วคราวมานานหลายปี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่ซึ่งกำหนดให้สามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้กรณีที่จำเลยหลบหนีมีผลบังคับใช้แล้วก่อนนี้ ทำให้คดีที่ นายทักษิณ ตกเป็นจำเลยและค้างคาอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 คดี คือคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครจนรัฐได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว 12,000 ล้านบาท ซึ่งนายทักษิณ เป็นจำเลยที่ 1 กับคดีที่ นายทักษิณ ในฐานะผู้นำรัฐบาลในอดีตใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยการออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมและโทรศัพท์มือถือเป็นภาษีสรรพสามิตอันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจเครือชินวัตรและทำให้รัฐเสียรายได้เกือบ 70,000 ล้านบาท
ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีสาระสำคัญกำหนดว่า ในกรณีที่จำเลยในคดีหลบหนีไม่ให้นับช่วงเวลาที่หลบหนีหักออกจากอายุความซึ่งก็หมายถึงคดีไม่มีอายุความนั่นเอง ถ้าจะหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้เผ็ดป้องกันไม่ให้จำเลยหลบหนีแล้วรอจนคดีหมดอายุความจึงค่อยปรากฏตัว
ที่ผ่านมามีนักการเมืองที่มีอำนาจอิทธิพลโกงชาติปล้นแผ่นดินหรือนักธุรกิจหลายคนที่ฉ้อโกงประชาชนและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศพอถูกดำเนินคดีก็หอบเงินที่ทุจริตฉ้อโกงมูลค่ามหาศาลไปใช้ชีวิตเสพสุขสบายในต่างประเทศอย่างลอยนวล รอจนคดีหมดอายุความจึงกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นความไม่เท่าเทียมยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม เพราะคนจนที่ตกเป็นจำเลยไม่มีเงินไม่มีอิทธิพลเส้นสายที่จะหลบหนีจนเกิดคำกล่าวประชดประชันว่าคุกมีไว้ขังแต่คนจนเท่านั้น
พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่นอกจากส่งผลต่อ 2 คดีทุจริตของ นายทักษิณ ที่ค้างคาอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยต้องสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเนื่องจากจำเลยหลบหนีแล้ว ยังมีคดีอื้อฉาวในอดีตของ นายทักษิณ อีก 2 คดี ซึ่งค้างคาอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และป.ป.ช.เตรียมที่จะยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในไม่ช้านี้เช่นกันคือ คดีทุจริตหวยบนดินซึ่งสร้างความเสียหายแก่รัฐมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และคดีทุจริตที่รัฐบาลทักษิณในอดีตปล่อยเงินกู้มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลพม่าในอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจากบริษัทเครือชินวัตร
และไม่เพียง นายทักษิณ ที่ถูกคดีต่างๆ ในอดีตตามเช็คบิล คนในตระกูลชินก็กำลังทยอยถูกคดีอื้อฉาวตามเช็คบิลเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด โดยการช่วยเหลือของ นายทักษิณ ต้องหลบหนีออกนอกประเทศก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญาในคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แม้จะรอดเงื้อมมือกฎหมายไปได้ แต่หากคิดหนีก็ต้องหนีไปตลอดชีวิตภายใต้พ.ร.ป.วิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่
ขณะที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต ของ นายทักษิณ ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ดำเนินคดีฐานฟอกเงินในคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งชะตากรรมของ นายพานทองแท้ ส่อเดินใกล้สู่ประตูคุกเข้าไปทุกขณะ
เพราะฉะนั้นด้วยชะตากรรมของนายทักษิณและสมาชิกในตระกูลชินที่ถูกคดีต่างๆไล่เช็คบิลโดยเฉพาะบุตรชายคนโตของนายทักษิณ ได้สร้างความแค้นเป็นอย่างมาก และนี่อาจเป็นสาเหตุที่เห็นเหล่าสมุนพรรคเพื่อแม้วทั้งหลายต่างดาหน้าออกมาเปิดศึกทุกแนวรบแบบดับเครื่องชนอำนาจรัฐคสช.ทั้งๆที่คดีต่างๆ เหล่านี้ล้วนเกิดจากกรรมที่ตัวเองก่อไว้ทั้งสิ้น
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี