l ปู่จิ๊บจะขอให้รายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับ คดีอาญา เป็นตัวอย่างที่เราจะทำความเข้าใจกระบวนการยุติธรรม
l คดีอาญา ได้แก่ คดีที่เกี่ยวกับความผิดและโทษซึ่งกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น เช่น พ.ร.บ.ต่างๆ ซึ่งมีโทษในทางอาญา 5 สถาน ได้แก่ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน
l ในคดีอาญามีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ดังนี้ l
1.ผู้ต้องหา หมายถึง บุคคลผู้ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิด แต่ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล
2.จำเลย หมายถึง บุคคลซึ่งถูกฟ้องต่อศาลแล้วโดยข้อหาว่ากระทำความผิด
3.ผู้เสียหาย หมายถึง บุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทน
เช่น ผู้แทนนิติบุคคล ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ เป็นต้น
4.พนักงานสอบสวน หมายถึง เจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจและหน้าที่ในการสอบสวน ฯลฯ
5.ทนายความ ประกอบอาชีพกฎหมายโดยอิสระ ว่าความแก้ต่างให้แก่คู่ความไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลย ทนายความจะให้คำปรึกษาหรือดำเนินคดีแทน ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคู่ความในการดำเนินคดีในศาล การกระทำของทนายในศาลมีผลเท่ากับ
คู่ความทำเอง
6.พนักงานอัยการ หมายถึง เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล
7.ศาลยุติธรรม ศาลเป็นผู้ทำหน้าที่พิจารณาชี้ขาดคดีหรือตัดสินคดีมี 3 ศาลชั้นต้น-อุทธรณ์-ฎีกา
8.กรมราชทัณฑ์ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาล เช่น ควบคุมตัว ปล่อยตัว คำพิพากษาประหาร
* ขั้นตอนการพิจารณาคดีอาญา
1.ฟ้องที่ศาลใด พิจารณาว่าความผิดเกิดขึ้นในเขตศาลใด หรือจำเลยมีที่อยู่ หรือถูกจับในเขตศาลใด หรือพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนในเขตศาลใด ศาลนั้นมีอำนาจพิจารณาคดี
2.คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา คือ คดีที่การกระทำผิดอาญาเป็นเหตุให้ผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย หรือค่าทดแทน หรือเรียกให้คืน หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ผู้เสียหายต้องเสียไปจากการกระทำผิดอาญานั้น จะฟ้องจำเลยต่อศาลซึ่งพิจารณาคดีอาญา โดยมีคำขอส่วนแพ่งรวมอยู่ในคำฟ้องอาญา
3.วิธีการอ่านคำฟ้อง เมื่อได้รับสำเนาคดีคำฟ้อง ควรตรวจดูคำฟ้องดังนี้
- ศาลที่ฟ้อง วัน เดือน ปี ที่ฟ้อง-ชื่อโจทก์และจำเลย จำนวนโจทก์และจำเลย
- ข้อหาหรือฐานความผิด-ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
4.ข้อควรปฏิบัติเมื่อศาลประทับฟ้อง หากจำเลยจะสู้คดีควรปฏิบัติ ดังนี้
1.หากศาลมีคำสั่งขังจำเลย จำเลยสามารถยื่นคำร้องขอประกันต่อศาล ทั้งนี้ไม่ว่าจำเลยจะได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือชั้นฝากขังหรือไม่ก็ตามที
2.ดำเนินการหาทนายความเพื่อช่วยเหลือจำเลยให้การดำเนินคดีต่อไป
3.ตรวจดูสำนวนการไต่สวนมูลฟ้อง และสิ่งที่โจทก์ยื่นเป็นพยานหลักฐาน
l 5.ชั้นพิจารณาคดี
1.การพิจารณาและสืบพยานในศาล จะกระทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย โดยศาลจะอ่านและอธิบายคำฟ้อง ให้จำเลยฟังและถามจำเลยว่า กระทำความผิดจริงหรือไม่ แล้วจดคำให้การจำเลย
2.กรณีจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจะพิพากษาคดีโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไปก็ได้ เว้นแต่คดีที่อัตราโทษอย่างต่ำให้จำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หรือโทษสถานหนักกว่านั้น ศาลต้องฟังพยานโจทก์ จนกว่าจะพอใจว่า จำเลยได้กระทำผิดจริงจึงจะพิพากษาลงโทษจำเลย
3.กรณีจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อไป โดยศาลจะนัดสืบพยานโจทก์ก่อน เสร็จแล้วจึงให้นัดสืบพยานจำเลย หลักจากสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจะนัดฟังคำพิพากษา
โจทก์มีหน้าที่ต้องมาศาลทุกนัด หากไม่มา ศาลต้องยกฟ้อง เว้นแต่ศาลเห็นว่า โจทก์ไม่มาศาลโดยมีเหตุอันสมควร ศาลจะสั่งเลื่อนคดีไปก็ได้ หากจำเลยไม่มาศาลตามกำหนดนัดหรือตามหมายเรียก (กรณีจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว) ศาลจะออกหมายจับจำเลยและปรับนายประกัน ในทางปฏิบัติแล้วหากศาลไม่แน่ใจว่า จะจับจำเลยได้เมื่อใด ก็จะจำหน่ายคดีชั่วคราว จนกว่าจะได้ตัวจำเลยมาพิจารณาคดีต่อไป
l การสืบพยาน
คดีอาญา โจทก์มีหน้าที่ต้องนำพยานเข้าสืบก่อนจำเลยเสมอ และเมื่อโจทก์สืบพยานเสร็จแล้ว จำเลยจึงนำพยานเข้าสืบต่อไป ก่อนสืบพยานโจทก์และจำเลยมีสิทธิแถลงเปิดคดี และหลังสืบพยานเสร็จแล้ว โจทก์และจำเลยมีสิทธิแถลงปิดคดีได้ ในระหว่างพิจารณา ถ้าศาลเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องสืบพยานหรือทำการอะไรอีก จะสั่งงดพยานหรือการนั้นเสียก็ได้
(โดย nitisartlawyer 11052555)
l ตามมาดูในความจริงที่เกิดขึ้นกับคดีหนึ่งและบางคดี เช่น คดีหมิ่นประมาทฯบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ โดยมีการมอบหมาย
ช่วงฯที่รับต่อมาจากผู้รับมอบอำนาจ ที่ลงวันที่ล่วงหน้าลอยไว้ฯ
ผู้ต้องหานำภาพการ์ตูนเกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องสิทธิเสรีภาพฯไปแจกเพื่อกระตุ้นบทบาทนักศึกษานอกเขตเลือกตั้งฯ เมื่อถูกการแจ้งจับกุม ต้องถูกแจ้งโทษโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขั้นต้นต้องหาหลักทรัพย์มาประกัน เมื่อไม่มี ก็ต้องเช่าหลักทรัพย์หรือหาบุคคลฯที่ทางเจ้าหน้าที่รับรอง ซึ่งต้องเสียเงินไปถึง 40,000 บาท และบางคนก็ต้องหาหลักทรัพย์ไปรับรอง ก็ต้องไปประเมินราคาที่ดินฯนำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อทางการยื่นเรื่องไปถึงอัยการและศาลก็ต้องหาเงินไปว่าจ้างทนาย หมดค่าใช้จ่ายเป็นแสนฯ ต้องมีการวิ่งไปวิ่งมาในการติดต่อเรื่องเอกสาร และที่สำคัญคือ การขึ้นศาล ต้องจัดการหาพยานมาสู้คดี และบางรายเจออัยการแผ่นดิน ที่ทำหน้าที่ดุจทนายโจทก์ ตั้งหน้ากล่าวหาเอาผิดให้ได้ ก็เหนื่อยแทบตาย นี่ยังมีการนำคดีหมิ่นนี้ ไปโยงใยกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่อยู่นอกเขต เพื่อสร้างข้อกล่าวหาเพิ่มขึ้นอีกคดีฯ เรื่องแค่นี้ที่ผู้มีอำนาจฯใช้กลไกของตนและของรัฐมากล่าวหานักศึกษาคนหนึ่ง สร้างภาระอย่างมาก ทั้งเรื่องเงินทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ เวลา การเรียน ความทุกข์ ความเครียดฯแก่คนหนุ่มที่ดี
l ทำอย่างไร ที่จะมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, แก้ไขข้ออ่อนทั้งระบบ ตำรวจ อัยการ ศาล ฯลฯ ในเรื่องสิทธิการฟ้องของบุคคลที่หนีคดีไปต่างประเทศ, การใช้อำนาจกลไกฯที่เหนือกว่า มากระทำต่อคนดี, ลดค่าใช้จ่ายในการประกัน ค่าเปรียบเทียบปรับและอื่นๆ เพื่อเป็นธรรม แก่คนธรรมดาที่ตั้งใจเป็นคนดี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี