นับวันจะเห็นอาการดิ้นสู้แบบสะเปะสะปะหลังพิงฝามองไม่เห็นอนาคตของระบอบแม้วอันประกอบด้วยแก้ว 3 ประการ อันได้แก่ พรรคการเมืองคือพรรคเพื่อแม้ว มวลชนคือกลุ่มคนเสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธใต้ดิน ชัดเจนมากขี้นเรื่อยๆ
ในส่วนของพรรคเพื่อแม้วนั้นนับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศมานานกว่า 3 ปีและมีแนวโน้มว่าจะต่อท่ออำนาจต่อไปอีกหลายปีแม้จะมีการเลือกตั้งเพื่อเดินหน้าสานต่อการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จ ซึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองทำให้ความหวังที่พรรคเพื่อแม้วจะกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศริบหรี่แทบจะเป็นศูนย์
การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด และเป็นจำเลยคนสำคัญฐานกระทำผิดต่อหน้าที่ปล่อยให้โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศหลายแสนล้านบาทหลบหนีออกนอกประเทศโดยไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งๆที่ประกาศหนักแน่นกับคนทั้งประเทศและเหล่ามวลชนสาวกระบอบแม้วมาตลอดจนนาทีสุดท้ายก่อนศาลจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปีโดยไม่รอลงอาญาว่า จะไม่หลบหนีไปไหนเพื่อพิสูจน์ความสุทธิ์ของตัวเองและพร้อมจะตายคาสนามประชาธิปไตย เหมือนเป็นการหลอกคนทั้งประเทศ รวมทั้งสาวกระบอบแม้วที่หลงเชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะยืนหยัดเป็นวีรสตรีนักต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยจริง
นอกจากนี้ก่อนหน้านี้แกนนำพรรคเพื่อแม้วหลายคนถึงกับยอมแบะท่าอ่อยเหยื่อแสดงท่าทีพร้อมจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อร่วมกันสกัดนายกฯคนนอก แต่แผนดังกล่าวนอกจากพรรคประชาธิปัตย์ส่อท่าทีไม่เล่นด้วยแล้ว ยังทำให้บรรดามวลชนพรรคเพื่อแม้วทั่วประเทศถึงกับระส่ำเพราะเหมือนที่ผ่านมาถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือมาตลอด ซึ่งจากปฏิกิริยาไม่พอใจของแฟนคลับพรรคเพื่อแม้วทำให้แกนนำหลายคนต้องรีบพลิกลิ้นกลืนน้ำลายออกมาปฏิเสธข่าวพัลวันเรื่องการจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์เพราะกลัวเสียมวลชน เมื่อการจับมือของ 2 พรรคใหญ่ไม่เกิดขึ้นแผนสกัดนายกฯคนนอกจึงจบเห่ ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสที่พรรคเพื่อแม้วจะกลับมายึดครองประเทศดับวูบ
ไม่เพียงกรณีการแบะท่าพร้อมจับมือพรรคประชาธิปัตย์ที่สร้างความระส่ำระสายในหมู่กองเชียร์พรรคเพื่อแม้ว ยังเกิดกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกผู้เป็นนายใหญ่ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวซึ่งมีสำระสำคัญในทำนองว่าตระกูลชินอยากวางมือทางการเมืองทำให้บรรดาสาวกแก้ว 3 ประการเครือข่ายขบวนการเพื่อแม้วถึงกับระส่ำเหมือนเป็นสัญญาณการถูกลอยแพครั้งสำคัญและวันล่มสลายของระบอบแม้วที่กำลังใกล้เข้ามา
แม้แต่คนในตระกูลชินเองขณะนี้ก็ยังเอาตัวแทบไม่รอดจากกรรมของคดีทุจริตต่างๆ ในอดีตที่ตามเช็คบิลทั้ง นายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้ง นายพานทองแท้ ที่กำลังใกล้เข้าตาจนในคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร
ในส่วนของมวลชนเสื้อแดงและกองกำลังติดอาวุธเสื้อแดงหรือแดงฮาร์ดคอร์นั้น กว่า 3 ปีหลังการยึดอำนาจของคสช. มวลชนเสื้อแดงร่อยหรอลงตามลำดับเพราะเริ่มรู้สึกว่าถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองให้กับจอมบงการและบรรดาแกนนำไม่กี่คน ขณะที่กลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ถูกคสช.กวาดล้างจับกุม ซึ่งหลายคนต้องติดคุก ขณะที่หลายคนหนีหมายจับหัวซุกหัวซุน และบางส่วนหนีออกนอกประเทศไปเคลื่อนไหวอยู่ในต่างแดนแบบไร้อนาคต
ล่าสุดทหารและตำรวจพบคลังอาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมากถูกนำไปทิ้งในหนองน้ำพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โดยเป็นอาวุธลอตเดียวกับที่เคยใช้ก่อเหตุร้ายช่วงปี 2557 โดยกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ และเตรียมดำเนินคดีกับแกนนำแดงฮาร์ดคอร์ 5 คนที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรงลอตนี้ในข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองและมีพฤติกรรมเป็นอั้งยี่ซ่องโจรประกอบด้วย 1.นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ยุครัฐบาลระบอบแม้ว และเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่หนีหมายจับข้อหาหมิ่นเบื้องสูงไปเคลื่อนไหวอยู่ในต่างแดน 2. พล.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่นที่ 10 (ตท.10)และมีความใกล้ชิด กับ นายทักษิณ 3.นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร 4. นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือ เปี๊ยก กาละแม 5. นายสมเจตน์ คงวัฒนะ
การพบอาวุธสงครามร้ายแรงลอตนี้นอกจากสร้างความชอบธรรมให้กับอำนาจรัฐคสช.ในการกวาดล้างจับกุมขบวนการแดงฮาร์ดคอร์แล้ว ยังเป็นเหตุผลที่คสช.ใช้อ้างในการยืดเวลาปลดล็อกพรรคการเมืองออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งอาจส่งผลให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป
ดังนั้นจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าคสช.สามารถกุมสภาพของประเทศไว้ได้อย่างมั่นคงและคงไปต่ออีกยาว ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงความระส่ำระสายและดิ้นรนสู้แบบหลังพิงฝาของขบวนการระบอบแม้วที่แนวโน้มนับวันมีแต่เสื่อมและโอกาสที่จะกลับมายิ่งใหญ่ดูจะริบหรี่เต็มที
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี