เชื่อว่า ท่านผู้อ่านคงเคยผ่านตา หรือเคยได้ข่าวเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่ทำหน้าที่ช่วย “หาคู่”
เปิดพื้นที่ให้ผู้อ่านส่งข้อมูลส่วนตัว แนะนำตัวเองเข้ามา พร้อมกับบอกว่าตนเองสนใจอยากจะทดลองศึกษาดูใจหรือคบหากับคนลักษณะไหน อย่างไร
คลาสสิกมากๆ
ยกตัวอย่าง
หนุ่มวัยกลางคน บ้านอยู่นนทบุรี ไม่ลงพุง ชอบเล่นกีฬา ไม่หล่อ แต่ผิวขาว ดูสะอาด สนใจสาวอายุไม่เกิน 25 ปี จริงจัง ไม่เกี่ยงฐานะการงาน
สาววัย 30 ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว ต้องการเริ่มชีวิตรักใหม่ อยากรู้จักผู้ชายวัยไล่ๆ กัน ไม่เล่นการพนัน ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า มีงานการทำเป็นหลักแหล่ง ฯลฯ
ทุกวันนี้ สื่อสิ่งพิมพ์ที่ทำหน้าที่ในบทบาท “พ่อสื่อแม่ชัก” ก็ยังคงมีอยู่
และที่สำคัญ ขยายเข้าไปสื่ออินเตอร์เนต และสื่อดิจิตอลด้วย
1.สื่อสิ่งพิมพ์ทยอยล้มหายตายจากกันไป แต่ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ไม่หายไปไหนคนจำนวนไม่น้อย ยังต้องการโอกาสที่จะได้สานสัมพันธ์กับคนที่เขาอาจจะไม่มีวันได้พบเจอในวิถีชีวิตประจำวันปกติเพราะฉะนั้น สื่อหาคู่ในทำนองนี้ ยังคงอยู่ตลอดไปแน่ๆ เพียงแต่จะต้องปรับเปลี่ยนสภาพไปตามสังคม
2.ที่น่าสนใจมาก คือ กิจการช่วยหาคู่ในลักษณะนี้ ทำเป็นธุรกิจได้ด้วยมีกำไรด้วย และเติบใหญ่อย่างคิดไม่ถึงเลยทีเดียว
3.ขออนุญาตนำบางส่วนจากข้อเขียนของแฟนเพจ “ลงทุนแมน” มานำเสนอ เพราะได้ค้นคว้าข้อมูลไว้อย่างละเอียด เรียบเรียงให้เข้าใจได้ชัดเจนว่า กิจการหาคู่ในโลกยุคนี้ ไร้พรมแดนขนาดไหน และเติบใหญ่ในทางธุรกิจไปถึงขนาดไหนแล้ว
ว่าด้วยเรื่อง “TINDER แอพหาคู่ แสนล้าน”
3.1 เขาทำอย่างไร? ลงทุนแมนเล่าว่า
...“TINDER” แอพพลิเคชั่นหาคู่มาแรงแห่งยุค ได้เปลี่ยนรูปแบบ การทำความรู้จักกันทางออนไลน์ ให้แตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง โดยเพิ่มโอกาสที่คนสองคนจะพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อ ด้วยการใช้งานที่ง่าย เหมาะกับคนสมัยนี้...
INDER พัฒนา App จากการสังเกตพฤติกรรมมนุษย์ เคยมั้ย? เวลาที่แอบชอบใครสักคน แต่ไม่กล้าเข้าไปพูดคุยกับเขา เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับเรา สุดท้ายเรื่องราวจบลงด้วยการที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเราต้องมานั่งเสียใจกับความไม่กล้าของตัวเอง
ด้วยปัญหาดังกล่าว จึงเกิด TINDER ขึ้นมา ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ Sean Rad, Jonathan Badeen, Justin Mateen, Joe Munoz, Whitney Wolfe และ Chris Gylczynski เจอกันในคลาสเรียนวิชา Internet Entrepreneurship ในมหาวิทยาลัย พวกเขาเล็งเห็นว่า ทุกคนจะรู้สึกสบายใจที่จะเข้าหาใครสักคน หากรู้ว่าอีกฝ่ายก็อยากคุยกับเราเหมือนกัน จึงได้ช่วยกันพัฒนา App ที่ช่วย
ผลักดันเรื่องดังกล่าว
ในการใช้งาน TINDER จะดึงฐานข้อมูลมาจาก Facebook/Instagram เช่น รูป เพื่อน ความสนใจ โดยสามารถเลือกเพศ ช่วงอายุ รัศมีจากตำแหน่งเรา ของคนที่เราอยากจะคุยได้ แล้วระบบก็จะขึ้นประวัติมาให้เราทำการส่อง
สิ่งที่ทำให้ TINDER แตกต่างจาก Web หรือ App หาคู่อื่นๆ คือ การใช้งานโดยได้คิดขั้นตอนให้เข้ากับยุคสมัยนี้ ซึ่งคือพฤติกรรมการสไลด์หน้าจอมือถือ (หรือเรียกว่า Swipe) ที่ปกติเราก็ทำกันเพื่อดูรูปอยู่แล้ว
เมื่อเรากดเข้าไปดูประวัติผู้คน หากไม่ถูกใจก็ทำการปัดซ้าย แล้วเขาก็จะหายไปจากชีวิตเรา แต่หากชอบใจคนไหนก็ทำการปัดขวา ซึ่งถ้าอีกฝั่งสนใจเราเช่นกัน ก็จะถือว่า Match
เมื่อจับคู่ได้ ทั้งสองคนก็จะสามารถพูดคุย หรือแชร์ภาพเพิ่มเติมกันได้ เมื่อทั้งเริ่มต้นด้วยพื้นฐานที่สนใจซึ่งกันและกัน โอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อ ย่อมมีสูง
3.2 ธุรกิจไปได้ดีแค่ไหน? ลงทุนในเล่าว่า
...TINDER เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2012 ในช่วงแรกเปิดให้โหลดไปใช้ฟรี และหารายได้จากค่าโฆษณา
ต่อมาในปี 2015 เริ่มหันมาใช้ Business Model ที่เรียกว่า Freemium คือหากผู้ใช้ต้องการบางบริการที่พิเศษขึ้น ก็ต้องเสียเงินเพิ่ม สำหรับการเป็นสมาชิกในรายเดือน นับเป็นเป็นกลยุทธ์ที่หลายๆแอพพลิเคชั่นใช้กันในปัจจุบัน
ผู้ให้บริการ ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าว่าต้องการอะไร และพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ของกิจการ
TINDER เปิดให้สมัครสมาชิกรายเดือน เรียกว่า TINDER Plus ในราคา $9.99-19.99 แล้วแต่ช่วงอายุ และหากจ่ายเพิ่มอีก $4.99 จะเป็นระดับ TINDER Gold บริการพิเศษที่เพิ่มเติมมา เช่น ปัดขวาได้ไม่จำกัด สามารถย้อนกลับมาดูคนที่เราปัดซ้ายไปแล้วได้ เปลี่ยน Location ไปอยู่ที่อื่นได้ สามารถดูว่าใครปัดขวาเราได้ เป็นต้น
ปัจจุบัน TINDER เติบโตแค่ไหน? TINDER อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Match Group ที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น TINDER, Match.com, OkCupid เป็นต้น โดยผลประกอบการของบริษัท เป็นดังนี้
ปี 2014 รายได้ 29,400 ล้านบาท กำไร 4,900 ล้านบาท
ปี 2015 รายได้ 33,800 ล้านบาท กำไร 4,000 ล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 40,500 ล้านบาท กำไร 5,700 ล้านบาท
หากเทียบกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย Match Group จะมีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 44 สูงกว่าบริษัทกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ เช่น แลนด์แอนด์ เฮ้าส์ (34,800 ล้านบาท) แสนสิริ (34,400 ล้านบาท) หรือบริษัทสายการบินอย่าง แอร์เอเชีย (33,100 ล้านบาท)...
ปัจจุบัน TINDER ให้บริการใน 196 ประเทศทั่วโลก ในแต่ละเดือนมีผู้ใช้บริการราว 50 ล้านรายทั่วโลก โดย 10 ล้านราย เข้ามาเล่นทุกวันซะด้วย
ภายใน 1 วัน จะเกิดการ Swipe 1,600 ล้านครั้ง (ทว่าเป็นการปัดซ้ายปฏิเสธไปซะ 988 ล้านครั้ง) หรือใน 1 นาที มีคน Swipe TINDER เกือบ 1 ล้านครั้ง
ที่ผ่านมา เกิดการ Match มาแล้วทั้งสิ้น มากกว่า 20,000 ล้านครั้ง และส่งผลให้ เกิดการ Date 1 ล้านครั้งต่อสัปดาห์
เมื่อปี 2015 Bank of America Merrill Lynch เคยประเมินมูลค่าของ TINDER ไว้ที่ 45,000 ล้านบาท และมองว่าอนาคตอาจพุ่งสูงถึง 99,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
ถ้าดู ณ ปัจจุบัน บริษัทแม่อย่าง Match Group มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 255,000 ล้านบาท หาก TINDER มีฐานลูกค้าเกือบ 40% ของบริษัท ก็อาจจะตีมูลค่าได้อยู่ที่ราว 100,000 ล้านบาทแล้ว...
4. ที่ได้ขำ และได้คิดเพิ่มเติม คือ บรรดาผู้อ่าน หลายท่านยังได้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวไว้ในความคิดเห็นใต้ข้อเขียนในเพจลงทุนแมนด้วย เช่น
คุณ.... บอกว่า เราได้สามีจากแอพหาคู่ แต่ไม่ใช่แอปนี้ เจอคนรวยป๋าๆเยอะมาก แต่เราเลือกผู้ชายธรรมดาใสซื่อคนนึง โชคดีมากดันเลือกได้คนดี แอพ Badoo ค่ะ ผู้ชาย40++เยอะมากค่ะ เคยคุยเคยเจอมาหมด ผู้บริหารโรงเรียน ทหารยศใหญ่ๆ ระดับ ceo บริหารสายการบิน ธุรกิจส่วนตัวที่รวยโคตร เจอมาหมดแล้ว สุดท้ายเราเลือกทหารเกณฑ์ธรรมดาๆคนนึง 55 ถ้าชอบเงินป่านนี้คงสบายแล้ว แต่เช็คดีๆนะคะ ระดับบิ๊กๆส่วนมากมีเมียแล้ว ถ้าเค้าสนเราคือเราต้องเป็นน้อย
คุณ.... บอกว่า เคยเล่นทินเดอร์ก่อนเจอแฟน (เจอแฟนจากแอพอื่น) ผช.ส่วนใหญ่ใน Tinder มองหา one night stand นะคะ ที่ตกลงไปเดทเป็นเรื่องเป็นราวก็มี แต่หาโคตรยากกกกกกค่ะในแอพนี้ ฯลฯ
5. จุดสำคัญของเรื่องนี้ คือ การสะท้อนธุรกิจหาคู่ในยุค 4.0
เมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มโอกาส ทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ไปเกือบทั้งหมด
ลองเปลี่ยนจากกิจการหาคู่ เป็นกิจการประเภทอื่น ก็จะพบว่า ประตูแห่งโอกาสเปิดมากเหลือเกินในยุค 4.0
ใครจะคว้าและลงมือสร้างให้สำเร็จได้เท่านั้น
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี