คนไทยควรมีบทบาทอย่างไรในช่วง 1 ปี ก่อนมีการเลือกตั้งและจะตรวจสอบอย่างไรหลังมีรัฐบาลแล้ว
เป็นคำถามที่น่าสนใจ ถ้าคนไทยที่มีสิทธิ์ลงคะแนนหรือเยาวชนที่ยังไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนตั้งเป้าหมายร่วมกันว่า บทบาทที่สำคัญ คงไม่ใช่ไปลงคะแนนในวันเลือกตั้งแล้วจบกัน ถึงเวลาแล้วที่พลังเงียบของประชาชนควรจะช่วยการเมืองไทยก่อนการเลือกตั้งให้เป็นการเมืองที่มีคุณภาพ การจะเลือกใครเป็นสิทธิของท่าน ต้องคิดให้ดีว่า เขาคือใคร ไม่ใช่เป็นธุรกิจการเมือง เลือกเพราะหัวคะแนนขอมา แต่ต้องช่วยกันระดมพลังการเมืองไทยยุคใหม่ให้มีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้พ้นจากวงจรอุบาทว์แบบเดิมอีก
ในหลักการ มี 3 ประเด็น ที่อยากจะฝากไว้ คือ
ให้มีการสร้างจิตสำนึกในการรณรงค์ใช้สิทธิ์ลงคะแนนให้ตระหนักว่าคืออนาคตของประเทศ ในยุค Social Media เชื่อว่า จะมีพลังเงียบของคนไทยช่วยกันระดมความคิดให้ประชาชนได้รับทราบในสิทธิและหน้าที่ของคนไทยในยุคใหม่ว่าการไตร่ตรอง การตัดสินใจโดยไม่ให้ใครมาชี้นำ เพราะได้เงิน หรือผู้นำท้องถิ่นหรือหัวคะแนนขอมา
เพราะบางพื้นที่ มีการจ้างหัวคะแนนล่วงหน้าให้เป็นตัวแทนของกลุ่มการเมืองในอดีต เช่น อบต.หรือเทศบาล คือฐานการเมืองที่สำคัญ ดังนั้นการสร้างค่านิยมที่ดีของผู้นำอบต.หรือเทศบาลจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
เนื่องจากพรรคการเมืองกระทำเช่นนี้ จึงควรสร้างกลุ่มการเมืองใหม่หรือนักการเมืองใหม่ในพรรคเก่าก็ได้ให้ประชาชนมีเสรีภาพในการตัดสินใจด้วยตนเอง
จากการเลือกกกต. รุ่นใหม่ที่กำลังจะทำหน้าที่ครั้งนี้ หลายท่านที่มีความเป็นกลางและหวังดีต่อประเทศ เช่น เลขาธิการกสทช. คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ น่าจะเป็นบุคคลที่ช่วยในการสร้าง Social Media โดยสร้างคุณธรรมในวงการการเมืองให้คนไทยหลุดพ้นจากการเมืองธุรกิจครอบครัวเสียที และให้ประชาชนมีอำนาจอย่างบริสุทธิ์ในการตัดสินใจจะเลือกโดยปราศจากอิทธิพลของผู้นำท้องถิ่นที่อาจจะมีธุรกิจการเมืองอยู่เบื้องหลัง กกต.ชุดใหม่น่าจะใช้เวลาปลูกฝังเรื่องความสำคัญของประชาธิปไตยไม่ใช่แค่จัดการเลือกตั้ง
ผมยังมั่นใจว่า น่าจะมีกลุ่มนักวิชาการ หรือ NGOs ที่หวังดีเป็นอาสาสมัครทางการเมืองสร้างจิตสำนึกให้ข้อเท็จจริงที่ทำให้ผู้ลงคะแนนนำไปคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ
กกต.ชุดใหม่ก็ต้องทำงานกับภาควิชาการ ภาคประชาชนที่จะระดมอาสาสมัครให้มีใจเป็นกลาง จะเลือกใครก็ได้ ขอให้ตัดสินใจพิจารณาด้วยตนเองมากกว่าการชี้นำ
ประเด็นที่ 2 ที่ ขอเอาหลักการ 7 ข้อของคานธีมาให้ดูประกอบด้วย
แนวคิดคานธี 7 ข้อ
ข้อที่ 1 สำคัญมาก คานธีเขียนไว้ว่า การเมืองต้องมีหลักการ น่าจะหมายถึง การเมืองเพื่อส่วนรวม เพื่อความโปร่งใส เพื่อประเทศชาติ ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ นำเอาหลักการข้อที่ 1 ของคานธีมาก็จะช่วยได้มาก
คำถามคือ จะทำอย่างไรให้ผู้ลงคะแนนสำนึกในสิ่งเหล่านี้
ส่วนประเด็นสุดท้าย คือเมื่อการเลือกตั้งเสร็จแล้ว ตั้งรัฐบาลแล้ว ขอยกคำพูดของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณที่ได้จากพวกเราไป
ท่านฝากไว้ก็คือ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจะดีหรือไม่ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับข้าราชการประจำ
ท่านกล่าวไว้ว่า คุณภาพของข้าราชการประจำในทุกกระทรวงของไทยตกต่ำ มักจะรับใช้นักการเมืองไม่ได้รับใช้ประชาชน จึงขาดความเป็นมืออาชีพและขาดคุณธรรมจริยธรรม
เรื่องนี้ การเมืองของจีนภายใต้การนำของ Xi Jinping ทำได้ดีกว่าไทยมาก เพราะ Xi Jinping เน้นว่า คนจีนรวมทั้งข้าราชการต้องมีคุณสมบัติ
-เป็นมืออาชีพ
-มีคุณธรรมจริยธรรม
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กล่าวว่าปัจจุบัน ข้าราชการทำเพื่ออยากได้ตำแหน่ง เป็นเกียรติให้วงศ์ตระกูลไม่ได้นึกถึงประชาชนเป็นหลัก ขาดความเป็นมืออาชีพอย่างที่ผู้นำจีนต้องการ ได้ตำแหน่งแต่รู้ไม่จริง อ่อนแอเรื่องจริยธรรม เป็น C8 ก็วิ่ง C9 เป็น C9 ก็วิ่ง C10 ขอให้ได้ตำแหน่ง ซึ่งถ้ามีจุดอ่อนเช่นนี้ ก็จะเป็นเหยื่อของนักการเมือง
ผมหวังว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของนักการเมือง หรือธุรกิจการเมือง หรือหัวคะแนนเท่านั้นแต่เป็นสิ่งที่คนไทยทุกๆ คนควรจะหวงแหนประเทศ ช่วยดูอย่าให้การเมือง
เป็นเรื่องเฉพาะเพื่อตัวบุคคล หรือเป็นระบบอุปถัมภ์ ระบบครอบครัวคนไทยต้องช่วยกันครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี