แย่แน่ถ้าอำนาจไร้ธรรมาภิบาล
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
ป.ป.ช.เด็กในคาถาของตระกูลทอง – สรรพากรเด็กในคาถาของตระกูลชิน – สตช.เด็กในคาถาของทั้งตระกูลชินและตระกูลทอง : แล้วประเทศไทยเป็นของใคร?
เมื่อผู้สื่อข่าวถามแป๊ะใหญ่ว่า“เพชรและนาฬิกานี้ท่านได้แต่ใดมา” แป๊ะใหญ่ตอบว่า “น็อท ยัวร์บิวซิเนส” ฉันจะตอบคำถามนี้กับเด็กในคาถาของฉันเท่านั้น ซึ่งเด็กในคาถารีบคายจุกนม
ที่อมไว้ พร้อมตอบว่า“เรื่องนี้เป็นเรื่องยาก ไม่สามารถแสดงและตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเพิ่ม ขณะดำรงตำแหน่งได้” แตกต่างกับมาตรฐานที่ ป.ป.ช.ชุดก่อนใช้กับนางดอกไม้ แสดงว่าอำนาจของผู้ครอบครองนั้น มีอิทธิพลเหนือ“กฎระเบียบทั้งปวง” เพราะเรื่องเดียวกัน ป.ป.ช.ชุดก่อนจัดการสอบสวนได้ทันที แต่ชุดนี้กลับบอกยากที่จะสอบสวน เท่ากับปิดประตูสอบ พร้อมประทับตราครั่งบนแฟ้มว่า ไม่มีมูล หรือ น็อทกิ้ลตี้ พร้อมประทับตราห้ามรื้อฟื้น
สมัยตระกูลชินครองอำนาจ ธุรกิจทุกชนิดของตระกูลชินแทบไม่ต้องชำระภาษีอากร ทำให้เกิดคำถามว่า“มาตรฐานอยู่หนใด” เพราะถูกหรือผิดขึ้นกับดุลพินิจผู้ครอบครองอำนาจที่มีหน้าที่
ตัดสินถูก–ผิด เท่านั้น ทำให้การสรรหาตัวผู้ครอบครองอำนาจตัดสิน ถูก–ผิด จึงเป็นภารกิจสำคัญยิ่งยวด ต้องมีตรา“ลับเฉพาะ”ประทับหน้าซอง ทำให้“ปู่”ต้องกำหนดให้รีเซตหรือเซตซีโร่องค์กรอิสระที่มีหน้าที่ชี้เป็นชี้ตาย โดยยกเหตุผลเรื่อง“สเปก”หรือคุณสมบัติส่วนตนมาอ้าง ซึ่งเหตุผลที่แท้จริงที่เปรียบเสมือนน้ำท่วมปากปู่ก็คือ“ตั้งได้ต้องสั่งได้”
เมื่อข้าราชการและองค์กรอิสระที่ถูกแต่งตั้งนั้น ต้องตกในสภาพ“ทาสีทาสา”ของนักการเมืองหรือผู้ครองอำนาจที่ไร้ธรรมาภิบาลที่“เตรียมพร้อมกระทำความผิดที่ไม่สามารถตรวจจับได้ แบบน้ำยาหมด”ก็หมายความว่า “แผ่นดินนี้ไม่มีความยุติธรรม”และเมื่อข้าราชการและองค์กรอิสระเป็นเพียงทาสีทาสาของนักการเมืองหรือผู้ครองอำนาจ แล้วประชาชนจะมีสภาพเยี่ยงใด เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับที่ ๒๐ เทอำนาจให้ฝ่ายบริหารแบบไม่ลืมหูลืมตา สามารถแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติได้ด้วยวุฒิสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งแบบมี“ไฟเขียว” และเมื่อยังมีอิทธิพลเหนือองค์กรอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งแบบมี“ไฟเขียว”ด้วยเช่นกัน ก็หมายความว่าสามารถสั่งให้ประเทศไทยหันซ้ายหรือหันขวาได้ตามใจชอบ
โดยเฉพาะเมื่อมีอำนาจลงนามในสนธิสัญญากับต่างประเทศแบบอำนาจนิติบัญญัติไม่ต้องมีส่วนร่วมหรือคัดค้านได้ เช่น กรณีกู้เงินธนาคาร ADB ที่มีข้อกำหนดว่า“ต้องไล่โรงพยาบาลศูนย์ออกนอกระบบราชการ” ซึ่งเท่ากับยืมดาบ ADB“ฟันบัตรทอง” ที่นับวันจะสร้างภาระให้รัฐบาลมากขึ้น ดังนั้น ภาษีที่ถอนขนห่านทองคำจะถูกใช้จ่ายเฉพาะกลาโหม,มหาดไทยและการเมืองเท่านั้น หมายความว่านักการเมืองมีหน้าที่เพียง“ธุรการ”เท่านั้น ไม่ต้องมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน การศึกษาระดับอุดมศึกษาก็ไม่ใช่หน้าที่ สาธารณสุขก็ไม่ใช่หน้าที่ น้ำไฟ พลังงานก็ไม่ใช่หน้าที่ เป็นเรื่องของบริษัทมหาชน แล้วมีรัฐบาลไว้ทำไม คำตอบคือ“มีไว้ควบคุมห่านทองคำให้อยู่ในคอกเท่านั้น”
อำนาจไร้ธรรมาภิบาล อำนาจที่ไร้การถ่วงดุล เป็นอำนาจของคนพาล อนาคตของชาตินั้นมุ้งมิ้งเหลือกำลัง ดังนั้นถ้า“ตัดสิทธิ์ของประชาชน”ในการควบคุม ตรวจสอบ ถ่วงดุล การใช้อำนาจทุกๆ เรื่องแล้ว “ธรรมาภิบาล”จะไม่เกิดขึ้นในแผ่นดิน นอกจากนั้นประเทศอาจหายนะได้ถ้าผู้ครองอำนาจมัวเมาในอำนาจ เช่นเดียวกันโลกก็อาจหายนะ ถ้าอำนาจการปล่อย“นุค”อยู่ในกำมือผู้ครอบครองที่เป็นโรคจิต เพราะผลจากอาวุธนิวเคลียร์ มิได้ทำลายเฉพาะศัตรู แต่จะทำลายคนบริสุทธิ์ที่อาศัยบนโลก ดังนั้น ถ้าไร้การถ่วงดุลอำนาจการใช้นุคแล้ว โลกก็ไม่ปลอดภัย เช่นกันถ้าไร้การถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ประเทศไทยก็ไร้ความปลอดภัย
โกลเด้นโกทส์
ตอบ คุณโกลเด้นโกทส์
ใครเข้ามามีอำนาจ จะให้ดีแสนดี น่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าขาดการถ่วงดุล หรือไม่เปิดให้ประชาชนควบคุมตรวจสอบ สุดท้ายมักจะ“เหลิง”จนเกิดหายนะทุกที ทำไมไม่รู้จักสรุปบทเรียนกันบ้าง
วิภาวดี หลักสี่
รอบคอบสักนิด วิกฤติไม่เกิด
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ที่นับถือ
การเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ สะท้านไปทั้งกองทัพ พิษความเคลือบแคลงได้สำแดงให้เห็นแล้ว คําสั่งกองทัพไทยที่ 104 / 2560 ย้ายนายทหารผู้รับผิดชอบไป 2 นาย เพื่อลดกระแสไม่พอใจของครอบครัว“น้องเมย” ถ้าพูดความจริงตั้งแต่ต้น กระแสกดดันจากผู้คนคงไม่มากอย่างนี้
โดยเฉพาะพวก“แสนรู้”คือต้นตอนำสู่จุดเดือด“สุขภาพเด็กไม่ดี มีโรคประจำตัว ถ้าไม่อยากถูกซ่อมก็ไม่ต้องมาเป็นทหาร” ไอ้ปากอย่างนี้ ไม่น่ามีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบันเลยพับผ่า
ลองฟังนายวิเชษฐ ตัญกาญจน์พ่อน้องเมยบ้าง“หัวอกคนเป็นพ่อ ถ้าลูกคุณตาย คุณจะเสียใจหรือไม่ แค่มาเรียนเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ถึงขนาดต้องเสียชีวิตเลยหรือ” อีกความเห็นหนึ่งของน.ส.สุพิชชาพี่สาวผู้ตาย“วันที่ 13 ต.ค. 2560 ก่อนน้องเสียชีวิต 4 วัน ได้พาไปรักษาที่รพ.สมิติเวช ศรีราชา เนื่องจากน้องแจ้งว่า ตกบันได การเอกซเรย์ไม่พบความผิดปกติใดๆ หากเสียชีวิตจากภาวะหัวใจจริง ครอบครัวสามารถรับได้ แต่หากพบว่า ถูกกระทำ ก็ต้องหาตัวผู้กระทำมาลงโทษตามกฎหมาย ใครทำสิ่งใดไว้ ก็ต้องได้รับสิ่งนั้น”
ข้อมูลที่ปรากฏ ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตเคยถูกทำโทษที่เรียกว่า“ธำรงวินัย”หรือการ“ซ่อม”อย่างรุนแรงจากรุ่นพี่ คณะกรรมการต้องสืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง สำหรับการผ่าชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตในส่วนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่ร่วมกันแพทย์รพ.รามาธิบดี แพทย์จาก รพ.จุฬา และแพทย์จากรพ.ศิริราช เชื่อว่าอีกไม่กี่วันคงทราบผล
ตราบใดที่ยังเข้าใจว่า การ“ซ่อม”กับการ“ซ้อม”คือการลงโทษในลักษณะเดียวกัน เหตุการณ์อัน“บัดซบ”ก็ไม่มีทางลบจากโรงเรียนเตรียมทหาร!!!
เข้ามาเรื่องที่กำลังร้อนเกี่ยวกับการ“สัญจรใต้”หน่อย จบลงด้วยความ“ถ่อย”ดังคาด กรณีแรก...ชาวประมงร้องเรียนปัญหาที่ได้รับผลกระทบ นายกฯเปิดแนวรบด้วยการ“ตวาดใส่” กรณีที่ 2 เครือข่ายคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.เทพา จ.สงขลา ถูกเจ้าหน้าที่ดาหน้าสกัดกั้น จนเกิดปะทะและจับกุม เรื่องนี้พูดได้เลยว่า“เจ้าหน้าที่ผิด” ประชาชนใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ พวกคุณนั่นแหละไปขวางกั้นการใช้สิทธิ์ ก็สะกิดเตือนไว้“วันมหาวิปโยค”14 ตุลา 2516 เคยน้ำตาตกมาแล้ว กรณีนี้อาจบานปลาย สถานการณ์อาจเลวร้ายแบบไม่พึงประสงค์ “น้ำผึ้งหยดเดียว”ครั้งนั้น เกิดจากการ“ดื้อรั้น”ของผู้นำ
รัฐบาลอย่า“เหลิง”จนเกินไป“อำนาจ”ที่ใช้กำลังยึดมา กำลังรอเวลาจะถูก“เรียกคืน” กฎหมายที่เขียนขึ้นจาก“ปัญญา”ของผู้ที่ยังไม่อิ่มจากอำนาจ สักวันจะเหมือน“เศษกระดาษ”ที่รอการเปลี่ยนแปลง วันๆไม่คิดทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม “พลิกแเพลง-กำกวม”เพื่อประโยชน์“ส่วนตน”ทั้งสิ้น พ้นจาก“ประยุทธ์” ประเทศชาติคงไม่ถึงกับสิ้นสุดล่มจม เมื่อ“อาสา”เข้ามาบริหารบ้านเมือง ทุกข์ร้อนของราษฎรควรปลดเปลื้องทันที ถ้า“อ่อนไหว”ต่อการถูกกระทบ “วางมือ”เถิดครับ จะได้ไม่เกิด“ภาพลบ”ในตัวท่าน…สุดท้าย...ยินดีต่อแกนนำทุกท่านที่ได้รับการปล่อยตัว นี่ถ้า“ยูเอ็น”ไม่ยื่นมือเข้ามา“กดดัน” ไอ้พวกที่“ดื้อรั้น”จะสั่งให้ปล่อยตัวไหมนี่!!
สมควร บุญสมเกียรติ
-รอบคอบสักนิด วิกฤติไม่เกิด-
“ซ่อมกับซ้อม”ต่างกันหลายพันโยชน์ ไม่ใช่โจทย์ยากเลย...คงเคยเห็น ถ้าไม่ใช่พวก“คุ้มคลั่ง”หวังร่มเย็น เรื่องที่เป็นความเศร้าใจคงไม่มีการ“ธำรงวินัย”ควรใสกระจ่าง ไม่ใช่เพื่อความบาดหมางระหว่างน้องพี่ ควรดูแลแก้ไขกันให้ดี ไม่ใช้วิธีรุนแรง ขัดแย้งกันเป็นผู้นำ“ธรรมปกครอง”ต้องประจักษ์ ใจต้องหนักแน่นไว้ ไม่หุนหันเมื่อ“อาสา”มาระงับดับไฟควัน ควรสร้างฝันให้ถึงฝั่งดังตั้งใจที่มันเป็นปัญหา...ดูน่าเบื่อ ขยันเติมเชื้อ ขยันผูกปมจนพรมไหม้ถ้ายัง“กร่าง,วางอำนาจ”ขาดเยื่อใย “วางมือไปเสียเถิด”อาจเกิดคุณ
“เบี้ย”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี