เมืองไทยกับปัญหาหมาแมวจรจัด เป็นปัญหาที่อยู่คู่กันมานานหลายสิบๆ ปี เป็นปัญหาที่ผู้บริหารราชการแผ่นดิน หรือผู้บริหารทุกระดับของบ้านเมืองนี้มิได้เอาใจใส่อย่างจริงๆ จังๆ อาจเป็นเพราะว่าผู้มีอำนาจบริหารบ้านเมืองคงคิดแค่เพียงว่า ก็มันเป็นแค่หมาแมวจรจัด จะไปสนใจไยดีอะไรกับมันนักหนา เอาเวลาไปยุ่งกับเรื่องคนดีกว่า แม้ผู้บริหารบ้านเมืองบางรายอาจจะแก้ตัวเช่นนั้น แต่เท่าที่เห็นชัดก็คือ บ้านเมืองของเราก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของคน แล้วก็ยังคงมีปัญหาเรื่องหมาแมวจรจัดเสมอมา
เมื่อไร เมืองไทยจะหมดสิ้นปัญหาหมาแมวจรจัด เมื่อไรผู้บริหารบ้านเมืองของไทยจะกำหนดให้ชัดเจนว่า ผู้ใดต้องการจะเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว หรือสัตว์เลี้ยงทุกชนิด จะต้องนำสัตว์ไปขึ้นทะเบียนให้เป็นกิจจะลักษณะ และเมื่อไรจะมีบทกำหนดโทษชัดเจนเพื่อเอาผิดกับผู้ทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง
คำถามเหล่านี้ เป็นสิ่งที่สาธารณชนโดยเฉพาะคนรักสัตว์เลี้ยงต่างถามกันมาโดยตลอด แต่ทว่าไม่เคยได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าผู้บริหารประเทศจะมาจากการเลือกตั้ง หรือจากการทำรัฐประหาร และไม่ว่านายกรัฐมนตรีของประเทศนี้จะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ก็ยังคงปรากฏตลอดมา
ขอให้คุณผู้อ่านโปรดอ่านข้อความนี้ ซึ่งคัดลอกบางช่วงบางตอนมาจากเรื่องสั้นชื่อมอม ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช โดยเป็นการเล่าแบบสรุป
“มอมไม่ได้รักนายเท่าชีวิต แต่นายคือชีวิตของมอม”
สำหรับคนที่เคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้มาก่อน แล้วถ้ายิ่งเป็นคนรักหมา และเคยเลี้ยงหมาด้วยความรักและความทะนุถนอมมาก่อนแล้ว รับรองได้เลยว่า คนอ่านจะต้องร้องไห้ด้วยความสงสารหมาตัวหนึ่ง นอกจากร้องไห้เพราะความสงสารแล้ว ยังจะต้องร้องไห้เพราะความซาบซึ้งในความจงรักภักดีของหมาที่มีต่อเจ้าของของมัน
มอมมันโตวันโตคืนจนกลายเป็นหนุ่มใหญ่ แม่หายไปจากโลกของมอม ซึ่งเดี๋ยวนี้เหลือแต่นาย มอมไม่ได้รักนายเท่าชีวิต แต่นายเป็นชีวิตของมอม เช้าขึ้นนายหายไปจากบ้าน มอมก็รู้สึกว่าชีวิตว่างเปล่า แต่มอมรู้ว่าตกบ่ายนายก็ต้องกลับ ฉะนั้น ตามปกติ มอมก็ไม่เดือดร้อนเท่าไรนัก มอมใช้เวลาที่นายไม่อยู่หาอะไรกินบ้าง เล่นกับหนูบ้าง บางทีหนูก็ดึงหูดึงหางมอม เล่นกับมอมเจ็บๆ แต่มอมก็ทนได้ เพราะกลิ่นของนายติดอยู่ที่ตัวของหนูเหมือนคนคนเดียวกัน ชั่วแต่เพียงว่าหนูตัวเล็กกว่า
อยากถามว่า เมื่อคุณได้อ่านเรื่องสั้นตอนนี้แล้ว คุณมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง คุณเห็นถึงความภักดีของมอมบ้างหรือไม่ คราวนี้อยากให้คุณได้อ่านเรื่องย่อแบบสังเขปในตอนนี้บ้าง
ครั้นตกบ่ายทุกๆ วัน มอมจะต้องไปหมอบคอยนายที่หัวกระไดบ้าน ตามันจับอยู่ที่ประตูบ้าน และประสาททุกส่วนเตรียมพร้อมที่จะรับนาย พอได้ยินเสียงเท้านายเดินกลับบ้าน มอมก็หูตั้งคอยฟัง พอลูกบิดประตูหน้าบ้านเสียงดังเก๊ก มันก็โผจากที่ด้วยกำลังทั้งตัว แล้วก็โถมเข้าหานาย ดีใจเป็นที่สุดแล้ว นายกลับบ้าน มันจะวิ่งเข้าพันแข้งพันขานาย คาบข้อมือนาย เลียตั้งแต่หน้าลงมาจนถึงเท้า ความดีใจของมอมกว่าจะสงบได้ก็เมื่อนายผลัดผ้าเข้าห้องน้ำอาบน้ำหายไป ทีนี้มันก็มีหน้าที่ติดตามนายไปทุกฝีก้าว ไม่ว่านายจะนั่งหรือนอนหรือจะไปทางไหน มอมเป็นต้องอยู่ข้างๆ บางวันนายพามอมออกไปเดินเที่ยวเล่นนอกบ้าน ถ้าวันไหนได้ออกไปเที่ยวกับนาย วันนั้นก็เป็นวันที่มอมดีใจเอิกเกริกเป็นพิเศษ ออกได้ก็วิ่งนำหน้าไป บางทีก็วิ่งเลยไป จนนายต้องเรียก บางครั้งได้กลิ่นอะไรที่ข้างถนน สนใจเป็นพิเศษ มอมก็ไถลเที่ยวสูดดมกลิ่นนั้นเสีย จนนายต้องเรียกอีกเหมือนกัน มอมเป็นหมาที่มีแต่หัวใจ และหัวใจของมันนั้นก็มอบให้นาย ฉะนั้นมิไยนายจะสั่งสอนให้ทำอะไร มอมก็ไม่ค่อยเอาใจใส่ เพราะเมื่ออยู่กับนายมันมีแต่ความดีใจ ความสุข ไม่มีปัญญาจะไปจดจำอะไรได้กี่มากน้อย แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังอุตส่าห์เรียนวิชาที่นายสอนให้ไว้ได้อย่างหนึ่ง เวลาเดินไปริมคลองหรือริมบ่อ นายจะหากิ่งไม้แห้งๆ ขว้างลงไปในน้ำ มอมก็กระโดดน้ำว่ายไปคาบเอากิ่งไม้กลับมาให้นาย ที่มอมเรียนได้เร็วก็เพราะว่ามันเห็นเป็นการเล่นชนิดหนึ่ง บางทีนายไม่อยากเล่นเพราะมันสะบัดขน น้ำเปียกนาย แต่มอมก็เที่ยวไปหากิ่งไม้แห้งๆ คาบมาชวนนายเล่นทุกครั้ง ที่มีบ่อหรือคลองอยู่ใกล้ๆ
ผู้เขียนขอยืนยันว่า สำหรับคนที่เลี้ยงหมาด้วยความรักและความเอาใจใส่ คุณจะได้รับรู้ปฏิกิริยาจากหมาที่คุณเลี้ยงเช่นเดียวกับที่มอมแสดงออกกับนายของมัน
รุ่งขึ้นนายตื่นแต่เช้าตรู่ นายแต่งตัวเสร็จก็ถือห่อของพะรุงพะรังออกจากบ้านไป แต่พอถึงประตูหน้าบ้านนายก็ทรุดตัวลงนั่ง กอดมันไว้แน่น มอมไอ้มอม เสียงนายกระซิบสั่งที่หู ข้าจะต้องจากไปนาน จะได้กลับเมื่อไรก็ยังไม่รู้ เอ็งอยู่ทางหลังช่วยเฝ้าบ้าน ช่วยดูนายผู้หญิง ช่วยดูหนู เอ็งรักข้ามากข้ารู้ เอ็งต้องทำตามที่ข้าสั่งแล้วคอยข้าอยู่ที่นี่ ไม่ตายข้าจะกลับ มอมเอาหน้ามันไปแนบที่หน้านาย ตามใบหน้าของนายอาบไปด้วยน้ำตา เป็นครั้งแรกที่มอมได้เคยเห็น มอมส่งนายเพียงประตูบ้านแล้วก็เดินกลับเรือน หางตกหัวตก มอมเดินช้าๆ ไปที่หัวกระไดที่มันเคยนอน ล้มตัวลงเหยียดยาว ตาจับอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน มอมครางออกมาเบาๆ เหมือนกับจะอุทานความในใจของมันให้คนรู้ว่า ชีวิตของมอมนั้นสิ้นสุดลงนับตั้งแต่วาระที่นายออกจากบ้านไป และจะเป็นอยู่เช่นนั้นจนกว่านายจะกลับมาอีก
คราวนี้ลองอ่านเรื่องย่อตรงนี้ แล้วเมื่ออ่านจบแล้ว ลองดูสิว่าคุณจะมีน้ำตาไหลออกมาหรือไม่
แล้ววันหนึ่ง สงครามได้คุกคามมาถึง 3 ชีวิตและมอม เครื่องบินทิ้งระเบิดลงตรงบ้านที่อยู่อาศัย จนไฟไหม้บ้านเหลือแต่เถ้าถ่าน หญิงและหนูจบชีวิตลง แรงระเบิดฝังร่างทั้ง 2 มอมพยายามเต็มที่ที่จะช่วย แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ หลังจากเหตุการณ์นั้น มอมเฝ้ารอการกลับมาของนาถอย่างโดดเดี่ยว แต่เพราะความหิว มันจึงต้องออกเร่ร่อนหาอาหาร ผู้คนต่างบอบช้ำจากสงคราม มอมเร่ร่อนโดยไร้จุดหมาย
กระทั่งวันหนึ่งเมื่อมอมตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองหลับอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่โต คุณแต๋ว เด็กผู้หญิงลูกสาวเจ้าของบ้านเก็บมอมไปเลี้ยง ให้ความรักให้อาหารจนมอมอ้วนท้วนสมบูรณ์เช่นเดิม แล้วเรียกมอมว่า ดิ๊ก มอมรู้สึกมีความสุขทางกาย แต่ใจก็ยังคงรอคอยนาถตลอดเวลา มอมคอยเฝ้าดูผู้คนที่ผ่านไปมา เผื่อว่าจะเป็นนาถ เมื่อมีโอกาสมอมจะกลับไปบ้านเก่าเพื่อรอนาถจนถึงเวลาเย็น นี่คือภาพที่คนแถวนั้นเห็นจนชินตา
คืนวันหนึ่งในฤดูร้อนในอีก 2 ปีต่อมา ครอบครัวคุณแต๋วไปตากอากาศที่ต่างจังหวัดกันหมด มีขโมยแอบเข้าในบ้าน มอมตั้งใจจะจับขโมยให้ได้ แต่พอลมพัดพาเอากลิ่นตัวของขโมยคนนั้นมาเข้าจมูก มอมจำได้ว่านั่นคือนาถ เจ้านายที่มันรอคอย นาถบอกให้มอมกลับไป เพราะตนเองลำบากมากต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนพเนจร ต้องเป็นขโมย เพราะไม่มีงานทำ ไม่มีบ้าน ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว มอมรบเร้าแสดงให้เห็นว่าจะขออยู่กับนาถ ไม่ว่านาถจะไล่มอมอย่างไร แต่มอมก็ไม่ไป ในที่สุดนาถจำยอมให้มอมติดตามแล้วเร่ร่อนไปด้วยกัน
ดึกมากแล้ว พระจันทร์ข้างแรมเริ่มขึ้น ทอแสงสว่างไปทั่ว นายเดินอย่างอ่อนระโหยไปนั่งที่ริมคูข้างถนน สายตามองไปไกล มอมไปนั่งชิดกับนายอยู่ครู่หนึ่ง เห็นนายไม่ไหวติง มันก็นึกอะไรออก มอมวิ่งไปคาบกิ่งไม้แห้งมาวางไว้บนตักนายด้วยความเคยชิน นายเอากิ่งไม้ขว้างลงไปในคู มอมมันก็กระโดดโครมตามลงไปคาบกิ่งไม้มาให้นายอย่างเคยทำ นายซบหน้าลงบนหัวของมัน เสียงนายกระซิบเรียกชื่อมันหลายครั้งไม่พูดว่าอะไรอีก น้ำตาร้อนผ่าวร่วงลงบนหน้าและจมูกของมอม นายนั่งอยู่เช่นนั้นอีกนาน ในที่สุดนายลุกขึ้นยืนช้าๆ คลำหูมันอย่างใจลอยแล้วพูดว่า ไอ้มอม เอ็งชนะข้า ไปด้วยกัน มา ตามข้ามา แล้วนายก็ออกเดินมีมอมตามติดไป
ขอถามอีกครั้ง เมื่อคุณอ่านแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
สำหรับบทส่งท้ายบทความประจำสัปดาห์คือ ผู้เขียนขอเชิญชวนทุกคนโปรดช่วยกันเรียกร้องให้ประเทศไทยออกกฎหมายสำหรับการขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงสัตว์ทุกชนิด และข้อให้มีบทลงโทษผู้ทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง และที่มากกว่านั้นคือ ขอเชิญชวนคุณๆ ร่วมโครงการทำหมันหมาแมวจรจัดกับหนังสือพิมพ์แนวหน้า ที่ร่วมมือกับอาจารย์และนิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอยากจะขอร้องสำหรับคุณๆ ที่พอจะช่วยรับหมาแมวจรจัดไปเลี้ยงดูได้ ขอได้โปรดช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อให้สังคมไทยปราศจากหมาแมวจรจัด สนใจร่วมโครงการ โปรดติดต่อ 09-1723-3615
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี