กู้เงินอย่างไม่พอเพียงพาชาติหายนะ
เรียน คุณวิภาวดีฯที่นับถือ
กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ย ในระบบก็น้อยหน่อย นอกระบบก็มหาโหด “อีนี้ 100 ไป 120 มานะนายจ๊า กู้ 100 ได้ 80 นะนาย เพราะฉันหักดอกไว้ก่อน แต่สิ้นเดือนก็ต้องจ่ายดอกอีก 20 นะนาย” เรื่องนี้อาจเป็นเพียงดราม่าในละครหลังข่าวหรือเรื่องจริงก็ได้ น้องสาวผมทำงานบริษัทใหญ่ มีสามีเป็นรุ่นพี่ที่เรียกตัวเองเป็นศิลปินแต่อยากเป็นนักธุรกิจ ให้ภรรยากู้เงินด้วย “บัตรเครดิต” มาลงทุนทำผับที่ตัวเองเป็นนักดนตรี แต่ธุรกิจไม่หมานเพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิตมหาโหด เมื่อศิลปินนักธุรกิจตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพราะท่านมะเร็งเรียกให้ไปเปิดคอนเสิร์ต ทำให้น้องสาวต้องเป็นซิงเกิ้ลมอม หลังอาน เพราะดอกเบี้ย
สมัยโบราณ ชาวจีนโพ้นทะเลหอบเสื่อผืนหมอนใบมาอาศัยร่มพระบรมโพธิสมภาร แผ่นดินสยาม ทำมาหากินอาบเหงื่อต่างน้ำจนเป็นเจ้าสัว เมื่อลูกหลานจะออกเรือน พ่อแม่ญาติพี่น้องทั้ง 2 ฝ่าย ก็ตั้งวงแชร์ขึ้นเพื่อเป็นทุนให้คู่สมรส ทำให้คู่สมรสตั้งตัวได้ เพราะ “ไม่มีดอกเบี้ย” แต่ทุกวันนี้ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ถ้าต้องเริ่มต้นด้วยกู้เงินมาลงทุน ก็หมายความว่า “โอกาสประสบความสำเร็จมีน้อยมาก” เพราะต้นทุนสูง ราคาสินค้าก็ต้องสูงขึ้น ยิ่งกู้เงินนอกระบบมาลงทุนเหมือนพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยด้วยแล้ว โอกาสเจ๊งสูงมาก ดังนั้นคนจนจึงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เพราะขายขาดทุน
สำหรับการค้าของรัฐบาลก็เช่นกัน มีเงินทุนจากเก็บภาษีมาใช้จ่ายพัฒนาประเทศ ถ้ารัฐบาลตั้งเป้าสูงเริ่ด แบบ “ตั้งใจสร้างบราซิเลียให้สวยงามติดอันดับโลก” โดยกู้เงินมาสร้าง เมื่อรายได้ประชาชาติไม่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายซึ่งมีดอกเบี้ยจำนวนมากด้วย ทำให้ประเทศและประชาชนบราซิลหาไม่พอกิน เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เช่นเดียวกับมนุษย์เงินเดือนหรือสิบแปดมงกุฎที่สร้างบ้านหลังใหญ่ รถยนต์หรูราคาแพง ทำให้มีค่าจ่ายมากกว่ารายได้ ดังนั้นก็ต้องค้ายาบ้าหรือหลอกลวงคดโกงให้มากขึ้น
“พอเพียงหรือทางสายกลาง” จึงเป็นนโยบายการดำรงชีวิตที่ถูกต้อง ไม่ว่าครอบครัวเล็กๆ หรือประเทศ การลงทุนหวังเพิ่มทรัพย์สินมากขึ้น ก็ต้องรอบคอบ พอเพียง เพราะไม่ว่าคุณมีเงินมากเพียงใด ก็มิได้เป็นหลักประกันว่า จะไม่มีทุกข์ เมื่อสุขกับทุกข์เป็นธรรมดาของโลก สำหรับประเทศชาติก็เช่นกัน การสร้างรถไฟฟ้ามากมายในกทม.หรือรถไฟความเร็วสูง มิใช่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ดี กินดี มีสุขขึ้น โดยเฉพาะถ้าต้องกู้มาลงทุน แล้วส่งผลให้งบประมาณด้านอื่นๆ ต้องลดลง
รัฐบาลนางดอกไม้สร้างเรื่องบัดสีที่สุดในจักรวาลโดยพยายามออกพ.ร.บ.กู้เงินพิเศษ ที่ไม่ต้องชี้แจงรายละเอียด เงิน 2 ล้านล้านบาทที่ต้องการกู้มาผลาญนั้น จะสร้างความเสียหายใหญ่หลวง เพราะดอกเบี้ยที่ต้องชำระหมายถึงงบประมาณแผ่นดินที่เก็บจากภาษีต้องลดลงไป ดังนั้นผลที่ตามมาคือ “ความถดถอยของประเทศ” ทำอย่างไรจึงจะทำให้ทุกๆ รัฐบาลไม่กู้เงินมาใช้อย่างไม่คุ้มค่า เพราะถ้าปิดหูปิดตาประชาชน มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญเหนืออำนาจนิติบัญญัติและสามารถควบคุมองค์การอิสระที่มีหน้าที่ควบคุมตรวจสอบได้ ก็สามารถกู้เงินมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งจะส่งผลถึงลูกหลานไทยในอนาคตด้วย
กู้เงินอย่างพอเพียงเท่าที่จำเป็น รอบคอบ อาศัยระดมความคิดมากกว่ากู้เพราะทีมเศรษฐกิจสั่งหรือกู้ตามโผ แต่สำคัญที่สุดคือ “อธิปไตยของชาติ” ต้องไม่เสียหายจากข้อบังคับของเจ้าหนี้ นอกจากนั้นเหตุผลที่กู้ ต้องไม่ถูกข้อบังคับเจ้าหนี้เบี่ยงเบน เช่น กู้เพื่อพัฒนาการศึกษาที่ผ่านมา แต่เจ้าหนี้บังคับให้ไล่มหาวิทยาลัยออกนอกระบบราชการ ครั้งนี้จะกู้มาพัฒนาระบบสาธารณสุข เจ้าหนี้ก็บังคับให้ไล่โรงพยาบาลศูนย์ออกนอกระบบอีก แบบนี้ก็ไม่แตกต่างกับสมัยที่ต้องกู้เงินมากำจัดวิกฤติต้มยำกุ้ง
การกู้เงินมาใช้แบบไม่คุ้มค่า แล้วยังสูญเสียอธิปไตยชาติเพราะข้อบังคับเจ้าหนี้ เป็นการกระทำที่ “ทริปเปิ้ลโง่” เพราะต้องเสียทั้งดอกเบี้ยและอธิปไตย โดยไม่เกิดประโยชน์ ยิ่งกู้มาพัฒนาอะไร นอกจากไม่พัฒนาได้แล้ว ยังถอยหลังด้วยซ้ำ เหมือนกรณีมหาวิทยาลัยนอกระบบที่ทำให้การศึกษาไทยตกต่ำ
เรือจ้างขึ้นคาน
ตอบ คุณเรือจ้างขึ้นคาน
เรื่อง ที่มีข่าวรัฐบาลไปเซ็นกู้เงิน ADB โดยรับเงื่อนไขที่น่าห่วงทำให้เสียอธิปไตยนั้น นับวันยิ่งกระพือกันมากขึ้น รัฐบาลควรชี้แจงให้เคลียร์ มิเช่นนั้นจะเป็นอีกปมที่ยิ่งทำลายศรัทธามากขึ้นไปอีก
วิภาวดี หลักสี่
wvvipawadee1@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี