เงินสองพันล้านบาทต่อปี ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ใช้สร้างและขยายโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศไทย ได้หรือไม่
ใช้สร้างถนนหนทางและระบบสาธารณูปโภคให้กับสังคมไทย ได้หรือไม่
ใช้สร้างหรือปรับปรุงโรงเรียนในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย ได้หรือไม่
ใช้สร้างศูนย์สงเคราะห์ ศูนย์ดูแลเด็กพิการ เด็กอนาถา เด็กกำพร้า คนแก่อนาถา คนไร้บ้าน และศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย ได้หรือไม่
หรือว่า เงินสองพันล้านบาทต่อปี ควรจะต้องถูกนำไปใช้เพื่อกิจการของไทยพีบีเอส เท่านั้น
ลองคิดทบทวนให้ดี แล้วโปรดตอบว่า เงินสองพันล้านบาทต่อปี ควรจะต้องนำไปใช้เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่สำคัญต่อสังคมไทย ในเรื่องใดมากกว่ากัน
โปรดตอบคำถามนี้ให้ชัดเจนด้วย หากสังคมไทยไม่ต้องเสียเงินสองพันล้านบาทต่อปี สังคมไทยจะขาดแคลนข่าวสาร และรายการที่ดีวิเศษและมีสาระสุดยอดไปจริงๆ หรือสื่อสารมวลชนรายอื่นๆ ที่เขาไม่ต้องใช้เงินจากภาษีบาปปีละ 2 พันล้านบาท เขาไม่มีปัญญานำเสนอข่าวหรือรายการอย่างเช่นที่ไทยพีบีเอสนำเสนอได้ จริงๆ หรือ แล้วโปรดตอบให้ชัดด้วยว่า รายการและข่าวที่นำเสนอในไทยพีบีเอส เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และมีสาระเหนือกว่าการนำเสนอของสื่อ รายอื่นๆ จริงๆ หรือ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ไทยพีบีเอสจะนำเสนอข่าวสารและรายการซึ่งไม่ได้วิเศษวิโสมากเกินไปกว่าผู้ผลิตเนื้อหาสาระของสื่อรายอื่นๆ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำงาน และสติปัญญาในการสร้างสรรค์นำเสนอเนื้อหาของข่าวและรายการ แล้วก็คงจะไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิไทยพีบีเอสเลยแม้แต่น้อย หากไทยพีบีเอสบริหารงานด้วยความขาวสะอาดโปร่งใส ปราศจากเรื่องราวอันชวนให้สังคมเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลสารพัดชนิดภายในองค์กร
แต่ในความเป็นจริงนั้น ภายในองค์กรไทยพีบีเอสเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่น่าไว้วางใจ แถมยังเต็มไปด้วยเรื่องที่ส่อไปในทางทุจริตฉ้อฉล ซึ่งปัญหาเหล่านี้เคยถูกนำเสนอไปแล้วหลายครั้งโดยผ่านคอลัมน์นี้ และคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์อีกหลายฉบับ แต่ปัญหาดังกล่าวก็ไม่เคยถูกแก้ไข เพียงแต่ไทยพีบีเอสใช้วิธีตามหาว่าใครในองค์กรคือผู้ให้ข้อมูลกับผู้นำเสนอบทความอันแสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสภายในไทยพีบีเอส
ถึงขนาดกับมีการประกาศภายในองค์กรไทยพีบีเอสว่า หากรู้ว่าใครนำข้อความไปให้กับผู้เขียนคอลัมน์นี้ ผู้ให้ข้อมูลจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก โทษฐานนำความลับของหน่วยงานไปไขแก่บุคคลภายนอก
นี่คือการแก้ปัญหาแบบไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาน่าสังเวชมากจนเกินบรรยาย แทนที่จะแก้ไขสิ่งผิดปรกติที่เกิดขึ้น แต่ไทยพีบีเอสกลับเลือกใช้วิธีของพวกเผด็จการบ้าอำนาจ ซึ่งก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะของไทยพีบีเอสได้เป็นอย่างดี
ครานี้ โปรดพิจารณาจำนวนบุคลากรในไทยพีบีเอส แล้วจะรู้ว่าหน่วยงานนี้มีพนักงานมากมายก่ายกองจนน่าตั้งคำถามว่า เหตุไฉนจึงมีคนมากมายได้ถึงเพียงนี้ มิหนำซ้ำผู้บริหารระดับสูงแต่ละรายยังได้รับเงินเดือนแบบเฟ้อๆ จนน่าตั้งคำถาม โดยเฉพาะประสิทธิภาพของผลงานเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเดือนที่แสนเฟ้อ
ไทยพีบีเอสมีสำนักทั้งหมด 15 สำนัก ดังนี้ คณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการบริหารอื่น สำนักข่าว สำนักรายการ สำนักโทรทัศน์และวิทยุ สำนักวิศวกรรม สำนักสื่อสารและภาคีสัมพันธ์ สำนักบริหาร สำนักทรัพยากรมนุษย์ สำนักตรวจสอบภายใน สำนักผู้อำนวยการ ส.ส.ท. สำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ศูนย์พัฒนาการสื่อใหม่ และศูนย์การเงิน รวมทุกสำนัก
มีบุคลากรประมาณ 1,170 คน (ตัวเลขล่าสุดที่ได้คือ 1,166 คน)
สำนักที่มีบุคลากรมากที่สุดในไทยพีบีเอสคือ สำนักข่าว มีทั้งหมด 410 คน สำนักที่มีบุคลากรรองลงมาคือ สำนักโทรทัศน์และวิทยุ จำนวน 243 คน ตามมาด้วยสำนักวิศวกรรม 139 คน และตามมาคือ สำนักรายการ 109 คน
ส่วนสำนักที่มีบุคลากรมากมาย จนต้องตั้งข้อสังเกตว่าทำไมจึงต้องมีผู้คนมากมายถึงเพียงนี้คือ สำนักบริหาร จำนวน 64 คน สำนักสื่อสารและภาคีสัมพันธ์ 40 คน สำนักผู้อำนวยการ ส.ส.ท. 28 คน สำนักทรัพยากรมนุษย์ 26 คน ศูนย์พัฒนาสื่อใหม่ 23 คน สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ 20 คน ศูนย์การเงิน 20 คน สำนักเครือข่ายสาธารณะ 18 คน สำนักตรวจสอบภายใน 12 คน และยังมีสำนักอื่นๆ เช่น คณะกรรมการนโยบาย 11 คน คณะกรรมการอื่น 3 คน
ขอย้ำว่าไม่ต้องพูดถึงรายได้ประจำเดือนและรายได้อื่นๆ ของผู้บริหารไทยพีบีเอส เพราะที่นี่เงินเดือนและเงินค่าตอบแทนอื่นๆ เฟ้อมาก ไม่เชื่อลองไปพิจารณาเงินเดือนแค่ผู้อำนวยการสำนักก็ได้ แล้วจะรู้ว่า รายได้งดงามอย่างน่าอัศจรรยใจ ซึ่งหากเป็นหน่วยงานเอกชนที่มีคุณภาพจริงๆ แล้ว การจะได้รับเงินเดือนมากมายขนาดนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด มิใช่มีเพียงเปลือกและกระพี้อย่างเช่นคนบางคนในไทยพีบีเอส
ย้อนกลับไปดูจำนวนบุคลากรฝ่ายข่าวในไทยพีบีเอส ซึ่งมีจำนวน 410 คน ข้อย้ำว่ามีจำนวนมากมายเกินบรรยายจริงๆ แต่เมื่อเทียบคุณภาพงานข่าวกับสถานีโทรทัศน์อื่นๆ แล้ว ผู้ชมข่าวที่เป็นแฟนพันธุ์แท้แทนข่าวตัวจริง คงตอบได้ทันทีว่า คุณภาพข่าวของใครเหนือกว่าหรือด้อยกว่า
หันกลับไปพิจารณาบุคลากรในสำนักรายการบ้าง มีจำนวนถึง 109 คน แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจคือ แม้จะมีจำนวนคนมากมายก่ายกองถึงเพียงนี้ แต่ไทยพีบีเอสก็ยังคงต้องจ่ายเงินซื้อรายการที่ผลิตโดยคนภายนอกเป็นประจำ และจ่ายเงินซื้อเป็นจำนวนมิใช่น้อย คำถามคือ หากมีคนมากมายในหน่วยงาน แต่ไม่มีปัญญารังสรรค์รายการได้ด้วยตนเอง แล้วจะต้องมีไปเพื่ออะไร หรือว่าได้เงินมาโดยไม่ต้องออกแรง เพราะฉะนั้นจึงสามารถหว่านเงินได้ตามอำเภอใจ
แน่นอนว่าเรื่องรายละเอียดเหล่านี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเฟ้อของบุคลากรในไทยพีบีเอส หน่วยงานที่ได้เงินปีละ 2 พันล้านบาท จากภาษีบาป ซึ่งเมื่อเทียบกับหน่วยงานประเภทเดียวกัน
ที่ต้องทำมาหากินด้วยความสามารถของตนเองในการผลิตและรังสรรค์ผลงานดีๆ เพื่อสังคมแล้ว คุณสามารถตอบได้ทันทีว่าไทยพีบีเอสใช้เงินที่ได้ปีละ 2 พันล้าน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพียงใด
จวบจนถึงวันนี้ เวลานี้ ก็ยังปรากฏว่าไทยพีบีเอสไม่ยอมรับผิดเรื่องนำเงินประมาณ 200 ล้านบาท ไปซื้อหุ้นกู้ของซีพีเอฟ มิไยที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะลงความเห็นชัดเจนว่าเป็นการกระทำที่ผิด แต่ไทยพีบีเอส ก็ยังคงไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ นี่คือเครื่องแสดงจุดยืน และแสดงให้เห็นถึงเจตคติของไทยพีบีเอส ในสิ่งที่สาธารณชนเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม แต่ไทยพีบีเอสไม่นำพากับเรื่องสำคัญเช่นนี้
ไม่ว่าสาธารณชนจะมองไทยพีบีเอสด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากมายเพียงใด แต่ไทยพีบีเอสยังคงยืนยันว่า ไทยพีบีเอสถูกต้อง ขาวสะอาด งดงาม
ล่าสุดผู้บริหารไทยพีบีเอสรายหนึ่งได้รังสรรค์ข้อความขึ้นมาเพื่อปลอบใจตัวเองและปลอมประโลมใจคนในไทยพีบีเอสว่า
ขอแสดงความยินดีกับเต๋า และทีมงานไทยพีบีเอสที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจนี้นอกจากนี้ ยังมี message ขอบคุณมาจากผู้รับรางวัลท่านอื่นว่า เพราะมีไทยพีบีเอสที่ร่วมเกาะติดประเด็นมาอย่างไม่ทอดทิ้งกัน
ขอถือโอกาสนี้ แจ้งให้พี่น้องไทยพีบีเอสได้ทราบว่า เมื่อวานนี้ ทีมผู้บริหารได้ไปประชุมชี้แจง กับอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ฯ ของกสทช. ได้รับคำชื่นชมจาก กสทช. (ดร.พีระพงษ์) อย่างมาก และให้ไทยพีบีเอสมุ่งมั่นเป็นสื่อคุณภาพให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป รวมทั้ง การเตรียมให้ใบอนุญาตประกอบกิจการภายในเดือนนี้
สำหรับกรณีที่มีผู้เขียนบทความ และประเด็นในสื่อออนไลน์ วิจารณ์การทำงานและธรรมาภิบาลของไทยพีบีเอสนั้น ทางผู้บริหารและทีมสื่อสารองค์กร กำลังจัดทำคำชี้แจงให้พวกเราได้รับทราบ ทั้งนี้ ผอ.ได้ตอบกลับใน page ของผู้เขียนบางท่านไปบ้างแล้ว
ขอให้ความมั่นใจกับชาวไทยพีบีเอสว่า เราพร้อมจะแก้ไขสิ่งที่เป็นคำวิจารณ์ พร้อมรับคำแนะนำ และการตรวจสอบ รวมทั้งพร้อมชี้แจงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เสียงวิพากษ์ต่างๆ เหล่านี้ เป็นสัญญาณว่า เราชาวไทยพีบีเอสยิ่งต้องร่วมมือกันทำให้องค์กรของเรามีคุณค่า เป็นที่ประจักษ์ และโปร่งใส ซึ่งเชื่อมั่นว่า เราทุกคนกำลังตั้งใจทำสิ่งนี้กันอยู่ และย่อมอยากเห็นองค์กรเราดีขึ้น
ขออย่าได้ท้อถอย และขอให้นำคำวิจารณ์เหล่านั้น มาเป็นพลังให้พวกเราได้ทำหน้าที่ของสื่อสาธารณะได้อย่างสมศักดิ์ศรีค่ะ เชื่อมั่นในชาวไทยพีบีเอสทุกคน
เมื่ออ่านข้อความจากผู้บริหารไทยพีบีเอสแล้วจะยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้ ก็ตามแต่ดุลพินิจและวิจารณญาณของปัจเจก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี