แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nn
ทั้งรัฐบาล ทั้งคสช. ย้ำนักย้ำหนาว่า การเลือกตั้งจะเดินไปตามโรดแมปแน่นอน ส่วนจะได้เลือกตั้งกันในปี 2561 หรือเขยิบไปเป็นปี 2562 ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีปัจจัยอะไร “แทรกซ้อน” เข้ามาจนทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปหรือไม่...
nn เอาที่ใกล้ๆ ตัวกันก่อน “คชสีห์”ไม่ได้ห่วงเรื่องการปลดล็อกพรรคการเมือง เพราะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วย แต่ที่ร้องตะโกนโหวกเหวกโวยวายกันก็คือ นักการเมืองที่กลัวเงื่อนเวลาจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา...
nn ตัวอย่างที่นักการเมืองห่วงกัน เช่น จำนวนสมาชิกของพรรคมีการปรับเปลี่ยนแปลงมากน้อยอย่างไรนั้น จะต้องทำให้เสร็จ ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่กฎหมายพรรคการเมืองประกาศใช้...
nnสรุปของเรื่องนี้คือ คสช.ได้งัดมาตรา 44 ยาเทวดา แก้วสารพัดนึก แก้ไข้แก้ปัญหาได้ชงัดนักมาแก้ปมจากเรื่องนี้...
nn “พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบายว่า คำสั่งตาม ม.44 จะมีผลทำให้พรรคการเมืองใหม่สามารถจองชื่อพรรคการเมือง สรรหาสมาชิก เก็บค่าบำรุงสมาชิกได้ ประชุมใหญ่ครั้งแรกเพื่อคัดเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคได้ แต่จะต้องขออนุญาต คสช.ก่อน ส่วนพรรคการเมืองเก่าที่มีอยู่ 69 พรรคคสช.ไม่อนุญาตจัดประชุมใหญ่ แต่อนุญาตให้พรรคทำงานธุรกรรมทางการเมืองได้ โดยเฉพาะเรื่องตรวจสอบสถานภาพสมาชิกเดิมได้ไปพลางก่อน...
nn พ้นจากเรื่องไกลตัว “คชสีห์” ขอว่า กันที่เรื่องใกล้ตัว มีผลต่อประชาชนล้วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการ “เซตซีโร่”องค์กรอิสระ ที่คุ้นชื่อคุ้นเสียงกันเป็นอย่างดี เช่น กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ...
nn ผลปรากฏว่ากกต. และกสม. ชะตาขาด โดนเซตซีโร่ไป ส่วนที่เหลือรอดหมด บางองค์กร ได้อยู่ต่อไปจนครบวาระ บางแห่งได้อยู่จนกว่าจะมีครม.ใหม่ แต่ล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ที่เล่นเอาฮือฮาก็คือ คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ให้กรรมการป.ป.ช.อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระ ทั้งๆ ที่กรรมการบางคน ก็ดันมีคุณสมบัติที่ล่อแหลมหมิ่นเหม่ว่าอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยเฉพาะใหม่ตัวประธานป.ป.ช.เอง คือ “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” ซึ่งพ้นตำแหน่งทางการเมือง คือเลขาธิการรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ไม่ถึง 10 ปี ขณะที่ป.ป.ช.บางคนก็เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีหรือเทียบเท่า ไม่ถึง5 ปี ตามที่รัฐธรรมนูญใหม่...
nn หนักไปกว่านั้นยังมีการเสนอให้เพิ่มอำนาจป.ป.ช. ให้สามารถดักฟังการสื่อสารของนักการเมือง ข้าราชการและประชาชนทั่วไป ทั้งทางโทรศัพท์ โทรสารและอุปกรณ์การสื่อสารอื่นๆ อีกด้วย...
nn “คชสีห์” ว่า ข้อเสนอนี้ สุ่มเสี่ยงเหลือเกินว่า อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องของเสรีภาพในการสื่อสาร ถือเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลขั้นพื้นฐาน แต่เอาล่ะ เรื่องการดักฟังโทรศัพท์ยังคงต้องว่ากันต่อไปว่าจะเอายังไง แต่ที่แน่ๆทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กรธ.และกมธ. หลีกเลี่ยงหรือปัดสวะไม่ได้แล้วที่จะต้องถูกมองและตั้งคำถามว่า มีมาตรฐานในการพิจารณารีเซตองค์กรอิสระหรือไม่? เพราะภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายเดียวกัน แต่องค์กรหนึ่งรอดอีกองค์กรกลับถูกยุบ!!...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี