l ปู่จิ๊บต้องขอขอบคุณเพื่อนมิตรที่ติดตามข้อเขียนที่ลงในนสพ.แนวหน้า ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
สัปดาห์ก่อนไปร่วมงานฉลองครบ 60 ปี อัสสัมชัญลำปาง มีเพื่อนและน้องๆ มาบอกว่า “เขียนเข้าใจง่าย” ส่วนเพื่อนมิตรชาวพธม.ที่โดนคดีร้ายแรง และกปปส.ที่กำลังจะโดนคดีจากการรุกโหมของฝ่ายตรงกันข้ามโดยอ้าง “สองมาตรฐาน” ก็บอกว่า บทความเขียนแยกแยะชัดเจน ระหว่าง “คนที่ออกมาสู้ปกป้องบ้านเมือง ยึดกติกาสูงสุด คือ รัฐธรรมนูญ-มติของศาลรัฐธรรมนูญ” กับ “กลุ่มที่ใช้อำนาจมิชอบ ใช้มวลชนมาเผาบ้านเผาเมืองฯ”
l ปู่จิ๊บ ชอบมองมุมบวกและสร้างสรรค์ แต่ยังไม่แน่ใจในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นเรื่องใหญ่ฯลฯ แต่เมื่ออ่านข่าว “ชง 10 แผนปฏิรูปยุติธรรม 5 ปี ทัดเทียมมาตรฐานสากล” จึงมีความหวังขึ้น
l เมื่อ 7 ธ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นเพื่อทำแผนปฏิรูป โดย “อัชพร จารุจินดา” ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรมได้กล่าวสรุปแนวทาง มีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้ :-ที่ผ่านมาบุคลากรด้านกระบวนการยุติธรรมมีไม่พอ อีกทั้งการดำเนินงานก็ล่าช้า รวมถึงปัญหาที่ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมไม่ค่อยสะดวกหรือเกิดความเหลื่อมล้ำในการดำเนินการ นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมไทย โดยที่ผ่านมามีความพยายามปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมมาตลอด แต่ก็มีอุปสรรคไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ บางครั้งก็เกิดความขัดแย้งระหว่างองค์กรยุติธรรม....... แต่วันนี้รัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องปฏิรูปด้วย ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการฯได้รวบรวมความเห็น และจัดทำแผนปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมมี 10 แผน
1.กำหนดให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ต้องมีระยะเวลาในการดำเนินงาน แต่ละขั้นตอน และสร้างระบบให้ประชาชนสามารถตรวจสอบความคืบหน้าของคดีได้
2.สร้างกลไกช่วยเหลือประชาชน ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมโดยสะดวก เช่น ให้หน่วยงานในกระบวนยุติธรรมต้องแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหาและจำเลยทราบ เป็นต้น รวมถึงปฏิรูปกระบวนการวิธีพิจารณาความแพ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
3.การสร้างกลไกให้มีการบังคับการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการปรับปรุงโทษปรับในคดีอาญา โดยให้นำระบบโทษปรับตามความสามารถของผู้กระทำผิด เพื่อลดข้อกล่าวว่าคนรวยจ่ายเงินแล้วจบคดีได้
4.การสร้างกลไกการบังคับตามกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเป็นธรรมในสังคม อย่างการกำหนดนโยบาย การใช้กฎหมายยาเสพติดให้เห็นชัด รวมถึงกำหนดให้การลดการกระทำความผิดซ้ำ เป็นหนึ่งในเป้าหมายในการดำเนินงาน เป็นต้น
5.การปรับปรุงระบบการสอบสวนให้มีการตรวจสอบถ่วงดุล ระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการอย่างเหมาะสม
6.กำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวนทุกฝ่ายให้ชัดเจน
7.สร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการในการสอบสวนคดีอาญา
8.ปฏิรูประบบนิติวิทยาศาสตร์ เช่น การทำให้มีกฎหมายบริหารจัดการระบบนิติวิทยาศาสตร์ และการอบรมความสามารถของพนักงานสอบสวน ให้มีความรู้ด้านนี้เบื้องต้น เพื่อการรักษาสถานที่เกิดเหตุ หรือสามารถเก็บหลักฐานได้ทันทีหากมีความจำเป็น
9.เสริมสร้างและพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ให้มุ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนโดยเร็ว และ
10.การพัฒนาศักยภาพของกระบวนการยุติธรรมไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
“แผนปฏิรูปดังกล่าวเป็นเพียงหลักเบื้องต้นเท่านั้น ผมเชื่อว่าใน 5 ปีข้างหน้า ถ้าสำเร็จทุกแผน กระบวนการยุติธรรมไทย จะทัดเทียมมาตรฐานสากล และมีศักยภาพแข่งขันกับนานาชาติได้ ซึ่งเรากำลังรับฟังความคิดเห็น โดยจะส่งต่อให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.) พิจารณากันอีกรอบในกรอบเวลา 30 วัน ก่อนจะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบต่อไป”
l อ่านมาถึงตอนนี้ ปู่จิ๊บ เริ่มมีความสุขและสมหวัง เพราะ 10 แผน ตรงกับความรู้สึกและความเห็นที่ได้เสนอไว้ โดยผู้นำที่น่าเชื่อถือคือ “อัชพร จารุจินดา” และอีกคนหนึ่งคือ คุณจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
l คุณ “จรัญ ภักดีธนากุล” ได้ให้ทัศนะว่า จากที่ได้เคยมีส่วนร่วมปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เป็นแผนงานเล็กๆ แต่ว่าไม่มีครั้งไหนลงรายละเอียดชัดเจนเท่าครั้งนี้ จึงตั้งความหวังว่าเพียงแค่ทำได้ 80% ก็เป็นการปฏิรูปใหญ่แล้ว โดยได้นำเสนอ 4 ปัญหาในกระบวนการยุติธรรม
1.ไม่มีผู้รับผิดชอบในการกำหนดมาตรฐานทิศทางของกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่ใช่การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทำให้ไม่มีใครแก้ปัญหาในภาพรวมได้ แต่วันนี้มีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมเข้ามาทำหน้าที่นี้แล้ว และยังเป็นผู้คอยติดตามประเมินผลด้วย เชื่อว่าคณะกรรมการนี้จะทำหน้าที่ได้ในระดับหนึ่ง
2.มีการปล่อยคนชั่วลอยนวล ถือเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน โดยคนที่ทำผิดร้ายแรง ที่เป็นผู้มีอำนาจทั้งในการเมือง ราชการ อำนาจทุน มักจะหลุดลอยไปโดยที่ไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ ซึ่งใน 10 แผน พูดแก้เรื่องนี้แต่ไม่สุด วิธีหนึ่งที่จะเสนอ คือเอาความพยายามของการต่อสู้ระบบทุจริตมาใส่กับเรื่องนี้ด้วย เช่น ถ้าจำเลยจะอุทธรณ์ ก็ต้องมาแสดงตัวต่อศาลก่อน รวมถึงระบบอายุคดีความที่มีในคดีทุจริตเช่นกัน
3.การหนีจากประกัน ซึ่งระบบทุจริตถ้าหนีประกัน คือ ผิดอาญา เรื่องนี้ก็ต้องเข้าไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรมด้วย ถือเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการยุติธรรม
4.การกันคนเป็นพยาน ที่ควรมีกฎหมายเฉพาะ เพราะที่ผ่านมาตำรวจอาจจะใช้วาทศิลป์ เช่นว่า ถ้าเป็นพยานให้ จะไม่ดำเนินคดีด้วย ทำให้พยานบางคน ศาลไม่รับฟัง ทั้งๆ ที่เป็นคำให้การที่สำคัญ ดังนั้นควรมีมาตรฐานหรือข้อกำหนดที่ในเรื่องนี้เพื่อกันพยานโดย
ไม่ต้องหลอกลวงสัญญา หรือว่ามีระบบคุ้มครองพยาน ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยจากการฆ่าตัดตอน เป็นต้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี