ในช่วงปี 2560 ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง แม้มีเหตุการณ์ต่างๆในโลกมากมายดังทราบกันดีอยู่ แต่มีประเด็นหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญและอยู่ในใจชาวโลกเป็นระยะๆ ก็คือ เรื่องบทบาทของสถาบันกษัตริย์ที่ยังคงอยู่และสามารถปรับเปลี่ยนไปตามครรลองของสังคมประเทศและสังคมโลกได้อย่างเหมาะสม สง่างาม
โดยทั่วไปสถาบันกษัตริย์ไม่ว่าในราชอาณาจักรไหน ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนในชาติ เป็นที่บ่งบอกและแสดงออกซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมนั้นๆ เป็นผู้รักษา อุปถัมภ์ ชี้นำและแบบอย่างของศาสนาประจำชาติหรือศาสนาหลักของชาติ เป็นผู้ดูแล สอดส่องทุกข์สุขประชาชนพลเมือง และรักษาความถูกต้องชอบธรรมของสังคมบ้านเมือง หมายถึงการปรึกษาหารือเป็นระยะๆ ระหว่างฝ่ายผู้บริหารประเทศกับฝ่ายกษัตริย์ หรือการถวายรายงานโดยฝ่ายผู้บริหาร
ทั้งนี้ความสำคัญช่วงปี 2560 เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ต่างๆทั่วโลกที่น่าสนใจ น่าประทับใจ ก็มีหลายเรื่องคู่ควรจารึกในความทรงจำ เป็นข้อคิดและแนวทางต่อการดำรงชีวิต และถวายความจงรักภักดี
เริ่มที่ประเพณีวัฒนธรรมและระบอบความเชื่อถือของคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับองค์จักรพรรดิที่เปรียบเสมือนเทพเจ้าจากสวรรค์จุติลงมาเกิด การดำรงตำแหน่งจักรพรรดิสืบทอดยาวนานเป็นพันๆ ปี
มากด้วยกฎเกณฑ์และประเพณีบังคับ จักรพรรดิองค์ใดอยู่ในตำแหน่งแล้วก็ต้องครองไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ผู้สืบทอดก็ต้องเป็นเพศชาย แต่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันฮิโรฮิโต ประกาศพระประสงค์จะสละราชสมบัติด้วยชราภาพซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในที่สุดรัฐสภาไดเอท(Diet)ลงมติให้ความเห็นพ้องยอมรับให้เกิดขึ้นได้ ความพอดีพองามสะท้อนอยู่ในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอันสำคัญยิ่งของสังคมญี่ปุ่นในครั้งนี้
ข้ามฟากมาอีกซีกหนึ่งของโลกที่สหราชอาณาจักรหรือประเทศอังกฤษ เจ้าชายแฮรี่ผู้สืบทอดราชสมบัติอันดับที่ 4 ทรงประกาศการหมั้นหมายเดือนธันวาคม 2560 และจะแต่งงานเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งการแต่งงานเป็นเรื่องปฏิบัติทั่วไปของมวลมนุษย์ การแต่งงานของบุคคลในราชวงศ์ก็เป็นข่าวใหญ่หน่อย แต่ข่าวเจ้าชายแฮรี่เป็นข่าวใหญ่มากๆ ด้วยได้ก้าวข้ามประเพณี ก้าวข้ามข้อจำกัด โดยเฉพาะความรู้สึกนึกคิดของราชวงศ์อังกฤษ(ราชวงศ์วินเซอร์) และของคนอังกฤษทั่วไป ที่มักพิถีพิถันยิ่งกับผู้ที่จะเป็นชายาหรือเจ้าหญิงองค์ใหม่ว่า ต้องมีเชื้อตระกูล ต้องนับถือศาสนาคริสต์นิกายแองกลิคันหรือเชิร์ช ออฟ อิงแลนด์(Anglicanism หรือ Church of England) และแน่นอนต้องเป็นคนผิวขาว แต่เจ้าสาวของเจ้าชายแฮรี่กลับเป็นชาวอเมริกันลูกครึ่งผิวขาว-ดำ เติบโตในแวดวงการศึกษาคาทอลิกและเป็นแม่ม่าย เป็นนักแสดงภาพยนตร์ อะไรจะแหวกแนวแตกต่างจากความเป็นราชวงศ์อังกฤษได้ขนาดนี้ สะท้อนการเปิดกว้างของสภาวะจิตใจ การไม่ยึดมั่นถือมั่น ถือหมู่ถือเหล่า แต่เอาความรัก ความเข้าใจ ความทันสมัยและความเป็นสากลเป็นตัวตั้ง ก็สะท้อนให้เห็นว่า แล้วจะจงเกลียดจงชัง เข่นฆ่ากันเพียงเพราะมีความต่างเท่านั้นหรือ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นขณะที่ชาวโลกยังไม่ลืมกรณีกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 6 (ซึ่งมีศักดิ์เป็นทวดของเจ้าชายแฮรี่)ยอมสละราชสมบัติ เนื่องจากตัดสินใจแต่งงานกับแม่ม่ายชาวอเมริกัน
ขยับกันมาที่ยุโรปกลางที่ประเทศโรมาเนีย ก็มีการจากไปหรือสวรรคตของกษัตริย์ไร้บัลลังก์ กษัตริย์ไมเคิลที่ 1 ซึ่งลี้ภัยอยู่ยาวนาน จนกระทั่งโลกคอมมิวนิสต์หลังม่านเหล็กล่มสลาย จึงเสด็จนิวัติกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน แต่ก็มิได้กลับไปเพื่อเรียกร้องราชบัลลังก์คืน หากแต่ทรงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสังคมประชาธิปไตยให้กับโรมาเนีย จนเป็นที่กล่าวขานและชื่นชม สะท้อนว่าการรักชาติ การทำงานเพื่อชาตินั้น เป็นเรื่องของการอุทิศตนมากกว่าการจะต้องมีตำแหน่งแห่งหนใดๆ
เมื่อลงไปทางใต้ยุโรป ประเทศอิตาลีโดยพระศพของอดีตกษัตริย์วิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 3 แห่งราชวงศ์ซาวอย ได้ถูกนำกลับจากอียิปต์ หลังสิ้นพระชนม์ไปเมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทั้งจากลี้ภัยการเมือง และการสละราชสมบัติ ไม่สามารถบันดาลให้พระราชโอรสขึ้นครองราชย์แทนได้ เนื่องจากคณะรัฐบาลได้ตัดสินใจเปลี่ยนสถานะประเทศจากราชอาณาจักรมาเป็นสาธารณรัฐ อันเนื่องจาการตัดสินพระทัยของพระองค์ในขณะนั้น ที่ไม่ต่อต้านขบวนการฟาสซิสต์ชาตินิยมขวาจัด แถมยังเชื้อเชิญเข้ามาเป็นรัฐบาลภายใต้การนำพาของจอมเผด็จการเบนิโต มุสโสลินี จนนำอิตาลีเข้ากับฝ่ายนาซีฮิตเลอร์ จนประเทศและยุโรปย่อยยับกันไปทั่วถึง นอกจากนั้นกษัตริย์เอมนูเอเลยังออกกฎหมายลิดรอนสิทธิตามฮิตเลอร์ และเปิดทางสู่การล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจนเป็นที่อื้อฉาว
กรณีนี้ ทำให้เกิดการถกเถียงเรื่องที่ว่า ควรนำพระศพไปฝังอีกครั้งที่ไหน ฝ่ายพระญาติอยากให้ฝังเก็บไว้ที่วิหารแพนธีออน เพราะกษัตริย์องค์ก่อนๆของราชวงศ์ซาวอยก็อยู่ที่นั่น แต่ก็มีเสียงคัดค้าน โดยเฉพาะจากกลุ่มชาวยิวอิตาลีและฝ่ายเสรีนิยม เพราะเห็นว่ากษัตริย์เอมานูเอเล ไม่ได้มีผลงานใด แถมยังมีส่วนก่อให้เกิดการล่มสลายของชาติบ้านเมือง รวมทั้งเรื่องความโหดร้ายในระหว่างครองราชย์ โดยระหว่างนี้ จึงตั้งพระศพไว้ชั่วคราวในที่ดินของราชวงศ์ที่เมืองตูรินไปก่อน
ข่าวนี้ได้สะท้อนให้คิดถึงเรื่องการดำรงตนในทศพิธราชธรรม ของกษัตริย์ ซึ่งต้องกระทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง จึงจะเป็นมิ่งขวัญของคนทั้งชาติ
มาที่ตะวันออกกลาง โลกอาหรับมุสลิมซึ่งมีปัญหามากมาย แต่ที่เกินความคาดคิดคือ การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย นำโดยมกุฎราชกุมารและรัฐมนตรีกลาโหม เจ้าชายซัลมาน ที่กำลังขับเคลื่อน สั่งการเปลี่ยนแปลงภายในซาอุดีอาระเบียให้เป็นสังคมทันสมัย ลดการพึ่งน้ำมันธรรมชาติ แบบจากข้างบนลงข้างล่าง(Top down) ควบคู่กับการขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างใหญ่หลวงโดยเฉพาะในระดับสูง ทั้งเชื้อพระวงศ์ กลุ่มทุนและกลุ่มการเมือง สะท้อนว่า เมื่อผู้นำเอาจริงเอาจังกับบ้านเมือง มีวิสัยทัศน์ มีวิธีการสังคมก็เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีได้ ประชาชนจะแซ่ซ้องสรรเสริญ สนับสนุน
กลับมาที่ประเทศสยามของเรา จะมีอะไร จะมีใคร หาเสมอเหมือนไม่ที่คนไทยทั้งปวง มีใจรัก เคารพ และผูกพันยิ่งต่อล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นผู้นำอย่างหาที่เทียบที่ติมิได้
การไว้ทุกข์ การถวายงานเตรียมงานพระบรมศพ การจัดงานถวายพระเพลิงได้สะท้อนความโดดเด่นดีงามของคนไทยทั้งปวง ทั้งวินัย ทั้งความเอื้ออาทร เกื้อกูลต่อกัน ทั้งงานฝีมือต่างๆ อันบ่งบอกวิจิตรศิลป์ชั้นยอดสูงสุดยากที่ใครอื่นใดจะทัดเทียม การผสมผสานระหว่างกองเกียรติยศดั้งเดิมกับการยิงสลุตของสมัยใหม่ เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ สง่างาม กลมกลืนยิ่ง
12 เดือนที่ผ่านมา คนไทยได้แสดงถึงความเป็นเลิศ ด้วยการถวายงานกันอย่างแข็งขัน พร้อมเพรียง
หลังจากนี้แล้ว ความดีงามในระยะเวลา 1 ปีนั้น จะมีความต่อเนื่องเป็นความดีงามในชีวิตประจำวันทุกๆ วันได้หรือไม่ ความซื่อสัตย์สุจริต การตั้งมั่นทำมาหากิน การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่เบียดเบียน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน การเจริญเติบโตงอกกิ่งก้านออกไปปกคลุมสังคมไทยได้เพียงใด เป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือช่วยเหลือกันของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเราคนไทยจะต้องตระหนักในหัวใจว่า จะถวายงานกันต่อไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งจนกว่าชีวิตจะหาไม่
โลกหมุนไปไม่หยุดยั้ง แม้มีความท้าทายใหม่ๆเกิดขึ้นกับสถาบันกษัตริย์ทั่วโลกมากมาย แต่เราก็เห็นแล้วว่า สถาบันกษัตริย์ยังคงยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงและสง่างาม ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลก
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี