ยาบ้าที่มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จะลำเลียงขนใส่รถขนาดความจุมากๆ พร้อมกับมีรถนำหน้าและปิดท้าย เพื่ออารักขาในความสะดวก แต่ไม่วายต้องถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้น ก่อนจะเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดหมายหลักของเหล่าคาราวาน จำนวนไม่น้อยที่เล็ดลอดเข้ามาได้โดยใช้เมืองกรุงเป็นแหล่งพักยา เพื่อนำออกจำหน่ายและส่งไปยังภาคอื่นๆ อีกทั้งยังใช้เป็นที่เปลี่ยนยานพาหนะ
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เฉพาะยาบ้า แต่ยังมียาเสพติดอีกหลายชนิด ที่ต้องการเข้ามาลองดีกับ ตำรวจนครบาล กระนั้นเองในส่วนของพื้นที่ บก.น.2 ที่มีอาณาเขตติดกับปริมณฑล ทั้ง จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี ซึ่งจัดอยู่ในจังหวัดเป้าหมายนำยาเสพติดไปส่งจำหน่าย คงไม่มีตำรวจคนไหน อยากให้ยาเสพติดเหล่านี้อยู่ในพื้นที่ของตน เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบก.น.2
พ.ต.อ.ระพีพงษ์ หรือ รองฯเอ้ อายุ 49 ปี เป็นชาว กทม.สำเร็จการศึกษาเป็น นรต.รุ่น 44 ได้รับการไว้วางใจคุมงาน ยาเสพติด เพราะผ่านงาน ตม.,นานหลายปี จึงมีวิชาติดตัวด้านการป้องกันปราบปรามที่คลุกคลีมาตลอด อีกทั้งผ่านชีวิตรับราชการมา 6 กองบัญชาการ อาทิ สภ.ปากชม จ.เลย สน.บางรัก สตม. บก.ทล. สภ.พะวอ จ.ตาก สภ.แม่สอด จ.ตาก ศชต. สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จนเป็นรองผู้การ 2
“ผมอยู่ ตม.มา 9 ปี แต่ บช.อื่นไม่ได้อยู่นาน เหตุสมัครใจกลับมาเพราะว่า บช.น.เป็นต้นแบบครบทุกอย่าง ทั้งสืบสวน สอบสวน งานบริหาร งานจราจร กิจการพิเศษ ด้านความมั่นคง พูดได้เลยว่าครบทุกมิติ แต่จริงๆ ไม่ได้เจาะจงมา บก.น.2 คิดว่า บก.น.ไหนก็ได้ 1-9 เชื่อว่าถ้าเราผ่านไปได้ จะเป็นประสบการณ์ที่ดี ช่วยให้เห็นภาพในการจะก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน”
รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า ยาเสพติดถือเป็น วาระแห่งชาติ เป็นเรื่องที่ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายและรับนโยบายจากผู้บังคับบัญชา ถ้านับจากประสบการณ์ที่อยู่ บช.น.ตนผ่านผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด ทั้งหมด 3 คน แต่ละคนก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน เช่น โครงการบ้านสีขาว ลงชุมชนเพื่อการป้องกัน หรือการสืบสวนขยายผล ทั้งหมดถือเป็นหัวใจสำคัญของงานตำรวจ
บก.น.2 รับผิดชอบ 11 โรงพัก พื้นที่กว้างใหญ่ การแพร่ระบาดของยาเสพติด ใน กทม.จริงๆ ดูเหมือนปลายทางเดิมอาจเป็นที่พักยา แต่ตอนนี้ไปอยู่ปริมณฑลเยอะ ตามชุมชนแออัดปัจจุบันแทบไม่มีแล้ว เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้มาตรการเด็ดขาดและกดดันหนัก ที่ยังหลงเหลือมีแค่รายย่อยเท่านั้น ส่วนจุดที่เฝ้าระวังพิเศษ คือ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟ และท่าอากาศยาน
นอกเหนือจากนโยบายยาเสพติด ขณะเดียวกันเรื่อง POLICE MIND นโยบายของ ผบช.น.ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ตำรวจไม่ใช่ทำแค่หน้าที่หรือเพราะเป็นอาชีพ แต่ต้องทำด้วยใจเหมือนจิตอาสา มีจิตใจที่พร้อมบริการ จงคิดว่าผู้มาติดต่อราชการ คือเครือญาติของเรา ส่วนใหญ่เขามีความทุกข์ คนมีความสุขส่วนน้อยที่จะมาโรงพัก เช่น มีความสุขเมื่อตอนถูกหวย แต่ขนาดลงประจำวันเรื่องหวยก็ยังมีปัญหา
“ผมเป็นคนเข้ากับคนง่าย เรื่องจิตอาสาเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายไหน ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องทำงานด้วยความเสียสละ อดทน เพราะข้าราชการอย่างพวกเรา กินเงินเดือน คือภาษีราษฎร ต้องคิดว่าประชาชนคือนายเรา ไม่ใช่เราเป็นนายประชาชน และต้องทำงานตอบแทนให้คุ้มกับเงินภาษี ซึ่งยังเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน ถ้าทุกคนยึดแนวคิดนี้เป็นที่ตั้ง ทั้งเราและประชาชนจะสบายใจ”
ส่วนผลงานตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่า ภายใต้การขับเคลื่อนของ รองฯเอ้ ได้พาทีม บก.น.2 จับกุมคดียาเสพติดได้หลายราย รวมถึงรายใหญ่ ยึดของกลางทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และอื่นๆ ได้นับไม่ถ้วน ตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ จนปัจจุบันจำนวนยาเสพติดในพื้นที่ บก.น.2 ลดลงพอสมควร ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ที่น่าพอใจ โดยทีม บก.น.2 ยังคงเดินหน้าขยายผลต่อเนื่อง แม้บางเครือข่ายจะเป็นแค่ปลายแถว
รองฯระพีพงษ์ พูดถึงการทำงานว่า ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา ในสถานการณ์แต่ละคนที่เจออาจไม่เหมือนกัน เราไม่เป็นนายอาจไม่รู้ว่า ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้น ขณะเดียวกัน นายไม่เป็นเรา ก็อาจจะทำอย่างเราไม่ได้ แต่สิ่งที่จะตอบโจทย์ได้ก็คือเสียงตอบรับจากประชาชน โดยเฉพาะการเป็นหัวหน้าสถานี ตนเคยผ่านมาแล้ว ฉะนั้นการครองตน ครองคน ครองงาน คือหัวใจสำคัญของการบริหารงาน
ตลอดช่วงรับราชการที่ บก.น.2 ได้รับประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องสำคัญที่สุด คือ การถวายความปลอดภัย แด่องค์พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ รองลงมาคือการควบคุมดูแล 11 โรงพัก ยอมรับว่างานของนครบาล มีภารกิจที่หนักและครบถ้วน ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ย้ายกลับมานครบาลอีกครั้ง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ เรื่องอุดมคติตำรวจได้ทั้ง 9 ประการ พ.ต.อ.ระพีพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี