ห้วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากปีระกาสู่ปีจอ ประชาคมโลกสนุกสนานรื่นเริง ฉลองการเคลื่อนจากปีไก่เข้าสู่ปีหมาอย่างเรียบร้อย ปลอดภัย ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆเกิดขึ้น ในประเทศไทยเทศกาลปีใหม่ 2561 ถือเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่ได้เฉลิมฉลองกันอย่างเรียบง่าย ไม่มีเหตุร้ายใดๆ แผ้วพาน ราวกับเป็นสัญญาณว่า ปีจอ “หมาเชื่อง” แม้การเมืองกำลังเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารสู่รัฐบาลเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย จับสัญญาณอวยพรปีใหม่และออกแถลงการณ์ทั่วไปจากทั้งในและต่างประเทศ อาทิ จีน รัสเซีย อเมริกา อนุมานได้ว่า 2561 เป็นปีการเลือกตั้งที่ปูทางให้ผู้ที่ถืออำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ได้สืบอำนาจต่อไปแต่อาจไร้ธรรมาภิบาล
สำนักข่าวซินหัวเสนอบทบรรณาธิการว่า ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง แถลงการณ์ปีใหม่ ให้คนจีนเตรียมพร้อมรับการปฏิรูปครั้งใหญ่ที่ได้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ผู้นำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษในระดับเดียวกับนายเติ้ง เสี่ยว ผิง อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปเศรษฐกิจ นำพาประเทศจีนสู่ความทันสมัย
รัสเซียทีวีรายงานว่าในแถลงการณ์ปีใหม่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน เรียกร้องให้ชาวรัสเซียเตรียมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคมนี้ ถ้อยแถลงของนายปูตินสร้างความงุนงงสงสัยให้นักสังเกตการณ์ว่า จะเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะหลังจากเลือกตั้ง เขายังเป็นประธานาธิบดีต่อไป นายปูตินวัย 65 ปี นักการเมืองอำนาจนิยมผู้ครองอำนาจสูงสุดในสหพันธรัฐรัสเซียมาตั้งแต่พ.ศ.2542 เขาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในรัสเซียและทั่วโลก ปูตินได้ความนิยมเหนืออดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา อิทธิพลบารมีของเขาแผ่คลุมไปถึงสหรัฐฯ มีข้อครหาว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งในอเมริกา จนเป็นที่มาของชัยชนะเหนือความคาดหมายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์
การเลือกตั้งวันที่ 18 มี.ค.ที่จะถึงนี้ คาดหมายกันว่า นายปูตินจะได้รับชัยชนะถล่มทลาย เพราะผู้สมัครทั้ง 34 ราย ล้วนแต่เป็นตัวประกอบไม้ประดับ ด้านนายอเล็กเซ นาซลนี อดีตผู้นำฝ่ายค้านซึ่งเป็นคู่แข่งที่พอสมน้ำสมเนื้อกับนายปูติน แพ้ฟาวล์ตั้งแต่ต้น เมื่อคณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติลงมติเป็นเอกฉันท์ 12 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ฉีกใบสมัครของนายนาซลนีทิ้งลงตะกร้า โดยกล่าวหาว่า เขายังมีฐานะเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงอีกหลายคดี นายนาซลนีหวังพึ่งศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่พึ่งสุดท้ายแต่คงช่วยไม่ได้ เพราะแม้แต่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ประธานาธิบดีอยู่ในวาระได้ไม่เกินสองสมัย นายปูตินยังสามารถพลิกแพลงอยู่มาได้กว่า 18 ปี หลังเลือกตั้งเดือนมี.ค.ถ้าเขาอยู่ครบวาระ 4 สมัย หมายความว่าจะเป็นผู้นำสูงสุดของขั้วอำนาจที่สาม ปกครองประเทศที่มีประชากรกว่า 144 ล้านคนนาน 24 ปี
จากรัสเซียมาดูกัมพูชา สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซ็นแถลงในเทศกาลปีใหม่ “จะเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาต่ออีกสิบปี” นายฮุนเซ็นเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาตั้งแต่พ.ศ.2527 ประกาศจะอยู่อีกสิบปีหมายความว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชายาวนานถึง 43 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะทั่วโลกทำนายว่า พรรคประชาชนกัมพูชา(CPP)ของเขาจะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะพรรคกอบกู้ชาติกัมพูชาของนายเขมโสกา ซึ่งเป็นฝ่ายค้านได้ถูกศาลตัดสินยุบพรรคในความผิดข้อหาสมคบกับสหรัฐอเมริกาวางแผนล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยกัมพูชา นายเขม โสกา ถูกจำคุกระหว่างดำเนินคดีข้อหาขบถ อดีตสส. 110 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และอีกกว่า 50 คน หนีภัยไปฝรั่งเศส ขณะที่อเมริกาและอียูประณามนายฮุนเซ็นว่า ใช้ศาลเป็นเครื่องมือทำลายล้างคู่แข่งทางการเมือง ประกาศไม่รับรองการเลือกตั้งพร้อมทั้งถอนงบประมาณช่วยจัดการเลือกตั้ง ฮุนเซ็น ไม่ยี่หระ ท้าให้ถอนไปเลย “กัมพูชาเป็นประเทศอธิปไตย ผลการเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องรอการรับรองจากใคร” เขากล่าว
นายคิม โสวันนารม โฆษกคณะกรรมการเลือกตั้งกัมพูชา เปิดเผยว่า จีนกับรัสเซียเสนอตัวเข้ามาว่า จะช่วยเหลืองบประมาณจัดการเลือกตั้งทุกประการ โดยจีนสัญญาจะให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการเลือกตั้ง ได้แก่ คอมพิวเตอร์ หีบใส่บัตรเลือกตั้งและคูหาเลือกตั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา จีนให้ความช่วยเหลือมากที่สุดราว 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 358 ล้านบาท “ทั้งจีนและรัสเซียได้เสนอให้ความช่วยเหลือมาแล้วแต่ยังไม่ลงรายละเอียดงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะใช้ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” นายคิม โสวันนารมกล่าว
นายซก อีซาน โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชากล่าวว่า จีนกับรัสเซีย ยื่นมือช่วยเหลือกัมพูชาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ “ซึ่งต่างกับสหรัฐและอียู ที่ไม่เคยเห็นคุณค่าประชาธิปไตยของชาวกัมพูชา อียูและอเมริกาให้ความช่วยเหลือพร้อมกับเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเท่านั้น” เป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้งผู้นำรัสเซียและกัมพูชา ที่อยู่ในอำนาจมายาวนานและมั่นใจว่า จะครองอำนาจต่อไป ล้วนเป็นบุคคลที่ไม่ยี่หระและท้าทายอำนาจยุโรปและสหรัฐอเมริกา
มองปรากฏการณ์การเมืองในรัสเซียและกัมพูชา ถึงเวลาที่จะพิจารณาการเมืองในประเทศไทยซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดในเทศกาลปีใหม่ว่า “ปีนี้จะมีการเลือกตั้งที่หวังได้รัฐบาลธรรมาภิบาล มีคนรุ่นใหม่มาร่วมรับผิดชอบบริหารบ้านเมือง”.... ถ้าว่ากันตามเงื่อนไขกฎหมายพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีโอกาสเป็นรัฐบาลธรรมาภิบาลได้ตลอดปีหมา แต่หลังเลือกตั้งไปแล้ว คนรุ่นใหม่และธรรมาภิบาลไม่มีวันได้กลับมา
พล.อ.ประยุทธ์มาจากการยึดอำนาจที่ความนิยมของประชาชนไม่เสื่อมคลายและคาดหมายกันว่าจะสืบทอดอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ปรากฏการณ์สุพรรณบุรี นครราชสีมา สุโขทัย และนครปฐม ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าผู้ที่จะร่วมรัฐบาลต่อไปไม่ใช่คนรุ่นใหม่ไม่ใช่ผู้มีธรรมาภิบาล
คำสั่ง คสช. ให้พรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ หาสมาชิกได้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ส่วนพรรคเก่าให้สมาชิกยืนยันความเป็นสมาชิกตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน...ถูกมองเป็นแผนสลายสมาชิกพรรคเก่าเพื่อต้อนคนให้เข้ามาอยู่พรรคใหม่ที่เตรียมไว้หนุนลุงตู่ แต่ถ้าพิจารณาจากข้อเท็จจริง จะพบว่า คำสั่ง คสช. ไม่กระทบกระเทือนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองเลย ในทางตรงกันข้ามกลับเป็นผลดีที่จะมีคนอุดมการณ์เดียวกันที่แท้จริงอยู่ร่วมงานต่อไป ปชป.มีสมาชิกไม่ถึง 3 ล้านคน แต่การเลือกตั้งทุกครั้ง ปชป.ได้ประมาณ 11 ล้านเสียง
พรรคเพื่อไทยอ้างว่ามีสมาชิก 15 ล้านคน แต่เมื่อครั้งลงประชามติรัฐธรรมนูญ เพื่อไทยรณรงค์คัดค้านเต็มกำลัง มีผู้ลงคะแนนไม่รับรัฐธรรมนูญเพียง 10.03 ล้านเสียง ทั้งนี้ได้นับรวมคะแนนคัดค้านจาก ปชป.บางส่วน จากนักวิชาการ เอ็นจีโอ ฯลฯ เข้าไปด้วย สรุปคือผู้ที่สนับสนุนเพื่อไทยจริงๆ ไม่เกิน 5 ล้านคน แสดงว่าคนจำนวนมากไม่ประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรค ที่เป็นสมาชิกพรรคส่วนใหญ่เป็นเฉพาะกิจเฉพาะกาล ที่ถูกชักจูงโดยหัวคะแนนและปัจจัยในการเลือกตั้งครั้งใดครั้งหนึ่ง ที่เลวร้ายกว่านั้น บางพรรคมีข้อครหาว่า เอารายชื่อสมาชิกมาจากผู้ลงทะเบียนซื้อโทรศัพท์โดยที่เจ้าตัวไม่รู้
พรรคไทยรักไทย(ทรท.)ก่อตั้งครั้งแรก สมาชิกส่วนมากแปรพักตร์มาจากสส.พรรคความหวังใหม่ พรรคชาติไทย พรรคพลังธรรม ฯลฯ ทรท.ถูกยุบเปลี่ยนเป็นพรรคพลังประชาชน... พรรคพลังประชาชนถูกยุบเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย ในระหว่างการเปลี่ยนชื่อพรรค นักการเมืองย้ายพรรคกันไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แยกไปตั้งพรรคใหม่ ยุบพรรคและกลับมาเป็นสมาชิกใหม่ หลายครั้งหลายครา แล้วจะมีเวลาไหนมาหาสมาชิกได้ถึง 15 ล้านคน
คสช.ออกคำสั่งให้สมาชิกพรรคไปแสดงตนเพื่อจัดระเบียบใหม่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองอย่างแท้จริง ถ้าพิจารณาด้วยความเป็นจริงปชป.ที่มีประชาชนสนับสนุนประมาณ 11 ล้านเสียง ก็ยังอยู่เหมือนเดิม อาจได้เพิ่มจากคนรุ่นใหม่ ถ้าไม่ปากพาจน ทำให้คนเบื่อหน่ายเสียก่อน ส่วนพรรคเพื่อไทย...แก้วกองกำลังแตกสลาย...แก้วมวลชน ไม่ติดคุกก็ตาย...แก้วเจ้าของพรรคอยู่ในภาวะหนีญญ่ายพ่ายจะแจ “เพื่อไทย” เผชิญปรากฏการณ์ฝนตกห่าใหญ่ ขี้หมูไหลไปสุพรรณบุรี บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชลบุรี นครปฐม ฯลฯ ลุงตู่ไม่ตั้งพรรคการเมือง รอให้ฝนตกห่าใหญ่ก็เป็นนายกฯได้สบายๆ แต่ไม่มีคนรุ่นใหม่ร่วมบริหาร รัฐบาลธรรมาภิบาลจึงยังห่างไกล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี