พักนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วันๆ จึงมีแต่ข่าวคราวการทำนายทายทักของหมอดู และทำนายทายทักกันเป็นเรื่องราวใหญ่โตว่า นายกฯตู่ดวงแตก จะต้องมีอันประสบชะตากรรมต่างๆ กัน ตั้งแต่ตกจากเก้าอี้ หรือหนีไปต่างประเทศ หรือมีอันเป็นไปด้วยประการต่างๆ
แล้วคนบางพวกก็นำไปเผยแพร่กันเป็นกิจกรรมใหญ่เป็นกิจกรรมหลัก ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าเพื่อให้สาแก่ใจ หรือสะใจ จากความไม่ค่อยพอใจหรือไม่ชอบใจหรือความเกลียดชัง
ซึ่งมีมาด้วยประการต่างๆ อันเป็นเรื่องที่ต้องใคร่ครวญหาสาเหตุความเป็นมาให้จงดี
เพราะการผสมโรงทั้งตัวตั้งในการทำนายทายทักและตัวขยายผลในการเผยแพร่และกระทำการแพร่หลายซึ่งคำทำนายทายทักทำนองนั้น จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และการกล่าวขวัญกันขึ้นในแทบทุกวงการ จนกระทั่งกลบกระแสหวยกันไปแล้ว และบ้าถึงขนาดพนันกันว่านายกฯตู่จะอยู่จะไปถึงวันไหน
ความจริงก็เป็นไปตามธรรมชาติและอัชฌาสัยของคนไทยเรา ที่เป็นไปตามคำพังเพยที่ว่ามาแต่โบราณว่า “เจ๊กตื่นไฟ ไทยตื่นข่าว ลาวตื่นยศ” และยิ่งเป็นข่าวแบบนี้ก็ยิ่งตื่นข่าวกันใหญ่ ซึ่งเรื่องทำนองนี้เมื่อครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็เคยมีขึ้นครั้งหนึ่งหรือสองครั้ง จนเป็นเหตุให้ทรงมีพระราชโองการและประกาศในราชกิจจานุเบกษาห้ามเชื่อถือการปล่อยข่าวโคมลอยมาแล้ว
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนี้สักครั้งหนึ่ง
ก็ต้องบอกว่าเหตุผลทางโหราศาสตร์หรือพยากรณ์ศาสตร์ที่โหรานุโหรทั้งหลายนำมาใช้อ้างอิงนั้น ก็เป็นเรื่องของการโคจรดวงดาวไม่กี่ดวง คือดาวมฤตยูที่จรอยู่ในราศีเมษ ดาวพฤหัสซึ่งจรอยู่ในราศีตุลย์ ดาวพระเสาร์ซึ่งจรอยู่ในราศีธนูและพระราหูซึ่งจรอยู่ในราศีกรกฎ ดวงดาวเหล่านี้แหละที่ใช้เป็นหลักเป็นฐานในการพยากรณ์
เว้นแต่บางพวกไม่ได้อาศัยหลักวิชาพยากรณ์ แต่กลับอ้างการทรงเจ้าเข้าผี ซึ่งมีอยู่แพร่หลายในบ้านเมืองของเราแม้ในยุค 4.0 นี้
ก็ต้องบอกให้รู้โดยทั่วกันว่าการทำนายทายทักส่วนใหญ่ดังกล่าวนั้นห่างไกลออกไปจากหลักวิชามาก และบางรายก็ออกอาการมั่วจนเละตุ้มเป๊ะ ซึ่งจักพรรณนาให้เห็นความมั่วและเละตุ้มเป๊ะไปโดยลำดับ
ที่อ้างว่านายกฯตู่ดวงแตกเพราะดาวบาปเคราะห์จร โดยเฉพาะคือดาวพระราหูจรมาเล็งลัคนากำเนิดของนายกฯตู่นั้น ประการนี้ต้องกล่าวว่าเป็นเรื่องเหลวไหลและไร้หลักวิชา เพราะเรื่องของดวงแตกไม่ใช่เรื่องที่จะพูดจาส่งเดชได้
การที่จะเรียกว่าดวงแตกนั้นจะต้องเป็นเรื่องของพื้นดวงเดิมเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของดวงจร คือเรื่องที่ดวงดาวโคจรมาในปัจจุบัน และแม้ในพื้นดวงกำเนิดก็มีกฎเกณฑ์เฉพาะที่แน่นอน มิใช่เอะอะว่าบาปเคราะห์เล็งลัคนาแล้วจะต้องเป็นดวงแตกเสมอไป
ที่วางเกณฑ์เป็นดวงแตกจะต้องประกอบด้วยหลักข้อแรกคือ ลัคนากำเนิดอยู่ในราศีทวาร คือราศีเมษ ราศีกรกฎ ราศีตุลย์ และราศีมังกร ซึ่งเป็นราศีต้นธาตุ และดาวพระเคราะห์ที่จะเล็งลัคน์นั้นต้องเป็นบาปเคราะห์แท้ ไม่ใช่ดาวพระเคราะห์ที่เป็นเลขคี่แล้วจะเป็นบาปเคราะห์เสมอไป สรุปก็คือ พระอาทิตย์ พระอังคาร พระพฤหัส ซึ่งมีสัญลักษณ์เลข 1, 3 และ 5 แม้เป็นเลขคี่ก็ไม่ถือเป็นบาปเคราะห์ จึงคงเหลือเพียงสองดวงเท่านั้น ดวงหนึ่งคือพระเสาร์และอีกดวงหนึ่งแม้เป็นสัญลักษณ์เป็นเลขคู่คือเลข 8 ก็ถือเป็นบาปเคราะห์
ดังนั้นแม้ดาวพระราหูจะจรมาเล็งลัคนานายกฯตู่ ซึ่งว่ากันว่าอยู่ราศีมังกร จึงไม่เป็นดวงแตก และการที่พระราหูเล็งลัคน์ก็มิได้ร้ายเสมอไป บางทีก็ให้คุณอนันต์ ดังบทพยากรณ์ที่ว่า
“เมื่อมิตรก็ชอบชื่น บ่มีโทษแถลงทัณฑ์
ปางเป็นศัตรูสรร- พอุบาทว์อุบัติเข็ญ”
ก็แลพระราหูนั้นเป็นมิตรกับพระเสาร์เจ้าเรือนลัคนาลุงตู่ แล้วจะเป็นดวงแตกดวงตกได้อย่างไร นี่ว่าไปตามหลักพยากรณ์ที่อ้างอิงได้จากคัมภีร์จักรทีปนีจรของพระอุตตมะรามเถร
ส่วนดาวพระเสาร์ซึ่งโคจรเข้าราศีธนูนั้น เป็นเรือนสุภะของดวงเมือง เป็นปูมแห่งพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระบารมีแผ่ไพศาล ดาวพระเสาร์นั้นจะร้ายกับใครอื่นก็ร้ายไป แต่จะไม่ร้ายกับดาวพฤหัสหรือในเรือนพฤหัส เพราะพระเสาร์นั้นคือสัญลักษณ์ของอาณาประชาราษฎร เมื่อจรมาในราศีพระมหากษัตริย์ คำพยากรณ์มีได้อย่างเดียวเท่านั้นคือทวยราษฎร์สมานฉันท์ เป็นนิกรชนสโมสร สามัคคีกันถวายความจงรักภักดี อันสอดคล้องกับคำพยากรณ์ในการวางหลักเมืองที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคศิวิไลซ์
ส่วนดาวพฤหัสนั้นโคจรได้องค์เกณฑ์อันเป็นคุณอย่างยิ่งแก่ดวงเมือง ดาวพฤหัสนี้เป็นดาวประจำพระองค์พระมหากษัตริย์ เทียบได้กับดาวดวงที่สองของดาวส่วนหัวของดาวจระเข้ ซึ่งปรากฏในฟากฟ้านภากาศ เรื่องราวที่ดีงามและพระเกียรติคุณตลอดจนพระบารมีของพระมหากษัตริย์จะปรากฏเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวัน
แม้ในภายหน้าเมื่อดาวพฤหัสโคจรเข้าราศีพิจิก ที่ว่ากันว่าเป็นมรณะแก่ดวงเมืองนั้น ก็คงลืมบทยกเว้นคำพยากรณ์ที่ตั้งไว้แต่บทแรกของคัมภีร์พยากรณ์ที่ว่า “พักร เสริดและมนต์มี วิ สม ห้าประการกล” ดาวพฤหัส ณ ตำแหน่งนี้ จรอยู่ในกีตะราศี เป็นข้อยกเว้นในทางตรงกันข้าม ดังนั้นบรมครูโหรแต่ครั้งวางดวงเมืองจึงปกป้องคุ้มครองดาวพฤหัสไว้ไม่ให้มีวันเสียหาย จึงวางเรือนมรณะดวงเมืองไว้ในกีตะราศี เผื่อว่าพระเคราะห์ใดจะให้โทษก็จะเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติในทางตรงกันข้ามเป็นให้คุณดังนี้
ดังนั้นจึงควรที่ชนทั้งหลายได้พึงตั้งสติทำความเข้าใจ ทำความรู้ ให้บังเกิดแก่ตนตามควรแก่สติปัญญาและวุฒิของตนๆ เถิด เกิดมาทั้งทีอย่าให้ใครมาหลอกมาลวงหรือมาชักนำไปในทางที่ผิด ดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ในกาลามสูตรนั่นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี