พรรคเพื่อแม้วพยายามเคลื่อนไหวสร้างข่าวแบบรายวันเพื่อปลุกขวัญสมาชิกไม่ให้แพแตกพร้อมทั้งสร้างความหวังให้จับมือกันให้แน่นเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งการเคลื่อนไหวล่าสุดด้วยการเดินสายอวยพรปีใหม่กันไป-มาระหว่างแกนนำและอดีตสส. เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนว่าพรรคเพื่อแม้ว ทั้งๆ ที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศ ภายใต้สถานการณ์ของพรรคที่เหมือนเรือไร้หางเสือจากการขาดผู้นำที่ชัดเจน
ด้วยสภาพที่ขาดผู้นำตัวจริงทำให้มีข่าวว่าแกนนำและอดีตสส.หลายต่อหลายคนบินไปพบนายใหญ่ในต่างแดนเพื่อรับคำสั่ง และหยั่งท่าทีว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแม้วคนใหม่เพราะใกล้ศึกเลือกตั้งเข้าไปเต็มแก่แล้ว ซึ่งแม้ที่ผ่านมาแม้จะมีข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้ากลุ่ม กทม. จะมาแรง แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนจากนายใหญ่
ความเคลื่อนไหวของบรรดาไพร่พลพรรคเพื่อแม้วช่วงนี้จึงเป็นการปลุกขวัญให้กำลังใจกันไปมาตามมีตามเกิด โดยมีการยกขบวนเดินสายไปอวยพรปีใหม่กันไปมาของคนกันเอง อันประกอบด้วยพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นแค่หุ่นเชิดชั่วคราว นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรค แล้วก็เดินสายไปอวยพร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ “จิ๋วหวานเจี๊ยบ” และ นายเสนาะ เทียนทอง อดีตเจ้าพ่อวังน้ำเย็น ซึ่งทั้ง “บิ๊กจิ๋ว” และ “ผู้เฒ่าเหนาะ” ก็พูดเรื่อยเปื่อยตามประสาคนวัยใกล้ฝั่ง ขณะเดียวกันสส.กทม.อีกกลุ่มหนึ่งก็เดินทางไปพบลูกพี่คือ คุณหญิงสุดารัตน์ ปิดห้องหารือลับโดยไม่ยอมให้นักข่าวเข้าสังเกตการณ์
ในการอวยพรปีใหม่ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อแม้ว พล.ต.ท.วิโรจน์ พยายามปลุกขวัญบรรดาแกนนำ อดีตสส.ว่า อย่าไปเชื่อข่าวที่ว่าจะมีอดีตสส.พรรคเพื่อแม้วตีจากย้ายไปอยู่พรรคอื่น และขอให้มั่นใจเตรียมพร้อมสำหรับสู้ศึกเลือกตั้งที่เชื่อว่าจะมีขึ้นในไม่ช้า
ไฮไลท์ความเคลื่อนไหวที่สำคัญอยู่ที่กลุ่มสส.อีสานนำโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ฉายา “หัวเขียง” ซึ่งรับผิดชอบเป็นประธานสายอีสานพรรคเพื่อแม้ว ประกาศยืนยันว่า อดีตสส.อีสานพรรรคเพื่อแม้วกว่า 100 คน จะไม่หนีไปอยู่พรรคไหนแน่นอน ซึ่งนี่คือคำมั่นสัญญา พร้อมทั้งอ่านบทกลอนใจความว่า “ชีวิตนี้ให้ใครไม่ได้แล้ว จะผ่องแผ้วมืดมิดไม่คิดหนี ขอมอบให้เพื่อไทยทั้งชีวี จะสิ้นลมตรงนี้ก็ยอมตาย”
นายประยุทธ์ นั้นเป็นนักการเมืองอาวุโสเคยเป็นอดีตสส.ครั้งแรกสังกัดพรรคกิจสังคม ยุคม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อราว 40 ปีที่แล้ว ซึ่งช่วงนั้น นายทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่พรรคเพื่อแม้วยังไม่แจ้งเกิดเป็นแค่นายตำรวจติดตาม นายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตสส.เชียงใหม่ และอดีตรัฐมนตรีพรรคกิจสังคม ทำให้รู้จักมักคุ้นบรรดาอดีตสส.พรรคกิจสังคม ซึ่งรวมทั้ง นายประยุทธ์ นับตั้งแต่นั้น
หลัง นายทักษิณ ตั้งพรรคไทยรักไทย จึงชวนอดีตสส.หัวเขียงมาอยู่ด้วยโดยไว้วางใจ นายประยุทธ์ เป็นอย่างมากถึงขนาดมอบความไว้วางใจให้เป็นขุนพลดูแลอดีตสส.ภาคอีสาน แต่ที่สำคัญที่สุดคือในเหตุการณ์ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ด้วยการบงการของ นายทักษิณ พยายามหักดิบผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้า แต่มีเป้าหมายแท้จริงหวังลบล้างโทษความผิดให้กับ นายทักษิณ เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุก จนเป็นชนวนให้มวลมหาประชาชนหลายล้านคนออกมาแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่ง นายประยุทธ์ หัวเขียงผู้นี้นี่แหละที่ นายทักษิณ สั่งให้ยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยแล้วนำร่างบินด่วนไปพบ นายทักษิณ ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อตรวจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะหักดิบผ่านร่างกฎหมายตอนตีสี่
เพราะฉะนั้นความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแม้วครั้งล่าสุดแทบจะเรียกได้ว่าล้วนเป็นเกมและคนหน้าเดิมๆ ที่เคยเป็นต้นเหตุวิกฤติชาติและมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์สร้างความย่อยยับให้ชาติบ้านเมือง อาทิ อดีตแกนนำเสื้อแดงซึ่งเป็นอดีตสส.พรรคเพื่อแม้วที่ร่วมในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองและเกี่ยวข้องกับขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูง หรือโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารสร้างความฉิบหายให้ชาติบ้านเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท หรือการพยายามหักดิบผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย
ที่สำคัญพรรคเพื่อแม้วยังคงดำรงความเป็นบริษัทการเมืองหรือพรรคธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเป็นต้นเหตุวิกฤติชาติ ที่อำนาจสิทธิ์ขาดขึ้นอยู่กับคนเพียงคนเดียวหรือตระกูลเดียวเหมือนเดิม ซ้ำร้ายยังคิดวางแผนที่จะกลับมายึดครองประเทศฉุดดึงชาติบ้านเมืองให้ถอยหลังกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์แบบเดิมๆ ทั้งๆ ที่ประเทศกำลังจะเดินหน้าไปสู่ยุคปฏิรูปขจัดการเมืองน้ำเน่าอันเลวร้ายที่เป็นตัวถ่วงการพัฒนาและบ่อนทำลายประเทศให้หมดสิ้นไป
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี