เห็นนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาส่งเสียงโหวกเหวก
อ้างว่า คณะอนุกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานอนุกรรมการ ได้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอดีต สส. 40 คน ที่เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อปี 2556 เสร็จแล้ว และจะชี้มูลความผิด ก่อนนำไปสู่การศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามลำดับขั้นตอนต่อไป
นายวรชัย อ้างว่า พวกตนทำหน้าที่ของสส.ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หาก ป.ป.ช.ก้าวล่วงการทำหน้าที่ดังกล่าว เท่ากับเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นกัน
“ถ้า ป.ป.ช.ออกมาชี้ถูกชี้ผิดในสถานการณ์ที่จะมีการเลือกตั้ง เห็นได้ว่ามีการใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามและดึงเสียงหาพวกดูดดึงอดีต สส.ไปเป็นเข้ากับพวกตนเอง เพื่อสืบทอดอำนาจ” นายวรชัย กล่าว
1. โดยตรรกะนี้ ป.ป.ช.จะไม่สามารถชี้มูลความผิดนักการเมืองพรรคเพื่อไทยได้เลย แม้ว่าจะมีหลักฐานการกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ชัดเจนขนาดไหนก็ตาม เพราะจะถูกอ้างทันทีว่า เป็นการกลั่นแกล้งการเมือง หวังทำลายฐาน สส.เพื่อไทย
ที่สำคัญ เป็นข้ออ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นข้อกล่าวหาในสำนวนเลยแม้แต่น้อย
ถ้านายวรชัยและพวก ผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเมื่อปี 2556 เป็นการทำหน้าที่ สส.อย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญจริงๆ ก็ไม่มีอะไรจะต้องกังวลเลยมิใช่หรือ
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
แต่เอาจริงๆ แล้ว การทำหน้าที่นั้นถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือไม่? มีเจตนาหวังผลประโยชน์ทางการเมืองอื่นใดของตนเองและพรรคพวกแอบแฝงไปกับการกระทำหรือไม่?
2. ความจริง เรื่องนี้ ร้องเรียนอยู่ ตั้งแต่สมัย ป.ป.ช.ชุดที่แล้ว
ล่าสุด พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ปัจจุบัน ยืนยันว่า ยังไม่ทราบความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องยังอยู่ในชั้นของคณะอนุกรรมการไต่สวน แต่คาดว่า ความคืบหน้าคงยังไม่ถึงขั้นใกล้จะสรุปสำนวนการไต่สวนเร็วๆ นี้ คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะคณะอนุกรรมการไต่สวนยังไม่แจ้งต่อที่ประชุมป.ป.ช.ว่า คดีดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม จะเร่งสอบถามความคืบหน้าจากคณะอนุกรรมการไต่สวนว่า สำนวนคดีไปถึงไหนแล้ว
พล.ต.อ.วัชรพล ยืนยันว่า ป.ป.ช.ดำเนินการทุกอย่างตามข้อมูลพยานหลักฐาน ไม่ได้มีแผนล้างบางฝ่ายใด เพื่อสืบทอดอำนาจให้ใคร
3. กรณีนี้ สืบเนื่องจากนายบวร ยสินทร ได้ยื่นกล่าวหา นายวรชัย เหมะ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 40 คน ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... เมื่อปี 2556
จากนั้น นำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติมเป็น “ล้างผิดสุดซอย”
เรียกกันว่า กฎหมายลักหลับสภา ลักหลับประชาชน
ตระบัดสัตย์ เพราะเคยประกาศว่าจะไม่ล้างผิดคนโกง คนฆ่า คนเผา
ข้อกล่าวหาที่ไปยื่นสอบสวนเอาผิด คือ เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่?
รายชื่ออดีต สส.เพื่อไทย จำนวน 40 ราย ที่ถูกไต่สวนในคดีดังกล่าว ได้แก่ 1.นายวรชัย เหมะ 2.นายบุญแก้ว สมวงศ์ 3.นายถาวร ตรีรัตน์ณรงค์ 4.น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ 5.นายสมศักดิ์ ใจแคล้ว 6.นายบุญชู นิลถนอม 7.นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร 8.นางเอมอร สินธุไพร 9.นายสมคิด เชื้อคง 10.นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ 11.นายพหล วรปัญญา 12.นางพัชรินทร์ มั่นปาน 13.นางสมหญิง บัวบุตร 14.นายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ 15.น.ส.มาลินี อินฉัตร 16.นางชมพู จันทาทอง 17.นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข 18.นางอนุรักษ์ บุญศล 19.น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร 20.นายพายัพ ปั้นเกตุ 21.นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ 22.นายสงวน พงษ์มณี 23.นายสุนัย จุลพงศธร 24.นางเทียบจุฑา ขาวขำ 25.นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย 26.นายสมโภช สายเทพ 27.นายปวีณ แซ่จึง 28.นายอนุสรณ์ ปั้นทอง 29.นายชูศักดิ์ แอกทอง 30.นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ 31.นายรส มะลิผล 32.นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย 33.นายประสาท ตันประเสริฐ 34.นายชินวัฒน์ หาบุญพาด 35.นายก่อแก้ว พิกุลทอง 36.นายพิสิษฐ์ สันตพันธุ์ 37.นายธวัชชัย สุทธิบงกช 38.นายนิยม เวชกามา 39.นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง 40.นายโกศล ปัทมะ
4. กรณีดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่สภาในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นเงื่อนปมสำคัญที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองบานปลายต่อมา
เป็นกรณีที่เปลือยสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อย่างล่อนจ้อน ว่าทำเพื่อใคร รับใช้ใคร
40 สส.เข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา ก่อนที่ประชุมที่ยึดกุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จโดยกลุ่มการเมืองเดียวกัน จะผ่านร่างดังกล่าวในวาระ 2 และวาระ 3 เป็นเนื้อหาล้างผิดคนฆ่า-คนโกง-คนเผา ในช่วงเวลากลางดึก ประมาณตีสี่
ท่ามกลางฝ่ายค้านที่ทักท้วงอื้ออึง และไม่แยแสต่อการประท้วงของประชาชนนอกสภา
กระบวนการนั้น เป็นการตรากฎหมายโดยมีเจตนาเพื่อเอื้อให้บุคคลผู้ทุจริตทั้งภาครัฐและภาคเอกชนพ้นจากความผิด เหมารวม
ผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญาโดยเจตนาให้พ้นผิด จะเข้าข่ายเป็นการสมคบกันในการเสนอร่าง พ.ร.บ. เพื่อผ่านกฎหมายที่มีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อกระบวนการยุติธรรม การใช้อิทธิพลเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์อันมิชอบ และการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยกลุ่มบุคคลที่จะได้ผลประโยชน์จากร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจรัฐ และผู้ถูกกล่าวหากับพวกที่เสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว หรือไม่?
ยิ่งกว่านั้น ในที่สุด มันก็มีขบวนการกลายร่างเป็นการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง
หลังจาก ทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณมาจากต่างแดน
คณะกรรมาธิการฯ ที่มีนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานกรรมาธิการ จัดการต่อเติมเนื้อหา
แต่หลังจากนั้น สภาที่มี สส.เพื่อไทย กลุ่มที่นำเสนอร่างนั้นด้วย ก็ยกมือสนับสนุนสลอน
เดินเกมแบบนี้ คิดว่า จะรอดพ้นได้หรือไม่?
อันที่จริง จากกรณีผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย รวมคนฆ่า-คนเผา-คนโกง หวังให้ได้รับการล้างผิดหมดนั้น ควรจะมีใครต้องถูกดำเนินคดีแบบสุดซอยด้วยอีกบ้างไหม?
ใครสำนึกผิด ให้การซัดทอด “ตัวการใหญ่” น่าจะได้กันไว้เป็นพยาน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี