ในปี 2561 นี้ สิงคโปร์เข้าดำรงตำแหน่งประธานประชาคมอาเซียน ซึ่งประชาคมโลกและประชาคมอาเซียนก็เฝ้ารอดูว่า สิงคโปร์จะนำพาประชาคมอาเซียนไปตลอดปี 2561 อย่างไร มีอะไรบ้างที่สิงคโปร์จะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
แล้วชาวโลกและชาวอาเซียนก็ไม่ผิดหวัง เพราะนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีก็ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ทันทีที่ได้รับมอบตำแหน่งประธานต่อจากฟิลิปปินส์ ซึ่งก็สะท้อนว่า สิงคโปร์ได้มีการเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว ตามสไตล์คนสิงคโปร์ว่า ทำอะไรทำจริง และทำอย่างมุ่งมั่นจริงจัง
นายลี เซียนลุง ได้ให้แนวทางและทิศทางในการนำพาประชาคมอาเซียน โดยได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับเรื่องต่างๆ ดังนี้
- การยืนหยัดต่อสู้ พึ่งพาตนเองอย่างไม่ย่นย่อ ท้อถอย (Resilience) และการริเริ่มประดิษฐ์คิดค้น (Innovation)
- การเป็นองค์กรร่วมมือภูมิภาคที่ยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมของกฎหมาย (Rule-based)
- การเสริมสร้างทักษะและการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าจากเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ หรือดิจิทัล
- การให้ประชาคมอาเซียนคงความเป็นศูนย์กลาง หรือแกนกลางในการขับเคลื่อนความเป็นไปและการเผชิญกับความท้าทายและเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าต่างๆ โดยการกระชับการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน
- การกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและจีน
- การคุ้มครองดูแลแรงงานข้ามชาติ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อการโอนเงินรายได้
- การเร่งจัดทำข้อปฏิบัติ ว่าด้วยทะเลจีนตอนใต้ (Code of Conduct) ให้แล้วเสร็จ
- การเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยของระบบการสื่อสารสมัยใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อต่างๆ และการทำมาค้าขาย (Cyber Security)
หลังจากนั้น ก็ได้มีการอธิบายขยายความแนวคิดและทิศทางของ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม โดยนายวิเวียน บาลากริชนันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ อาทิ
- การบริการส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม และกลาง
- การส่งเสริมการเชื่อมโยงระดับประชาชนทางด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการเสริมสร้างเครือข่ายเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities)
- การเสริมสร้างความเข้าใจและการยอมรับหลักการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน (Interdependency)โดยจะเร่งการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยการเป็นมิตรแท้สมบูรณ์ในระดับภูมิภาค (Regional ComprehensiveEconomic Partnership) ประกอบด้วย 10 ประเทศอาเซียนกับประเทศอื่นๆ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
- การเร่งจัดทำระบบศุลกากรแบบจุดเดียวจบ (Simple Window) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ดิจิทัลเป็นเครื่องมือกลไก
- การจัดทำระบบการรับรองสินค้าระดับอาเซียน (Asean Self-certification System)
- การส่งเสริมสังคมเคารพกฎหมาย โดยการเร่งการเจรจาจัดทำข้อตกลงระดับอาเซียน ว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สามารถสังเกตได้ว่า เรื่องส่วนใหญ่นั้น สิงคโปร์เน้นไปในทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งก็คงจะเป็นการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีสื่อสารใหม่ๆ เป็นสำคัญ ซึ่งก็หมายถึงการที่จะต้องเตรียมผู้คนให้พร้อมในองค์ความรู้ ทักษะแต่ประเด็นสำคัญที่ดูจะขาดหายไปก็คือ เรื่องบทบาทของอาเซียนร่วมกันในเวทีระหว่างประเทศ ในการเสริมสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญก้าวหน้า
อีกประเด็นหนึ่งคือ การมีความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและจีนนั้น สิงคโปร์มิได้มีการกล่าวถึงความจำเป็นที่จะต้องมีท่าทีร่วมกันเพราะเมื่อขาดท่าทีร่วมกันนี้ แต่ละประเทศอาเซียนก็ต่างดำเนินความสัมพันธ์แบบทวิภาคี และในอีกมุมหนึ่งเมื่อไม่มีท่าทีร่วมกัน ก็เปิดโอกาส ช่วยให้ประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งสอง โดยเฉพาะจีน เข้ามาเจาะความเป็นปึกแผ่นของอาเซียน และทำให้อาเซียนอ่อนแอลง
ส่วนเรื่องภายในของอาเซียนที่น่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงจังอีกเรื่อง ก็คือการแก้ปัญหาและการวางระบบดูแลแรงงานต่างด้าว หรือให้อาเซียนมีแผนและระบบการบริหารจัดการร่วมกันอย่างจริงจัง
ทั้งนี้การจะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องมีการตัดสินใจร่วมกันในระดับการเมืองก่อน ซึ่งก็หวังว่าสิงคโปร์ในฐานะประธานอาเซียน จะสามารถโน้มน้าวผู้นำอื่น 9 ประเทศ ให้ไปในทิศทางเดียวกัน แล้วร่วมแรงร่วมใจกันอย่างแข็งขันในการลงมือทำให้วิสัยทัศน์เหล่านั้นกลายมาเป็นเรื่องจริง ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวอาเซียนทั้ง 600 กว่าล้านคนนั่นเอง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี