ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จ.แม่ฮ่องสอนมีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แจกเอกสารต่อที่ประชุมครม.โดยตอนหนึ่งของเอกสารสะท้อนนัยสำคัญทางการเมืองระบุว่า มีผู้ไม่หวังดีเจตนาไม่บริสุทธิ์ยังคงพยายามอยู่จนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้ก็คือ สื่อและนักการเมืองที่มีปัญหาพยายามจะล้มรัฐบาลและคสช.ให้ได้ในช่วงนี้ กฎหมายคำสั่งทุกฉบับจะแก้ไขให้กลับไปที่เดิมและมีข้าราชการที่ไม่สุจริตร่วมมือ
การที่นายกฯบิ๊กตู่ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับขบวนการจ้องล้มรัฐบาลต่อที่ประชุมครม.เชื่อว่าคงได้รับรายงานด้านการข่าวบางประการถึงขบวนการที่ออกมาเคลื่อนไหวโดยมีเป้าหมายแอบแฝงในช่วงนี้
พูดถึงเรื่องความพยายามที่จะให้แก้ไขยกเลิกคำสั่งของคสช. ทำให้นึกถึงกลุ่มหน้าเดิมๆ สายเสื้อแดงที่อ้างว่าเป็นเครือข่ายภาคประชาชน 24 เครือข่ายนำโดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเตอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอร์) ออกมาประกาศขึงขังว่าจะล่ารายชื่อประชาชนเพื่อให้ยกเลิกกฎหมายและคำสั่งคสช. 35 ฉบับ ที่อ้างว่าลิดรอนละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อ แต่กลับบอกว่าจะไม่ยื่นรายชื่อประชาชนให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อแก้กฎหมาย โดยจะรอยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า นั่นเท่ากับเผยตัวตนว่าที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้หวังผลที่จะยกเลิกหรือแก้คำสั่งคสช.จริง แต่ส่อเจตนาตีรวนป่วนเมือง หวังสร้างสถานการณ์สุมไฟเพาะเชื้อสอดรับกับขบวนการอีกหลายกลุ่มที่คาดว่าจะออกมารุมขย้ำอำนาจรัฐเป็นระลอกแบบแยกกันเดินร่วมกันตีจากนี้เป็นต้นไป
ขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคสช.อีกขบวนการหนึ่งซึ่งมีความสำคัญมากก็คือ การทำสงครามไซเบอร์ด้วยการแพร่ข่าวบิดเบือนทางโซเชียลมีเดีย ตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้ ก็คือมีการปล่อยข่าวเท็จอ้างว่า กระเป๋าถือที่รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯบิ๊กตู่ เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมหรูราคาแพงของต่างประเทศยี่ห้อเดียวกับที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ถือโชว์กลางกรุงลอนดอนก่อนหน้านี้พร้อมกับข้อความโจมตีถึงความไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงคือกระเป๋าถือของรศ.นราพร เป็นสินค้าของโครงการศิลปาชีพ ที่สำคัญผู้ร่วมแชร์ข้อมูลปล่อยข่าวบิดเบือนดังกล่าวทางโซเชียลมีเดียรวมถึง ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ แกนนำนักวิชาการสายเสื้อแดงคนสำคัญ ซึ่งล่าสุดคสช.ได้ดำเนินคดีกับ ศ.ดร.ชาญวิทย์ แล้วเพราะนอกจากมีเจตนาเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จยังส่อเจตนาที่จะบ่อนทำลายนายกฯบิ๊กตู่ และอำนาจรัฐ
ขบวนการที่ใช้วิธีการสกปรกแพร่ข่าวบิดเบือนเป็นขบวนการอันตรายเพราะหากบิดเบือนใส่ร้ายบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐได้ย่อมสามารถทำสิ่งชั่วร้ายได้สารพัด
สำหรับพรรคเพื่อแม้วที่ออกมาเคลื่อนไหวดับเครื่องชนอำนาจรัฐคสช.ในทุกเรื่องทุกประเด็นนั้นไม่มีอะไรน่าแปลกใจเพราะเป็นหัวหอกขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคสช.โดยธรรมชาติอยู่แล้ว
นอกจากนี้ขบวนการจ้องล้มรัฐบาลยังรวมถึงขบวนการใต้ดินที่รอจังหวะสร้างสถานการณ์เมื่อสถานการณ์สุกงอม
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลจริงแต่สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันก็คือ ที่ผ่านมาอำนาจรัฐคสช.เองก็มีแผลเปิดหน้าให้ฝ่ายตรงข้ามรุมขย้ำ โดยเฉพาะที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาวขณะนี้คือกรณีนาฬิกาหรูราคาแพงเกือบ30 เรือน ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม”รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง สลับใส่โชว์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งในรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในฐานะรัฐมนตรี ซึ่งแม้ “บิ๊กป้อม” จะอ้างว่าเป็นนาฬิกาของเพื่อนที่ให้ยืมใส่และคืนไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนข้ออ้างของ “บิ๊กป้อม” ไร้น้ำหนักในสายตาสาธารณชนโดยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข้ออ้างแบบจนตรอกเอาสีข้างเข้าถูท่ามกลางกระแสกดดันให้ “บิ๊กป้อม” แสดงสปิริตลาออกก่อนที่จะลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤติศรัทธาเผานายกฯบิ๊กตู่ อำนาจรัฐคสช. รวมไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดปัจจุบันที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจหรือ “บิ๊กกุ้ย” อดีตลูกน้องคนสนิทของ “บิ๊กป้อม” เป็นประธาน ซึ่งกำลังตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม”อยู่ท่ามกลางการเฝ้าจับตาว่าป.ป.ช.จะสรุปการสอบสวนแบบฟอกขาวให้ “บิ๊กป้อม” อย่างค้านสายตามหาชนหรือไม่
แม้นายกฯบิ๊กตู่จะระบุว่ามีสื่อและกลุ่มการเมืองเฉพาะบางกลุ่มที่มีปัญหาจ้องล้มอำนาจรัฐ แต่ก็ต้องเปิดใจกว้างยอมรับความจริงเช่นกันว่า หากอำนาจรัฐไร้แผลก็ไม่ต้องกลัวใครจ้องล้ม และต้องแยกแยะในกรณีอื้อฉาวนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” จากขบวนการจ้องล้มรัฐบาล เพราะในกรณีของ “บิ๊กป้อม” แม้แต่กองหนุนแนวร่วมนายกฯบิ๊กตู่ก็ยังส่ายหน้าทนอุ้มไม่ไหว หากอำนาจรัฐที่ฝากความหวังว่าจะเข้ามาปฏิรูปประเทศให้ใสสะอาดกลับปล่อยให้มีการทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเสียเองก็ไม่ต่างจากเหล่านักเลือกตั้งน้ำเน่าแบบเดิมๆ ที่กำลังจะขจัดเพื่อให้การเมืองใสสะอาดขึ้น
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี