นับแต่การยึดอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตย(ธนาธิปไตย) มาเป็นเวลากว่า 3 ปี โดยให้สัญญากับประชาชนว่า จะใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะคืนอำนาจอธิปไตยกลับสู่ประชาชนชาวไทย ซึ่งบัดนี้น่าจะพร้อมที่จะดำเนินการตามคำสัญญานั้นแล้ว
เพราะการร่างรัฐธรรมนูญก็สำเร็จเรียบร้อยโรงเรียน คสช. กฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญก็ใกล้เสร็จเรียบร้อย พร้อมที่จะคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนเจ้าของประเทศตามโรดแมปซึ่งได้ประกาศต่อสาธารณชนไว้ รวมทั้งที่ท่านได้ประกาศเมื่อคราวเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาด้วย
จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะตัดสินใจประกาศถึงความพร้อมที่จะคืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวไทยด้วยการกำหนดให้มีการเลือกตั้ง การเตรียมตัวที่จะคืนอำนาจอธิปไตยที่สำคัญ คือ การประกาศยกเลิกคำสั่งที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง เพื่อให้พรรคการเมืองซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของหลักการประชาธิปไตยและกลุ่มการเมืองที่กำลังจะรวมตัวกัน ให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างมีเสรีภาพ ภายใต้กรอบแห่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากล
ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น คนส่วนใหญ่ที่เคยสนับสนุนการปฏิวัติของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะต้องขอบคุณ พลเอกประยุทธ์และคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เปรียบเสมือนได้ช่วยประชาชนที่กำลังถูกวาตภัยทางมหาสมุทร และส่งให้ขึ้นฝั่งด้วยความปลอดภัย
การที่กล่าวว่า จะให้ยกเลิกคำสั่งห้ามกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมือง ทั้งพรรคเก่าที่มีอยู่แล้ว และพรรคที่กำลังจะตั้งขึ้นใหม่ รวมทั้งประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้เตรียมตัวเข้าทำกิจกรรมกับพรรคการเมืองที่ตนสังกัดอยู่หรือแม้แต่จะย้ายพรรค รวมทั้งผู้ที่จะเข้าร่วมกับพรรคทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงผู้ที่จะเตรียมตัวสมัครรับเลือกตั้งด้วย
บุคคลที่จะเข้าร่วมดำเนินการทางการเมืองซึ่งมีทั้งที่จะสมัครรับเลือกตั้ง และผู้ที่จะร่วมทำงานการเมืองในตำแหน่งอื่นๆ จะได้เตรียมตัวทำหน้าที่ ไม่ว่าพรรคที่ตนสังกัดจะได้ร่วมเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ก็ต้องเตรียมพร้อม เพราะการทำงานการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่มา “เล่น” การเมืองตามที่ชอบพูดกัน เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ
การเมืองมีบุคคล 2 ประเภท คือ ผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครอง โดยเฉพาะการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นการปกครองในรูปแบบที่มีการวางกติกาการปกครองไว้แน่นอน การเข้าสู่อำนาจมีขบวนการที่เปิดโอกาสให้คนในสังคมนั้น มีโอกาสเท่าเทียมกัน กติกาดังกล่าวคือ “รัฐธรรมนูญ” การปกครองระบอบประชาธิปไตยดังกล่าว ทั้งผู้ปกครองคือรัฐบาล และผู้ถูกปกครอง คือ ประชาชน จะต้องรู้จักวิธีประนีประนอม ซึ่งถือเป็นศิลปะสำคัญอย่างยิ่งในการปกครองระบอบประชาธิปไตย และสถาบันที่เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง คือ “พรรคการเมือง” ซึ่งรากฐานที่สำคัญ คือ กลุ่มพลัง หรือกลุ่มผลประโยชน์ รวมทั้งมติมหาชน
สำหรับประเทศไทย เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชนแล้ว ถ้ายังต้องการที่จะสานต่อนโยบายของตนภายใต้บรรยากาศประชาธิปไตย นอกจากมีสมาชิกสภาจากการแต่งตั้งแล้ว ก็อาจตั้งพรรคการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อสานต่องานที่ยังค้างอยู่ ก็สามารถทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ดังกล่าวแล้ว
สรุปรวมความว่า เพื่อให้บรรยากาศทางการเมืองก้าวสู่สังคมประชาธิปไตยต่อไป จึงสมควรที่จะดำเนินการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างจริงจังก่อนที่บรรยากาศจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี