ประชาธิปไตยไทยสัมมานิยม
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
ประชาธิปไตยไทยสัมมานิยมคือการเมืองที่จะพาชาติไทยรุ่งเรือง
“นิยม” หมายถึงชื่นชอบซึ่งได้ทั้งดีและเลว เช่น วัยรุ่นนิยมเสพสี่คูณร้อยที่เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง หรือไฮโซไฮซ้อนิยมใช้ของนอกราคาแพง ซึ่งทั้งสองตัวอย่างที่ยกมานี้ เป็นความนิยมในทางที่ผิด ดังนั้นประชาธิปไตยไทยนิยมจึงเป็นได้ทั้งดีและเลว ขึ้นอยู่กับผู้ครอบครองอำนาจ จะใช้อำนาจเพื่อประเทศและประชาชนก็เป็นประชาธิปไตยที่ดี แต่ถ้าใช้เพื่อตนและพวกพ้องก็เป็นประชาธิปไตยที่เลว
ประเทศไทยตั้งแต่พ.ศ.2475 มา อำนาจที่ใช้ปกครองมีทั้งประชาธิปไตยและเผด็จการ ซึ่งเกือบ 100% เป็นการใช้อำนาจที่เลว ทำเพื่อตนและพวกพ้องมากกว่าประเทศและประชาชน โดยเฉพาะเมื่อมีการเลือกตั้งหรือที่เรียกว่า “ประชาธิปไตย” เป็นการใช้อำนาจเพื่อตนและพวกพ้องก่อนประชาชนทั้งสิ้น แต่ไม่ว่ามีหรือไม่มีประชาธิปไตย การเมืองไทยก็เป็นแบบ “ทีฮูทีอิท-ทีเอ็งข้าไม่ว่า
ทีข้าเอ็งอย่าโวย” ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร มิตรภาพหรืออริภาพที่เกิดขึ้นเพราะแบ่งปันผลประโยชน์ลงตัวเท่านั้น
DSI สมัยทรราชกับ ป.ป.ช.สมัยนาวาสามแป๊ะนั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ว่ามีหรือไม่มีประชาธิปไตย ก็ไม่แตกต่างกัน ประชาธิปไตยไทยนิยม ซึ่งเกิดจากการสนธิคำสองคำ “อธิปไตยของประชาชนไทย+ ประชานิยม” หมายถึงเลือกตั้งแบบไทยๆ ที่มีรัฐธรรมนูญแบบไทยๆ และเรื่องขาดไม่ได้ก็คือประชานิยม
เรื่องแรก การเลือกตั้งแบบไทยๆ เช่นเลือกตั้งสั้นเท่าหู เพราะมีมหรสพสั้นเท่าหูชักชวนคนไทยไปเลือกตั้งเพราะชอบนักแสดงท่าสะพานโค้งที่สั้นเท่าหูมากกว่าจิตสำนึกรับผิดชอบเรื่องส่วนรวมของประเทศชาติ ซึ่งก็ไม่แตกต่างอะไรกับการขายสิทธิหรือใช้อำนาจเกินขอบเขตของคณะกรรมการฯ เช่น ขานเบอร์ผิดโดยเจตนา เพราะต้องการให้ผู้สมัครที่ตนรับอามิสสินจ้างได้รับชัยชนะ
เรื่องที่สองรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศ มิได้เกิดขึ้นโดยประชาชน เพราะเกือบทุกฉบับเขียนขึ้นโดยคณะบุคคลที่คณะรัฐประหารมอบหมาย จะมีไม่กี่ครั้งที่เกิดจากตัวแทนของประชาชน แต่ก็มิได้สนองความต้องการประชาชน เพราะตั้งใจสนองความต้องการพรรคและนักการเมืองที่ครองอำนาจในขณะนั้น ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงมิใช่เป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน แต่เป็นเพียงเครื่องมือการใช้อำนาจเท่านั้น เช่น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่อ้างว่าบัตรเลือกตั้งทุกใบมีความหมาย แต่ “โหวตโน” กลับไร้ความหมาย เท่ากับบังคับให้ประชาชนต้องเลือกสินค้าที่เสนอตัว ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ รัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ ที่มีมานั้นให้อำนาจแก่ประชาชนไม่เพียงพอ ทำให้ไร้การถ่วงดุลอำนาจ ประชาชนมีเพียงสิทธิการเลือกเท่านั้น หลังเลือกตั้งก็ไร้สิทธิใดๆ ที่จะควบคุม ถอดถอน ฟ้องร้อง นักการเมืองและพรรคการเมืองสามานย์
ประชาธิปไตยไทยนิยมที่แป๊ะเล็กประกาศนำมาใช้นั้น เป็นการใช้อำนาจแบบ “วันเวย์ ติกเก็ท” ไปได้แต่กลับไม่ได้ เพราะเป็นการใช้อำนาจแบบทหาร “บนสู่ล่าง” ไม่มีการทบทวนไม่ว่าดีหรือเลว ดังนั้นประชาชนก็เป็นเพียง“ทาสี-ทาสา” เมื่อไร้การถ่วงดุลอำนาจแล้วจะเรียกว่าอำนาจของประชาชนได้อย่างไร โดยเฉพาะเมื่ออำนาจประชาชนในการเลือกนายเป็นอำนาจเพียง 2 ใน 3 เพราะสว. 250 นั้นประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก เชื่อว่าต้องมีการแทรกแซงการเลือกตัวแทนกลุ่มวิชาชีพต่างๆ แน่นอน
นิยมแตกต่างกับสัมมา เพราะนิยมนั้นมีทั้งนิยมสัมมา หรือนิยมในเรื่องที่ถูกต้องหรือดีงาม และนิยมมิจฉาซึ่งเป็นความชอบในทางที่ผิด เช่น นิยมเสพยาเสพติด หรือนิยมประกอบอาชีพทุจริต มิจฉาชีพ เช่นเป็นโจร เป็นสิบแปดมงกุฎฯ ดังนั้นประชาธิปไตยไทยนิยมจึงเป็นได้ทั้ง “สัมมานิยม” และ “มิจฉานิยม” เช่นการขายสิทธิ ชื่นชอบแต่ของฟรี แบบได้เป็นดี แบมือรอรับแจก หนักไม่เอา เบาไม่สู้ แล้วชาติไทยใครจะพัฒนา ต้องพึ่งแต่แรงงานต่างด้าวเท่านั้นหรือ
ดังนั้นประชาธิปไตยที่จะใช้เป็นหลักของการปกครองนั้นจะต้องเป็นประชาธิปไตยไทยสัมมานิยมเท่านั้น และจะต้องไม่ใช่การใช้อำนาจแบบ “วันเวย์ ติกเก็ท” เพราะประชาชนมิใช่ทหารเกณฑ์
โกการแมว
ตอบ คุณโกการแมว
ประชาธิปไตยไทยนิยมนาวาสามแป๊ะยังไม่รู้จะเป็น “สัมมานิยม” หรือ “มิจฉานิยม” แต่ผลงานเกือบ 4 ปี เป็นอย่างไร แถมถนัดแต่เล่น “ลับลวงพราง” ทำให้ผมก็ไม่มั่นใจเลยว่าจะมาแนว “สัมมา”
วิภาวดี หลักสี่
พาเที่ยวหลบร้อนแย่งชิงอำนาจ
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ ที่นับถือ
ขออนุญาตหลบความวุ่นวายจากเกม “แย่งชิงอำนาจ” ออกมานั่งดูเขาวิวาทกันน่าจะเหมาะกว่าวันนี้เอาเรื่องที่บันทึกไว้ช่วงที่ไปพักผ่อน กลับมาย้อนถึงวันวานคงจะดีที่สุด อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่วันสงกรานต์ พี่น้องทั้งหลายคงกลับบ้านไปขอพรพ่อแม่เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนใครจะไปท่องเที่ยวลองเหลียวมองสิ่งที่ผมแนะนำด้วย และเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย ให้นโยบายรัฐบาลได้เป็นไปดังที่มุ่งมั่น ไม่ลังเลที่จะช่วยสานฝันให้เป็นจริง รับรองไม่มีออกนอกเส้นทางไม่ปรารถนาความบาดหมางใดๆ ทั้งสิ้น อยากเห็นชาติบ้านเมืองเกิดความสุขสงบ การ “สู้รบ” จึงไม่อยู่ในความคิด
-สุดแผ่นดินถิ่นไทยไปมาแล้ว ตลอดแนวแหลมทองงามผ่องใส
ชุดแผ่นดินถิ่นอื่นไม่ชื่นใจ ชีวิตไทยอย่างเราเขาไม่มี
-มีดอยใดไหนสู้“ภูชี้ฟ้า” แม้“ดอยผาตั้ง”ก็ไม่ขอเสี่ยง
กี่หมื่นคำน้ำถ้อยที่ร้อยเรียง ไม่พอเพียงคำชมได้สมจริง
-บางสะพาน,ปราณบุรีของดีเยอะ มากันเถอะเที่ยวกันวันฟ้าใส
“เมืองประจวบคีรีขันธ์”นั้นวิไล ได้เคยไปเที่ยวมาถึงกล้าชวน
จากแควน้อย,แควใหญ่สู่ไทรโยค ไร้ทุกข์โศกเสื่อมทรามความสับสน
“เอราวัณ”ผสานสุขทั่วทุกคน ใครได้ยลก็ไม่อยากจะจาก“กาญจน์”
นี่คือความสวยงามที่ได้ไปเห็นมา อยากให้ท่านได้ลองไปทัศนากันดูบ้าง
-เบิ่ง“พิมาย,ไทรงาม”วาบหวานจิต ภาพยังติดตามเตือนเหมือนเพิ่งเห็น
โอ้พิมาย-ไทรงามความร่มเย็น ยังคงเป็นมิตรแท้แก่ทุกคน
-“คำชะอี,นาแก”เคยแลเห็น “พญาเย็น,ภูพาน”ผ่านมาทั่ว
อดีตกาลนานมาแสนน่ากลัว ความหมองมัวเดี๋ยวนี้ไม่มีเลย
-ดังวิมานผ่านฟ้ามาสถิต แสนวิจิตรอลังการสุดขานไข
“พนมรุ้ง”รุ่งเรืองลือเลื่องไกล คือหนึ่งในของดี“บุรีรัมย์”
-พระธาตุหนองสามหมื่นพาชื่นจิต ช่วยดับพิษทุกข์ร้ายจนหายสิ้น
ผ่าน“ผาเกิ้ง”เริงรื่นอกดังนกบิน งานท้องถิ่นแดนใดเท่า“ชัยภูมิ”
อยากให้ทุกๆ คนมีความสุขกับการท่องเที่ยว มีโอกาสก็หาทางเก็บเกี่ยวมันซะ
-ที่“เทพา,นาทวี”นั้นดียิ่ง ที่“สทิงพระ”ก็ไม่ย่อหย่อน
ที่“หาดใหญ่”ใช่เลยเคยมานอน แสนอาวรณ์“สงขลา”ยามลาไกล
-โอ้อ่าวนาง,ถ้ำเสด็จเหมือนเกล็ดแก้ว งามเพริศแพร้วยิ่งล้ำค่าเสกสรร
“สุสานหอย,ถ้ำเสือ”เหลืออัศจรรย์ ใจผูกพันถึง“กระบี่”ครั้งที่มา
-“สตูล”เด่นเป็นสง่าน่าท่องเที่ยว ที่เคยเปลี่ยวก็หายมลายสูญ
“ตะรุเตา”เคยขยาดขาดเกื้อกูล เดี๋ยวนี้พูนเพิ่มทวีดีคบครัน
-ไปเที่ยว“วัดร่องขุ่น”อบอุ่นแท้ ตะลึงแลสวยสมคำพร่ำกล่าวขาน
ถึงว่าใครได้เห็นเป็นต้องอุทาน ดุจวิมานเคลื่อนไหวมาให้ชม
ขอฝากไว้เพียงเท่านี้นะครับ โอกาสหน้าจะนำบทกลอนที่บันทึกไว้ระหว่างที่ได้ไปเที่ยวมาให้อ่านกันอีก กลอนอีกหนึ่งบทข้างท้ายนี้คือความปรารถนาดีที่ผมมีต่อบ้านเมือง ขอฝากไว้ด้วย
ท้องทะเลป่าเขาของเราสวย
ขอจงช่วยกันพิทักษ์และรักษา
ขอบ้านเมืองเรางดงามอร่ามตา
สมคุณค่าเลิศล้ำ อย่าทำลาย
สมควร บุญสมเกียรติ
ตอบ คุณสมควร บุญสมเกียรติ
เที่ยวเพลินไปกับคำกลอนของคุณเลยครับ ขอบคุณยิ่ง
วิภาวดี หลักสี่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี