ผมยังจำเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง เพราะกระจายผลประโยชน์ให้ทุกๆ คน โดยเฉพาะระดับรากฐาน ทำให้ทุกคนได้ประโยชน์ ลดความเหลื่อมล้ำ มีความรัก นับถือซึ่งกันและกันไม่ใช่วัดจากใครทำรายได้สูงสุดหรือที่เรียกว่า วัตถุนิยมที่เป็นความโลภ
ดังตัวอย่างให้เห็นอีกหลายเรื่อง
เรื่องแรก เนื่องมาจากการประชุม Davos ผมได้ใช้ทฤษฎี 3 วงกลม ประยุกต์กับบทบาทของ Trump พบว่า
Trump ต้องการแสดงบทบาท 2 อย่าง คือ
-บทบาทผู้นำโลก
-แรงจูงใจของเขา ต้องให้โลกเห็นว่า เขาทำงานสำเร็จ จากการวัด เศรษฐกิจอเมริกาโต มีศักยภาพการแข่งขันสูง การว่างงานลดลง ลดภาษี ตลาดหุ้นขยายตัว ว่า นี่แหละความสำเร็จจากฝีมือฉัน
น่าเสียดาย สิ่งที่ Trump พูดทั้งหมดนั้นคือ นโยบายทุนนิยมสามานย์ที่เน้นวัตถุนิยม เอาปริมาณมากกว่าคุณภาพ ไม่ใช่การกระจายผลประโยชน์ให้เท่าเทียมกับลดความเหลื่อมล้ำ
สำคัญที่สุดคือ Trump ไม่ได้มองเรื่องความยั่งยืนของโลกใบนี้เลย มองแค่อเมริกาว่า จะใหญ่โตอย่างไร
ถ้าหากเขาเป็นผู้นำที่ฉลาดและเก่ง การแสดงให้เห็นว่าทำอเมริการุ่งเรืองแล้ว โลกใบนี้ได้อะไร
ทำนองเดียวกับคำกล่าวของ Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะไม่พูดถึงประเทศของเขาว่า France First แต่จะพูดว่า Planet First ควรจะสุมหัวกันว่า จะดูแลโลกใบนี้อย่างไรให้อยู่รอดในระยะยาว
ในอนาคตน่าจะมีผู้แทนของประเทศไทยสักคน อาจจะเป็น ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย หรือ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ไปพูดให้นักธุรกิจในเวทีโลก เช่น ระดับการประชุม Davos ฟังบ้างเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง และจะต้องให้นักธุรกิจระดับโลกเข้าใจว่า ทุนนิยมสามานย์ ประกอบไปด้วย ความโลภ (Greed)มีแต่สร้างปัญหาอย่างมากในอนาคต
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจมาก การประชุม Davos มีคนวิจารณ์ Trump ว่า อวดอเมริกาว่ามีศักยภาพ Trumpควรจะมีวิสัยทัศน์บ้างว่า แทนที่คิดทำอะไรให้โลกนี้บ้าง แต่เขากลับต่อต้าน ไม่เห็นด้วยกับภาวะโลกร้อน เป็นที่น่าทุเรศอย่างมากแล้ว
มีอีก 2 ประเด็นเกี่ยวกับประเทศไทย คือ ถ้ามีการเลือกตั้ง และเรายังได้รัฐบาลที่เป็นเผด็จการรัฐสภา ที่เมื่อได้อำนาจแล้ว ใช้อำนาจในทางที่ผิด ดังเช่นในอดีต กรณีจำนำข้าวทุกเม็ด
-ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทีเดียว 300 บาท บางจังหวัดขึ้นถึง100% สร้างปัญหาให้แก่ SMEs มาก ยุคนายกฯประยุทธ์ขึ้นสูงสุดแค่ 22 บาท นายจ้างยังบ่นแทบตาย
หรือให้เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ทำไมไม่ให้เงินเดือนอาชีวะสูง คนจะได้เรียนอาชีวะมากๆ ปัจจุบันปริญญาตรีตกงานมาก ประเทศยังขาดแคลนอาชีวะ ให้จับตาพรรคการเมืองบางพรรคที่เน้นประชานิยมที่ไปสู่ทุนนิยมสามานย์หรือการเมืองสามานย์ เช่น นิรโทษกรรมสุดซอย เป็นต้น
เรื่องทุนนิยมสามานย์ของ Trump ที่คุยไม่หยุด ในความสำเร็จด้านนโยบายเศรษฐกิจอเมริกาโดยเฉพาะ Trump ไม่ชอบคนผิวดำ แต่ไม่วายคุยว่า ยุคเขา อัตราการว่างงานของคนผิวดำในอเมริกาต่ำสุด ซึ่งอาจจะจริง
แต่ยังมีคนผิวดำบางคนบอกว่า วัดทุกอย่างเป็นปริมาณอย่างเดียวไม่ได้ ต้องวัดว่า Trump ให้ความนับถือ (Respect)ให้ความรัก ให้ศักดิ์ศรีกับคนผิวดำหรือเปล่า ไม่ใช่ยกตัวเลขบางตัวมาอ้างเท่านั้น
ผมชอบใจมากที่ผู้แทนซึ่งเป็นนักร้องชาวผิวดำว่าสิ่งที่คนในอเมริกา ต้องการผู้นำคือ
-การยกย่องนับถือกัน Respect
-ให้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
คล้ายกับทฤษฎี HRDS ของผมประกอบด้วย
- Happiness มีความสุข
- Respect ให้เกียรติกัน
- Dignity มีศักดิ์ศรี
- Sustainability ทำให้ยั่งยืน
และสุดท้ายต้องมีความรักต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน
คนผิวดำปัจจุบันเห็นว่า ผู้นำเช่น Trump มีความเข้าใจตื้นๆ มองทุกอย่างเป็นวัตถุนิยมโดยอ้างตัวเลขเป็นเครื่องวัดแต่ศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 คือ ทุนนิยมที่มีศีลธรรม (Moral Capitalism)ไม่ใช่ทุนนิยมสามานย์ ในประเทศไทย ซึ่งหากมีเลือกตั้ง ทุนนิยมสามานย์อาจจะกลับมาอีก
ดูบิ๊กตู่ด้วยความเป็นกลางให้ความสำคัญ ยกย่องคนฐานรากอยู่เสมอ รับฟังและแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ เน้นทุนนิยมศาสตร์พระราชา เช่นผลงานของศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งถ้าแก้ปัญหานาฬิกาบิ๊กป้อมได้ คนไทยหรือกองหนุนบิ๊กตู่ก็อาจจะมีเพิ่มขึ้นมาให้การสนับสนุนต่อไปอีก
สุดท้ายนี้ผมยังมีหลักสูตรสอนปริญญาเอก รุ่นที่ 16 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาเป็นอาทิตย์ที่ 2 ประทับใจมาก โดยจากการให้วิเคราะห์การปฏิรูปการศึกษา มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ ทุกๆ อาทิตย์ ผมจะนำข้อสรุปของปริญญาเอก รุ่นที่ 16 มาแบ่งปันและสรุปให้ผู้อ่านได้ทราบทาง blog ของ Chiraacademy.com
ข้อสรุปเรื่องการปฏิรูปการศึกษา
1.ควรจะดูแลนักเรียนที่ตกหล่นระหว่างทาง ต้องมีนโยบายพิเศษเพราะถ้าเขาไม่เรียน จะสร้างปัญหาสังคมมากมาย ควรจะมีนโยบายชัดเจนว่า จะแก้อย่างไร
2.การวัดผลไม่ใช่มีแค่ผลงานและรางวัล ควรจะวัดผลเรื่องการเรียนการสอน มากกว่าแค่มีตำแหน่งและเงินประจำตำแหน่ง
3.น่าจะสร้างเครือข่ายการศึกษาให้มากขึ้นโดยมีบุคลากรจากข้างนอกมาร่วมงานกับภาครัฐ
4.การเรียนต้องกระตุ้นให้คิดเป็น เน้นการเรียนที่นำไปใช้มากกว่าการท่องจำ ทฤษฎี 4L’s และการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียน
-Learning Methodology มีวิธีการเรียนรู้ที่ดี
-Learning Environment สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้
-Learning Opportunities สร้าง/เกิดโอกาสจากการเรียนรู้
-Learning Communities สร้าง/เกิดชุมชน
แห่งการเรียนรู้
สุดท้ายข้อเสนอใดๆ ถ้ามีอุปสรรคต้องทำให้สำเร็จทำอย่างต่อเนื่อง ต่อเนื่องและต่อเนื่องครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี